จากจอมโจรยุค 70 สู่ตำนานที่ถูกเล่าใหม่ไม่รู้จบ “ตี๋ใหญ่” ชายที่ยืนอยู่นอกกฎหมาย แต่ยังทวงพื้นที่แห่งความทรงจำผ่านหน้าจอได้ทุกครั้ง
เมื่อเรื่องราวของ “ตี๋ใหญ่” จอมโจรในตำนานที่โด่งดังในช่วงยุค 70 ได้ออกสู่สายตาผู้ชมผ่าน Netflix ก็ได้ไต่ขึ้นอันดับ 1 ความนิยมใทยหลังสตรีมเพียง 24 ชั่วโมง และทะยานขึ้นสู่อันดับ 6 จากทั่วโลก
ชื่อของ ตี๋ใหญ่ หรือ “กรประเสริฐ ช่างเขียน” ถูกนำมาฉายภาพวนซ้ำอยู่ในวงการบันเทิงไทย กลายเป็นอีกหนึ่งบทบาทอมตะที่กลับมากี่ครั้งก็สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้ทุกเมื่อ ด้วยเรื่องราวของชีวิตที่ดำเนินไปในช่วง 2516-2524 กว่าจะได้ภาพลักษณ์ของจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ ที่กล้าได้กล้าเสียและเด็ดขาด จนมีคนติดสอยห้อมตามเป็นลูกสมุนเต็มไปหมด
ไม่เพียงแต่ความโดดเด่นทางด้านวีรกรรมจนกลายเป็นอาชญกรหมายเลข 1 เท่านั้น แต่ด้วยตัวตนสุดเท่ที่สะท้อนออกมาผ่านการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ เขามักใส่เสื้อเชิ้ต การเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบคอนเวิร์ส และสวมแว่นตาตลอดเวลา ประกอบกับใบหน้าที่ว่ากันว่า หล่อเหลาเอาการ ทำให้เขามีภรรยาหลายคน จนได้อีกฉายาว่า จอมโจรเจ้าชู้
ตี๋ใหญ่เฉิดฉายอยู่บนเส้นทางแห่งจอมโจรได้ไม่กี่ปี ก่อนเสียชีวิตในปี 2524 แต่นั่นกลับไม่ใช่จุดจบที่ชัดเจนเท่าไรนัก เพราะบางเสียงก็เล่ากันว่า จริงๆ แล้วเขายังไม่ตาย ขณะที่บางกระแสก็บอกว่า เขาหลบหนีไปอยู่เมืองนอก แต่ไม่ว่าเรื่องจริงจะเป็นอย่างไร ก็ไม่มีใครได้เคยเจอเขาอีกเลย
ความน่าสนใจของตำนานแห่งอาชญากรไทย ทำให้วงการภาพยนตร์และละครไม่พลาดที่จะนำเรื่องราวของเขามาถ่ายทอดสู่หน้าจอให้กับผู้ชมได้รับชม โดยหลังจากเขาเสียชีวิตไปได้ไม่นาน ในปี 2528 บทชีวิตของเขาก็ได้ถูกสร้างขึ้นเป็นละครครั้งแรก เนรมิตขึ้นโดย บริษัท กันตนา จำกัด ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 โดยมี “ฉัตรชัย เปล่งพานิช” รับบทเป็นตี๋ใหญ่ และด้วยฝีมือการแสดงของเขา ทำให้เขาคว้ารางวัลนำฝ่ายชายดีเด่น ในงานเมขลาในปีเดียวกัน
ผ่านไป 14 ปี บทของตี๋ใหญ่ก็ได้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง จากผลงานของ บริษัท อาร์เอส จำกัด โดยมี “หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์” รับบทตี๋ใหญ่ ในปี 2542 เป็นอีกหนึ่งเวอร์ชั่นที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี และกลายเป็นอีกหนึ่งผลงานสร้างชื่อให้กับ หนุ่ม ศรราม เลยก็ว่าได้
หลายปีที่ผ่านมายังมีตี๋ใหญ่อีกหลายเวอร์ชั่นที่ถูกรีเมค ต่อยอดเป็นละครและภาพยนตร์ในมุมมองที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น “แบงค์ ปวริศร์ มงคลพิสิฐ” รับบทตี๋ใหญ่ในภาพยนตร์ "ตี๋ใหญ่ จอมขมังเวทย์" ปี 2554 ตามด้วย “ตี๋ใหญ่ ดับ ดาว โจร" ปี 2559 ที่ได้ “เต๋า สมชาย เข็มกลัด” มารับบทเป็นตี๋ใหญ่ ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับที่ “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ได้รับบท “เล้ง (ตี๋ใหญ่)” ในละครเรื่อง “เพชฌฆาตดาวโจร” และ “น้ำ รพีภัทร เอกพันธ์กุล” กับบทตี๋ใหญ่ในละครเรื่อง “มือปราบเหยี่ยวดำ” ในปี 2561
จนในปีนี้เองที่บทบาทนี้ได้ถูกส่งต่อไปถึงมือ อาโป ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ นักแสดงรุ่นใหม่ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของดาวโจรในภาพยนตร์เรื่อง “ตี๋ใหญ่ ฤกษ์ดาวโจร” ที่ออกฉายทาง Netflix โดยจะเป็นเรื่องราวในมุมมองที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะไม่เคยได้เห็นมาก่อน จนอาโป ณัฐวิญญ์ ถึงกับเอ่ยปากว่า “นี่คือบทที่หนักที่สุดเท่าที่เคยทำมา”
จากตี๋ใหญ่ ที่เป็นเพียงชื่อของโจร กลับกลายเป็นตำนานที่เล่าขานไม่รู้จบ และถูกตีความใหม่ผ่านหน้าจออยู่เสมอตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป แต่เชื่อว่า ทุกภาพจำที่ถูกสร้างขึ้นจะทำให้ผู้ชมไม่ลืมเขาได้อย่างแน่นอน