เบื้องหลัง 'Chianti Classico' Cult Wine แห่ง Tuscany ที่ยิ่งเก่า ยิ่งมีค่า

เบื้องหลัง 'Chianti Classico' Cult Wine แห่ง Tuscany ที่ยิ่งเก่า ยิ่งมีค่า
Chianti Classico ไวน์อิตาเลียนระดับตำนานจาก Tuscany ที่นักสะสมไวน์ทั่วโลกหลงใหล รู้จักที่มา รสชาติ สัญลักษณ์ไก่ดำ และเหตุผลที่ถูกยกให้เป็น Cult Wine แห่ง Passion Investment

ท่ามกลางภูเขาและเนินเขาเขียวชอุ่มของแคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี มีดินแดนแห่งหนึ่งที่ถือกำเนิดไวน์แดงในตำนานของโลก นั่นคือ Chianti Classico ที่แฝงด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานหลายร้อยปี จนกลายเป็นหนึ่งใน Cult Wine หรือไวน์ที่นักสะสมทั่วโลกหลงใหล

Chianti Classico คือหัวใจของภูมิภาคทัสคานี ตั้งอยู่ระหว่างเมือง Florence และ Siena  เป็นพื้นที่ที่มีภูมิประเทศเป็นเนินเขา ดินหินปูน และสภาพอากาศที่เหมาะสมกับการปลูกองุ่นพันธุ์ Sangiovese องุ่นแดงที่ให้ไวน์มีกรดสดชื่น แทนนินแน่น และกลิ่นอายของเชอร์รี่แห้ง เครื่องเทศ และสมุนไพรป่า ซึ่งหากเป็นตัวจริงจะรู้เลยว่าไวน์ชนิดนี้ ถ้าเป็นต้นกำเนิดจริงๆ ไม่ใช่ผลิตจากที่อื่นภายหลังจะต้องใช้ชื่อเต็มว่า Chianti Classico และมีสัญลักษณ์ “ไก่ดำ” หรือ Gallo Nero ซึ่งปรากฏอยู่บนฉลากของไวน์ทุกขวดที่ผ่านการรับรองว่าเป็นของแท้

โดยที่มาของสัญลักษณ์นี้ เล่ากันว่าในยุคกลาง เมือง Florence และ Siena เคยขัดแย้งกันเรื่องเขตแดน จนตกลงใช้ไก่ขันเป็นสัญญาณให้ทหารออกเดินทางจากเมืองของตัวเอง และตรงจุดที่ม้าสองตัวพบกันจะถือเป็นเส้นแบ่งพรมแดน

ฝั่ง Florence เลือกไก่ดำที่อดอาหารจนขันตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง ขณะที่ Siena เลือกไก่ขาวที่อิ่มจนเผลอหลับ ผลลัพธ์คือฝ่าย Florence ได้เปรียบและได้พื้นที่มากกว่า นับแต่นั้นมา “ไก่ดำ” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ และถูกใช้เป็นตรารับรองคุณภาพของไวน์ Chianti Classico จนถึงทุกวันนี้

แม้ Chianti จะเคยถูกมองว่าเป็นไวน์ที่ดื่มง่ายสำหรับมื้อค่ำในบ้านอิตาเลียนทั่วไป แต่ Chianti Classico กลับพัฒนาไปอีกขั้น ด้วยการยกระดับกระบวนการผลิตให้ละเอียดและเข้มงวด โดยแบ่งเป็น 3 ระดับคุณภาพหลัก ได้แก่

  • Annata – ไวน์ปีปกติที่เน้นความสดชื่น ดื่มง่าย

 

  • Riserva – ผ่านการบ่มในถังไม้โอ๊กอย่างน้อย 24 เดือน ให้รสเข้มข้นและซับซ้อนขึ้น

 

  • Gran Selezione – ชั้นสูงสุด ผลิตจากองุ่นที่คัดเลือกจากไร่ที่ดีที่สุด และต้องบ่มอย่างน้อย 30 เดือน


ไวน์ระดับ Gran Selezione เหล่านี้เองที่ทำให้ Chianti Classico ถูกจัดอยู่ในหมวด “Cult Wine” หรือไวน์ที่นักสะสมทั่วโลกตามหา ด้วยความลึกซึ้งของรสชาติ กลิ่นอายของดินแดน และความสามารถในการบ่มได้ยาวนานหลายสิบปี

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Chianti Classico ได้ก้าวสู่ยุคใหม่ด้วยการจัดแบ่งพื้นที่ปลูกเป็น UGAs (Unità Geografica Aggiuntiva) เพื่อเน้นเอกลักษณ์ของภูมิประเทศย่อยแต่ละแห่ง เช่น Gaiole, Radda และ Greve ซึ่งต่างให้รสชาติที่แตกต่างกันอย่างมีเอกลักษณ์เช่น ไวน์จาก Radda มักมีกรดสดและกลิ่นสมุนไพร ขณะที่ Gaiole ให้แทนนินแน่นและกลิ่นดิน ส่วน Greve จะออกผลไม้สุกและมีโครงสร้างสมดุลกว่า

สิ่งที่ทำให้ Chianti Classico เป็นมากกว่าไวน์ คือ การสะท้อนจิตวิญญาณของทัสคานี ไวน์หนึ่งขวดบอกเล่าทั้งเรื่องราวของดิน ภูมิอากาศ ประเพณี และความมุ่งมั่นของผู้ผลิตรุ่นแล้วรุ่นเล่า มัน

Chianti Classico ไม่ใช่ไวน์ที่ต้องการประกาศความหรูหรา แต่มันคือ “ความสง่างามที่พูดได้ด้วยตัวเอง”
 และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ไวน์จากดินแดนนี้ ยังคงเป็นหนึ่งใน Cult Wine ที่นักสะสมทั่วโลกยกย่องว่าเป็นตำนานที่ยังคงบ่มต่อไปไม่สิ้นสุด

 

Editor’s Note 

วิธีดื่มและสัมผัสเสน่ห์ของ Chianti Classico

  • ตรวจดูฉลากให้มีสัญลักษณ์ Gallo Nero เพื่อยืนยันว่าเป็นของแท้
  • ดื่มควบคู่กับอาหารอิตาเลียนอย่าง Bistecca alla Fiorentina, พาสต้าโบโลเนส หรือชีสพาร์มีซานแก่ จะช่วยดึงรสไวน์ออกมาเต็มที่


 

TAGS: #ChiantiClassico #ไวน์แดง #ไวน์อิตาลี #ไวน์ทัสคานี #cultwine