ดังระดับโลกก็ยังปฏิเสธ เปิดเหตุผลที่ Taylor Swift และอีกหลายคนไม่ขึ้น Halftime Show

ดังระดับโลกก็ยังปฏิเสธ เปิดเหตุผลที่ Taylor Swift และอีกหลายคนไม่ขึ้น Halftime Show
Super Bowl Halftime Show เวทีที่คนดูนับร้อยล้านทั่วโลก แม้ยิ่งใหญ่แต่ไม่ใช่ทุกคนอยากขึ้นไป Taylor Swift, Adele, Jay-Z, P!nk และ Cardi B ต่างปฏิเสธด้วยเหตุผลต่างกัน

ทุกปี ช่วงเวลา Halftime Show ของศึก Super Bowl มักถูกยกให้เป็น “เวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกดนตรี” เพราะไม่เพียงแค่ผู้ชมกว่า 100 ล้านคนทั่วโลกจะจับตามอง แต่ยังเป็นโชว์ที่กลายเป็นตำนานทางวัฒนธรรมป๊อปอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การแสดงของ Michael Jackson, Beyoncé จนถึง Rihanna ในปี 2023 ที่สร้างแรงกระเพื่อมไปทั้งวงการเพลงและแฟชั่น อย่างไรก็ตาม ความยิ่งใหญ่ก็ไม่ได้หมายความว่าศิลปินทุกคนจะพร้อมหรือยินดีที่จะขึ้นเวทีนี้  ตรงกันข้ามศิลปินระดับโลกหลายคนต่างปฏิเสธโอกาสนี้ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป

หนึ่งในนั้นคือ Taylor Swift ที่แฟนเพลงทั่วโลกต่างเฝ้ารอให้เธอขึ้นแสดงใน Super Bowl สักครั้ง แต่ข่าวที่ออกมาหลายครั้งกลับเป็นการ “ปฏิเสธ” เสียมากกว่า รายงานระบุว่าเธอต้องการสิทธิ์ในฟุตเทจการแสดง รวมถึงการควบคุมเชิงครีเอทีฟอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ NFL ไม่เคยยอมให้กับศิลปินใดมาก่อน อีกทั้ง Swift เองก็อยู่ในจุดที่ไม่จำเป็นต้องใช้เวทีนี้เพื่อเพิ่มชื่อเสียงหรือยอดขาย การต่อรองที่ไม่ลงตัวทำให้ทุกครั้งจบลงด้วยคำว่าผ่าน และในที่สุด Halftime Show ปี 2026 ก็ยืนยันแล้วว่าจะเป็นของ Bad Bunny 

Adele ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่แสดงจุดยืนชัดเจน เธอเคยพูดกับแฟน ๆ ในคอนเสิร์ตว่า “Super Bowl ไม่ใช่โชว์ที่เกี่ยวกับดนตรี” และยอมรับตรงไปตรงมาว่าเธอไม่ใช่คนที่ทำการแสดงเวอร์วังอลังการแบบนั้นได้ การปฏิเสธของ Adele กลายเป็นบทเรียนว่านักร้องบางคนเลือกความสบายใจและความเป็นตัวเอง มากกว่าการขึ้นไปอยู่บนเวทีที่ถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างปรากฏการณ์

ในอีกมุมหนึ่ง Jay-Z ก็เคยถูกทาบทาม แต่เขาไม่พอใจกับกระบวนการที่ NFL กำหนดเงื่อนไขว่าต้องแสดงร่วมกับใคร เขาเลือกจะปฏิเสธและหันไปทำงานเบื้องหลังแทน ปัจจุบัน Jay-Z ผ่านบริษัท Roc Nation เป็นผู้มีบทบาทคัดเลือกและโปรดิวซ์ศิลปิน Halftime Show แทนการขึ้นโชว์ด้วยตัวเอง

P!nk เองก็เคยเป็นตัวเลือกในปี 2019 แต่เธอเลือกที่จะถอยออกมาเพราะมองว่าใครก็ตามที่ขึ้นโชว์นี้จะต้องถูกจับผิดและถูกวิจารณ์อย่างหนัก อีกทั้งเธอยังเคยให้สัมภาษณ์ว่าถ้าเธอขึ้นเวทีจริง อาจเลือกคุกเข่าประท้วงเหมือน Colin Kaepernick สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกว่ามีความเสี่ยงต่อภาพลักษณ์มากเกินไป

ในขณะที่ Cardi B ซึ่งถูกทาบทามในปีเดียวกับ Maroon 5 ก็ตัดสินใจไม่รับงาน เธอให้เหตุผลว่าตัวเองยังไม่มีเพลงมากพอที่จะทำโชว์เต็มสเกล และในขณะเดียวกันก็อยากยืนหยัดเคียงข้างนักกีฬาที่ถูก NFL ปฏิบัติไม่เป็นธรรม การปฏิเสธนี้สะท้อนว่า แม้จะเป็นเวทีที่มีคนทั่วโลกดู แต่สำหรับศิลปินบางคน การเลือกจังหวะเวลาที่ “ใช่” สำคัญกว่าการเร่งรีบก้าวขึ้นไปก่อนเวลาอันควร

ทั้งหมดนี้ทำให้เราเห็นว่า Super Bowl Halftime Show อาจเป็นเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่ไม่ใช่ทุกคนที่อยากขึ้นไป เพราะเบื้องหลังแสงไฟ มีทั้งการเมือง สัญญา สิทธิ์ ความคาดหวัง และแรงกดดันมหาศาล ศิลปินแต่ละคนมีเหตุผลของตัวเอง และนั่นยิ่งทำให้ Halftime Show ไม่ได้เป็นแค่โชว์กลางสนามฟุตบอล แต่คือเวทีที่สะท้อนอำนาจต่อรองและจุดยืนของศิลปินในยุคปัจจุบันได้อย่างชัดเจน

ปี 2026 เราจะได้เห็น Bad Bunny ก้าวขึ้นไปสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ แต่เรื่องราวของศิลปินที่ปฏิเสธการแสดงนี้ก็คงถูกเล่าต่อไปเสมอ ว่าบางครั้ง การ “ไม่ขึ้นเวที” ก็เป็นการประกาศตัวตนที่ดังไม่แพ้การแสดงจริง ๆ
 

TAGS: #SuperBowlHalftimeShow #HalftimeShow}เทเลอร์สวิฟท์ #pink #JayZ #คอนเสิร์ตAuperBowl #NFL #BadBunny