หยกกลับมาฮิตเพราะอะไร? ไม่ใ่ช่คนรุ่นแม่ แต่เป็น Gen Z ในจีน

หยกกลับมาฮิตเพราะอะไร? ไม่ใ่ช่คนรุ่นแม่ แต่เป็น Gen Z ในจีน
หยกไม่ใช่แค่สัญลักษณ์แห่งโชคลาภอีกต่อไป แต่คือการลงทุนระยะยาวที่คนรุ่นใหม่เลือกสะสมเพื่ออนาคต

ถ้าพูดถึง "หยก" หลายคนอาจนึกถึงเครื่องประดับของคุณแม่หรืออาม่ามากกว่า

แต่ในปี 2025 ภาพจำแบบเดิมกำลังถูกเปลี่ยนโดยกลุ่มผู้บริโภคที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน อย่าง Gen Z  โดยเฉพาะในประเทศจีน ที่ไม่นิยมกันเพราะความเชื่อ แต่หยกกำลังกลายเป็น ของสะสม และสินทรัพย์เพื่อการลงทุนระยะยาวของพวกเขา

ในเอเชียโดยเฉพาะจีนเวลานี้กำลังให้ความสนใจอย่างมากกับหยกประเภท Jadeite Type A โดยเฉพาะสีเขียวมรกต (Imperial Green) ที่หายากและคุณภาพสูง ซึ่งในตลาดเอเชียแปซิฟิกได้กลายเป็นกลุ่มกำลังซื้อหลัก เพราะมีความเชื่อและวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกับหยกอย่างลึกซึ้ง ส่งผลให้ความต้องการมาอย่างต่อเนื่อง

 

สิ่งที่น่าสนใจคือ คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z ในจีน กำลังเข้ามาเปลี่ยนเกมตลาดหยก พวกเขานิยมซื้อหยกราคาย่อมเยาในแพลตฟอร์ม e-commerce อย่าง Douyin, Kuaishou, Xiaohongshu และ Bilibili ผ่านการไลฟ์สดและคอนเทนต์เรียลไทม์  แม้จะเริ่มต้นจากสินค้าราคาไม่สูง แต่เทรนด์นี้ทำให้ตลาด Mass เติบโตเร็วมาก


ในขณะเดียวกัน กลุ่มนักสะสมรุ่นคลาสสิกก็ยังคงความต้องการในตลาดไฮเอนด์ จึงเกิดเป็นภาพรวมของตลาดหยกที่ขยายตัวในทุกระดับ

ในเชิงการลงทุน หยกคุณภาพสูง โดยเฉพาะ Jadeite ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนทั้ง สีสด เนื้อเนียน โปร่งแสง มักจะมีโอกาสเพิ่มมูลค่าในระยะยาว แม้ราคาจะมีความผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจและวัฒนธรรม แต่สำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ หยกยังคงถือเป็น สินทรัพย์ที่ค่อนข้างมั่นคง

 

อย่างไรก็ตาม ต้องระวังเรื่อง “ของเลียนแบบ” ที่มีจำนวนมากในตลาด การซื้อขายจึงควรผ่านการตรวจสอบและรับรองจากห้องปฏิบัติการอัญมณีที่เชื่อถือได้เท่านั้น ซึ่งการเช็คว่าหยกนั้นเป็นประเภทใด สามารถสังเกตได้หลายวิธี โดยเแพาะหยก Jadeite ซึ่งเป็นแร่กลุ่ม Pyroxene ที่มีค่าโซเดียมสูง จึงมีหลายสี เช่น สีเขียว เหลือง ชมพูลาเวนเดอร์ น้ำตาล มีความแข็ง 6.5-7 โดยเรียกลักษณะดังกล่าวว่า ‘หยกแข็ง’ หรือ hard jade และมีค่าดัชนีหักเหแสงอยู่ที่ 1.660-1.680 มีค่าความถ่วงจำเพาะอยู่ที่ 3.25-3.40 มักพบในกัวเตมาลา  Guatemalaและ Hpakan รัฐคะฉิ่น ประเทศเมียนมาร์ 

ถ้าหากต้องการซื้อหยกแท้  Jadeite jade เบื้องต้นจะต้องใช้วิธีการส่องเพื่อให้เห็นลักษณะมลทินเป็นแบบเส้นใยที่มีความชัดเจนตามภาพเท่านั้น หากนอกเหนือจากนั้นถือว่าไม่ใช่หยกแท้  (ข้อมูล : Trez Jewelry ,Siam Paragon)

 

จากข้อมูลในปี 2024 มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 640 ล้านดอลลาร์ในปี 2025
หากแนวโน้มนี้ยังคงต่อเนื่อง คาดว่าภายในปี 2033 มูลค่าตลาดจะขยายตัวไปถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์

การเติบโตเฉลี่ยของตลาดนี้อยู่ที่ประมาณ 6.5% ต่อปี ซึ่งถือว่า “มั่นคง” สำหรับตลาดสินทรัพย์หรูที่เกี่ยวข้องกับแฟชั่น การสะสม และการลงทุนระยะยาว 

ทุกวันนี้หยกไม่ใช่แค่สัญลักษณ์แห่งโชคลาภอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น แฟชั่นไอเท็ม และการลงทุน และในยุคที่ทุกการเลือกซื้อคือการสะสมปูทางเพื่ออนาคต หยกอาจเป็นสินทรัพย์ที่เพิ่มมูลค่าในระยะยาวได้มากกว่าที่คิด


Photo : Trez Jewelry ,Siam Paragon  / AFP

ที่มา : 

https://www.businessresearchinsights.com/market-reports/jade-jewelry-market-116004?

https://www.voguebusiness.com/story/fashion/gen-z-consumers-are-shaking-up-chinas-jade-trade?

TAGS: #วิธีดูหยกแท้ #Jadeite #ลงทุนในหยก #สะสมหยก #จิวเวลรี่