คุยกับ “ฉันชาย สิทธิพันธุ์” ผู้ชายที่อุทิศชีวิตให้กับอาชีพ “หมอ” ที่เขารัก จนได้นั่งแท่นผู้บริหารใหญ่ของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
เสียงสนทนาระหว่างพิธีกรและ รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ดังก้องไปทั่วห้องโถงใหญ่ ภายใน “ตึกจักรพงษ์” อาคารเก่าแก่ที่อยู่คู่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยมานานกว่าร้อยปี
บทสนทนาแรกที่ชวน รศ.นพ.ฉันชาย พูดคุย คือการทำงานบนเก้าอี้หัวเรือใหญ่ ที่ต้องบริหารบุคลากรระดับหัวกะทิของประเทศ เพราะการเปลี่ยนผ่านจาก “หมอ” มาเป็น “ผู้บริหารหมอ” คงไม่ใช่เรื่องง่าย และแม้แต่ตัวของ รศ.นพ.ฉันชาย ก็ยังยอมรับว่า นี่เป็นอีกหนึ่งชาเลนจ์ในชีวิตที่ท้าทายอย่างมาก
การทำงานร่วมกันของ 2 องค์กร ทั้ง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากการทำหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยแล้ว ยังต้องเน้นการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ให้ได้คุณภาพ ไปพร้อมกับการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ สิ่งนี้เป็น “ความยาก” ที่ รศ.นพ.ฉันชาย ตั้งโจทย์ว่า จะทำอย่างไรให้สามารถบาลานซ์ให้เกิดผลลัพธ์ที่ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งการเป็นสถาบันทางแพทย์ที่มีมาตรฐานระดับนานาชาติ คือคำตอบของโจทย์นี้
หากพูดถึงสถานะ “โรงเรียนแพทย์” หนึ่งในความท้าทายคือ นิสิตแพทย์รุ่นใหม่ในเรนจ์กลุ่ม Gen Z ที่มีความคิด ความเชื่อ และเป้าหมายที่แตกต่างจากนิสิตแพทย์รุ่นก่อน ที่ยังต้องมาทำหน้าที่เป็น “อาจารย์หมอ” ให้กับพวกเขา คำถามคือ มีวิธีการละลายความแตกต่างนี้ให้เข้ากันได้อย่างไร
รศ.นพ.ฉันชาย ไม่ได้คิดนานกับคำตอบนี้ แต่ยังอธิบายความแปรเปลี่ยนของบริบทสังคมที่เปลี่ยนไปด้วยความเข้าใจจริงๆ เขามองว่า ไลฟ์สไตล์ของนิสิตแพทย์รุ่นใหม่โหยหาความสมดุลย์ เพราะโลกในปัจจุบันไม่ได้มีเพียงงานเท่านั้น แต่ยังมีหลายสิ่งในชีวิตที่ให้ได้เรียนรู้ อาจผิดกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคก่อนที่มีเพียงแค่งาน แต่ในขณะเดียวกันก็อยากให้นิสิตเข้าใจความเป็นห่วงเป็นใยของอาจารย์ด้วยเช่นกัน
“นิสิตที่เข้ามาเรียนแพทย์มีความสามารถหลายหลากมาก ชีวิตเขาไม่ได้มีแค่ตำรา แต่ยังมีสังคม มีกิจกรรมต่างๆ พวกเขาอาจโหยหาความสมดุลย์ แต่ในสมัยเราก็แค่ทำงาน เป็นเรื่องปกติที่จะอยู่เวร แต่ปัจจุบันมันไม่แฟร์ที่จะไปบอกว่าต้องทำเหมือนอย่างที่เราเคยเป็น เพราะสังคมมันเปลี่ยนไป”
แม้จะเป็นถึงผู้บริหารสถาบันทางการแพทย์ แต่ตลอดการพูดคุยกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจาก รศ.นพ.ฉันชาย ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างผ่อนคลาย และมันสะท้อนอะไรได้หลายอย่างจากตัวของผู้ชายคนนี้ที่รักอาชีพในการ “รักษ์” ชีวิตคนอย่างมาก
แต่อีกไม่นานประตูบานนี้ของ รศ.นพ.ฉันชายก็ต้องปิดลงในงานเกษียณเข้าสักวัน และประตูบานถัดไปคืออะไร?
คำตอบของการจบบทสนทนาในครั้งนี้ ถูกเปล่งออกมาพร้อมกับเสียงหัวเราะของ รศ.นพ.ฉันชาย ว่า อยากทำสิ่งที่มีความสุข ซึ่งก็มีหลายเรื่องที่ตั้งใจไว้
หากอยากรับชมเรื่องราวของ รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ แบบเต็มๆ สามารถติดตามได้ในรายการ The Playbook ทาง Youtube : The Better วันที่ 26 กันยายน 2568 เวลา 20.00 น.