สัมผัส “บ้าน” ที่ไม่ใช่เพียงที่อยู่อาศัย แต่คือโลกอีกใบของ “ริก้า ดีล่า” ที่สะท้อนตัวตนและรสนิยมของเธอ
สิ่งที่ถูกกลมกลืนไปกับชีวิตของผู้หญิงเก่ง อย่าง “ริก้า ดีล่า” นั่นคือ “บ้าน” ที่นี่เธออาศัยมาตั้งแต่อายุ 19 ปี ย่านเอกมัย ที่เต็มไปด้วยไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่หลากหลาย และครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ The Better Social ได้เข้าไปเยี่ยมชมบ้านหลังนี้เพื่อได้เห็นอีกหนึ่งโลกใบเล็กๆ ที่เธอสรรค์สร้างขึ้นมา
อาคารสูง 3 ชั้นครึ่ง ภายนอกเป็นผนังสีเขียวเรียบๆ แต่หากได้ลองก้าวขาเข้าไป อาจรู้สึกเหมือนอยู่คนละโลก เพราะภายในบ้านเต็มไปด้วยของใช้และของสะสมที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ไว้มากมาย มีทั้ง เฟอร์นิเจอร์หลากสีสัน หลากดีไซน์ รวมถึงของเล่นและงานศิลปะที่ถูกจัดวางอย่างเหมาะสมบนโต๊ะและชั้นวางของ ทำให้การมีของในบ้าน เหมือนว่าจะดูเยอะเต็มไปหมด แต่กลับเป็นความเยอะที่ไม่ได้ดูวุ่นวายอะไร เพราะทุกชิ้นที่ถูกจัดวางผสมผสานกันไปมากลายเป็นความลงตัวเปรัยบเสมือนพื้นที่งานศิลป์ที่คุณริก้าได้ออกแบบไว้แล้ว
สไตล์โมร็อกโคผสมกับกลิ่นอายของความเป็นจีน เป็นการออกแบบที่คุณริก้าก็ยอมรับว่า “ยาก” แต่นี่คือโจทย์ที่คุณริก้าได้มอบหมายให้กับนักออกแบบภายในได้รังสรรค์บ้านหลังนี้ และสะท้อนออกมาอย่างชัดเจนผ่านกำแพง เพดาน ไปจนถึงพื้นบ้าน
ทุกมุมบ้านถูกนำสิ่งของเครื่องใช้ไปวางไว้อย่างเป็นระเบียบ อย่างห้องที่เคยเป็นที่เก็บของ คุณริก้าก็ได้เนรมิตให้กลายเป็นห้องทำงานที่มีสไตล์ในแบบของเธอเอง
อีกหนึ่งห้องที่เป็นไฮไลต์ของบ้านอย่าง ห้องโถงที่บริเวณชั้นกลางของบ้าน พื้นที่นี้เต็มไปด้วยของสะสม ของโบราณที่ถูกนำมาจัดวางตกแต่งไว้อย่างลงตัว อย่างโต๊ะรับประทานอาหารแบบ Long Table เป็นโต๊ะไม้สีเรียบยาว เต็มไปด้วย “เก้าอี้” ที่ดีไซน์ไม่เหมือนกันสักชิ้น
ความแตกต่างที่เข้ากันอย่างลงตัวนี้ เกิดจากความเสียดายของคุณริก้า เพราะเธอเคยเปิดร้านอาหารหลายแห่ง ก่อนตัดสินใจที่จะขายกิจการไป จึงได้นำของใช้ภายในร้าน กลับมาเป็นของตกแต่งภายในบ้านซึ่งเธอถึงกับเอ่ยปากว่า สิ่งนี้เป็นพรสวรรค์ของตัวเองที่สามารถหยิบสิ่งของมาแมทช์กันได้
หลายคนอาจเกิดคำถามว่า การใช้สิ่งของเหล่านี้อาจมีสิ่งลี้ลับติดตามมาด้วยหรือไม่? แต่คุณริก้า ได้มองข้ามความกลัวนั้น เพราะเธอหลงใหลในสเน่ห์ของเก่าเหล่านี้ และเก็บมาตั้งแต่สมัยยังเป็นวัยรุ่น
“เป็นคนไม่กลัวนะ เก็บมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว โดยเฉพาะพวกจิวเวลรี่เก่าๆ จะชอบมาก หรืออะไรที่โบราณ ก็ไม่เคยเจอสิ่งลี้ลับมาทวงนะ ”
คุณริก้าเกริ่นแบบนี้ขึ้นมาก่อน ก็เพราะว่าอีกห้องที่น่าสนใจ และถูกจัดวางไว้เป็นพื้นที่สะสมของเก่า ก็คือ เตียงจีนโบราณ ซึ่งที่ตั้งอยู่ในห้องนั่งเล่นของบ้าน คุณริก้าเลือกที่จะนำมาตั้งไว้ในห้องนี้ พร้อมกับออกแบบให้ห้องมีความสนุกขึ้น ไม่ได้ดูลี้ลับหรือน่ากลัวอะไร ด้วยการใช้สีสันของผนังสไตล์โมร็อคโค มีตู้โชว์โบราณและภาพงานศิลปะของศิลปินชื่อดังมาช่วยทำให้ห้องนี้มีกลิ่นอายของความเป็นป๊อปอาร์ตแม้ว่าเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นที่ตั้งอยู่ในห้องนี้จะโบราณก็ตาม
อีกสิ่งที่เห็นอยู่ในบ้านของคุณริก้าแทบทุกมุมของบ้านนั่นคือ “งานศิลปะ” ที่เธอได้เก็บสะสมไว้ อย่างงานภาพของ “P7” ศิลปินกราฟิตี้และสตรีทอาร์ทที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย งานวาดของ “อุดม แต้พานิช” ที่คุณริก้าบอกว่า เธอได้มาตั้งแต่ที่เขายังไม่ได้เป็นศิลปินเต็มตัวด้วยซ้ำ เป็นอีกหนึ่งงานที่มาสเตอร์พีซมากๆ
นอกจากงานศิลปะ คุณริก้า ยังเก็บสะสมอาร์ททอยตัวการ์ตูนที่เธอชอบ อย่าง พาวเวอร์พัฟเกิร์ล รวมถึงคาแร็กเตอร์ตัวอื่นๆ ซึ่งสิ่งที่สังเกตเห็นได้ชัด คือ มีอาร์ททอยที่ยังไม่ถูกแกะกล่องเต็มไปหมด สาเหตุมาจากเธอกลัวผิดหวัง ที่จะไม่ได้ตัวที่อยากได้ ทำให้ในช่วงหลังเธอจึงซื้อแบบที่รู้อยู่แล้วว่าในกล่องนั้นเป็นตัวอะไร
นอกจากดีไซน์การตกแต่งและงานศิลปะที่มีอยู่ทุกมุมบ้าน จะบ่งบอกถึงรสนิยมของคุณริก้าได้เป็นอย่างดีแล้ว มุมมองและความคิดของคุณริก้ายังสะท้อนตัวตนของเธอที่ก็ยากจะเลียนแบบ เพราะสิ่งที่ถูกรังสรรค์ออกมา ไม่ได้เกิดจากแบบแผนหรือความตั้งใจจัดวาง แต่เป็นความรู้สึก “เหมาะสม” จากมุมมองของเธอเอง
เรื่อง : Pornthida Jedeepram