อย่าสับสน รองเท้าทรงบัลเลต์ VS Mary Jane ใกล้เคียง แต่ไม่เหมือนกัน

อย่าสับสน รองเท้าทรงบัลเลต์ VS Mary Jane ใกล้เคียง แต่ไม่เหมือนกัน
รองเท้าทรงบัลเลต์ และ Mary Jane สองคู่คลาสสิกที่ดูเผินๆ คล้ายกัน แต่ซ่อนเรื่องราวและเสน่ห์ที่แตกต่าง

ตอนนี้ทรงรองเท้าที่นิยมอย่างมากในโลกของแฟชั่นของผู้หญิง และเรียกได้ว่า หันไปทางไหนก็เจอ นั่นคือ รองเท้าทรงบัลเลต์ และ Mary Jane แต่หลายคนมักจะเข้าใจผิดว่าเป็นรองเท้าแบบเดียวกัน  ด้วยรูปร่างที่มีความใกล้เคียง หุ้มส้น เตี้ย แบน ใส่สบาย แต่ความจริงแล้ว ทั้งรองเท้าทั้งสองแบบมีเอกลักษณ์และประวัติที่ต่างกันชัดเจน

รองเท้าทรงบัลเลต์ หรือ Ballet Flats เป็นรองเท้าได้รับแรงบันดาลใจมาจากวงการเต้นบัลเลต์ของนักเต้นจริงๆ อย่าง “มารี กา มาร์โก” นักเต้นชาวฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 18 ซึ่งเธอเป็นคนแรกที่นำรองเท้าไม่มีส้นมาใส่เต้นรำ และหลังจากการปฏิวัติฝรั่งเศส เป็นจุดเริ่มที่ทำให้รองเท้าทรงแบนที่เราคุ้นเคยได้เข้าไปแทนที่รองเท้าส้นสูงจนมาถึงปัจจุบัน

ความนิยมเพิ่มขึ้นในปี 1947 ไปอีกเมื่อนักแสดงชื่อ อย่าง Brigitte Bardot ได้หยิบรองเท้าบัลเลต์ที่ออกแบบโดย Rose Repetto นักออกแบบรองเท้าชาวฝรั่งเศส หลังจากนั้นรองเท้าบัลเลต์หลากหลายแบบก็ได้รับความนิยมและกลายเป็นเทรนด์แฟชั่น และกระแสรองเท่าทรงนี้กลับมาร้อนแรงอีกครั้งในปี 1957 เมื่อ Audrey Hepburn นักแสดงและนางแบบชาวอังกฤษ ได้สวมรองเท้าบัลเลต์ในภาพยนตร์เรื่อง Funny Face ซึ่งถือเป็นความสำเร็จทั้งในด้านศิลปะและแฟชั่นที่ตัวละครสวมใส่ 

รองเท้าทรงนี้มีเสน่ห์อยู่ที่ความเรียบง่ายและใส่ได้กับทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นชุดลำลอง กางเกงยีนส์ หรือเดรส ก็สามารถเข้ากันได้อย่างลงตัว เหมาะกับคนที่ชอบสไตล์มินิมอล ใส่สบาย เดินได้ทั้งวัน ความโดดเด่นอยู่ที่ทรงแบนราบ ปลายหัวรองเท้ามีความมน เวลาใส่แล้วให้ความรู้สึกกระชับ คล่องตัว บางคู่ยังสามารถตกแต่งด้วยโบว์เล็กๆ ที่ปลายเท้าเพื่อเพิ่มความหวานและน่ารัก ขณะเดียวกันยังสามารถปรับให้ดูมีความหรูหราได้

ต่างจาก Mary Jane รองเท้าที่มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ปลายยุคศตวรรษที่ 19 จนถึงต้นศวรรษที่ 20 ที่มีจุดเด่นคือ “สายรัด” ที่พาดข้ามรองเท้าตรงบริเวณหัวรองเท้า และจะมีกลิ่นอายความเป็นวินเทจนิดๆ ทำให้รองเท้าสวมใส่ได้กระชับและไม่หลุดง่าย เดิมทีถูกเรียกว่า bar shoes หรือ doll shoes ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น Mary Jane ตามตัวการ์ตูนที่ชื่อ Buster Brown ที่เผยแพร่ในปี 1902 

รองเท้าทรงนี้ถูกดัดแปลงมาเรื่อยๆ จากรองเท้าของเด็กหญิงสู่รองเท้าของหญิงโต โดยเฉพาะในยุค 1920s รองเท้าคู่นี้ได้นิยมนำมาใส่คู่กับกระโปรงสั้นของสาวๆ ผู้ที่สวมใส่จะได้ลุคดูสุภาพ เรียบร้อย แต่ยังมีความเป็นแฟชั่น เวลาสวมใส่จะดูมีความมั่นคงมากขึ้นเพราะมีสายรัดที่แน่นหนากว่าทรงบัลเลต์ 

แต่ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าบัลเลต์ ที่สร้างลุคสุดมินิมอลให้กับผู้สวมใส่ หรือ Mary Jane ที่เติมลุคให้ดูมีความสุภาพและวินเทจ ทั้งสองแบบต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะที่หยิบมาสวมใส่ได้ในหลายโอกาส และนี่คือเหตุผลว่าทำไมรองเท้าทั้งสองจึงยังคงอยู่ในกระแสแฟชั่นเสมอ
 

TAGS: #Trends #Ballet #MaryJane #รองเท้าบัลเลต์ #รองเท้าแมรี่เจน