การหยุดพักสำคัญกว่าที่คิด ช่วยเรื่องการตัดสินใจได้ดี

การหยุดพักสำคัญกว่าที่คิด ช่วยเรื่องการตัดสินใจได้ดี
เมื่อเวลาสามารถกำหนดการตัดสินใจคนได้ การที่ผู้พิพากษาได้หยุดพักหรือไม่และได้พักเมื่อไหร่ กลับมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการตัดสินว่าใครสักคนควรเป็นอิสระหรือควรอยู่ในคุกต่อไป

เวลานั้นสำคัญไฉน เมื่อเวลาสามารถกำหนดการตัดสินใจคนได้ อย่างที่ แดเนียล เอช. พิงค์ นักเขียนชื่อดังชาวอเมริกันได้อธิบายไว้ในหนังสือ When: The Scientific Secrets of Perfect Timing ว่า ถ้าคุณบังเอิญได้ขึ้นไปยืนต่อหน้าคณะกรรมการผู้พิจารณาการปล่อยตัวโดยมีการคุมประพฤติก่อนการหยุดพัก แทนที่จะเป็นหลังการหยุดพัก คุณมีแนวโน้มที่จะติดคุกไปอีกหลายปี 

สาเหตุไม่ใช่เพราะข้อเท็จจริงของคดี แต่เป็นเพราะช่วงเวลาของวันต่างหาก นักวิจัยบอกว่าพวกเขาไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดว่าอะไรเป็นตัวผลักดันปรากฏการณ์นี้

มันอาจเป็นเพราะการกินอาหารช่วยฟื้นฟูกลูโคสในเลือดของผู้พิพากษา และติมเต็มพลังทางความคิด อาจเป็นเพราะการได้ปลีกตัวจากบัลลังก์ครู่หนึ่งทำให้พวกเขาอารมณ์ดีขึ้น หรืออาจเป็นเพราะผู้พิพากษารู้สึกเหนื่อยล้าและการพักผ่อนช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าของพวกเขา

การที่ผู้พิพากษาได้หยุดพักหรือไม่และได้พักเมื่อไหร่ กลับมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการตัดสินว่าใครสักคนควรเป็นอิสระหรือควรอยู่ในคุกต่อไป และข้อเท็จจริงที่ว่าการหยุดพักมักช่วยบรรเทาระยะดิ่งลงก็มีแนวโน้มประยุกต์ใช้ได้กับ "การตัดสินใจหรือการลงความเห็นครั้งสำคัญที่ต้องทำติดต่อกันในเรื่องอื่นๆ"

ดังนั้นถ้าระยะดิ่งลงคือยาพิษ และการหยุดพักเพื่อเติมพลังคือยาถอนพิษ การหยุดพักเหล่านั้นควรมีลักษณะอย่างไร

พักบ้างดีกว่าไม่พักเลย
ถ้าเราติดอยู่กับการทำภารกิจอย่างหนึ่งนานเกินไป เราก็จะมองไม่เห็นเป้าหามยที่พยายามจะบรรลุผล นี่เป็นกระบวนการที่เรียกว่า "พฤติกรรมความเคยชิน" การหยุดพักช่วงสั้นๆ ช่วยให้เรารักษาสมาธิ และทำให้เรากลับมายึดมั่นกับการบรรลุเป้าหมายอีกครั้ง

เดสก์ไทม์อ้างว่าได้พบอัตราส่วนที่ดีที่สุดของการทำงานและการพักผ่อน งานวิจัยพวกเขาสรุปไว้ว่าคนที่มีประสิทธิภาพสูงทำงานเป็นเวลา 52 นาที จากนั้นหยุดพัก 17 นาที

ขยับร่างกายดีกว่านั่งเฉยๆ
การพักเดินเล่น 5 นาทีทุกชั่วโมงช่วยเพิ่ระดับพลังงาน ทำให้สมาธิเฉียบคม อีกทั้งยังทำให้อารมณ์ดีตลอดทั้งวัน ลดความเหนื่อยล้าในช่วงบ่ายแก่ๆ

เข้าสังคมดีกว่าปลีกตัว
การหยุดพักเพื่อพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานในเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องงานช่วยลดความเครียดและทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้มากกว่าการหยุดพักเพื่อใช้ความคิด หรือหยุดพักเพื่อโภชนาการ

ข้างนอกดีกว่าข้างใน
การมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อชื่นชมธรรมชาติถือเป็นการหยุดพักอันแสนสั้นที่ดีกว่าการมองผนังหรือคอกทำงาน แม้แต่การหยุดพักในร่มท่ามกลางพืชพรรณก็ยังดีกว่าการหยุดพักในร่มท่ามกลางพื้นที่ที่ไม่มีสีเขียว

ตัดขาดอย่างสิ้นเชิงดีกว่าตัดขาดบางส่วน
เมื่อเราหยุดพัก เรามักพยายามรวมการหยุดพักผ่อนเข้ากับกิจกรรมอื่นที่ต้องใช้ความคิด อาจจะเป็นการเปิดดูข้อความ พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเรื่องงาน การทำแบบนั้นถือว่าผิดพลาด

การหยุดพักแบบปลอดเทคโนโลยี "ช่วยเพิ่มความกระฉับกระเฉงและลดความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ได้ด้วย" หรือที่นักวิจัยคนอื่นๆได้กล่าวว่า "การตัดขาดจากงานทางจิตใจนอกเหนือจากการตัดขาดจากงานทางร่างกายนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการนึกถึงงานที่ต้องทำต่อในระหว่างที่หยุดพักอาจก่อให้เกิดความตึงเครียด"

TAGS: #สุขภาพจิต #การพักผ่อน #การทำงาน #เวลา