ตำนานลำโพงระดับไฮเอนด์ JBL D44000 Paragon เสียงที่ยังตราตรึงและทรงคุณค่าในหมู่นักฟังเพลงและนักสะสมแนววินเทจ จากระบบเสียงและงานศิลปะบนตัวเครื่องที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างมีเอกลักษณ์
เสียงเพลงที่มาพร้อมกับงานศิลปะมีอยู่ใน JBL D44000 Paragon ลำโพงที่ฟังเพลงได้ด้วยและในขณะเดียวกันก็เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหรูที่สามารถนำไปตั้งโชว์ได้ จนกลายเป็นที่ต้องการ และทำให้เป็นลำโพงที่มีราคาสูงลิ่วในตลาดของนักสะสม
JBL D44000 Paragon ลำโพงสเตอริโอแบบชิ้นเดียว เผยโฉมครั้งแรกในปี 1957 ออกแบบโดย Arnold Wolf และ Richard Ranger เป็นลำโพงที่ถือว่ามีราคาแพงที่สุดในขณะนั้น มีขนาดความยาวเกือบ 2.7 เมตร ทั้งยังมีการเก็บรายละเอียดและตกแต่งด้วยมือจากทีมช่างฝีมือ ซึ่งกว่าจะเสร็จก็ใช้เวลาไปร่วมกว่าร้อยชั่วโมง และยังถูกผลิตออกมาจำนวนจำกัดเพียง 1,000 เครื่องเท่านั้น โดยในยุครุ่งเรืองที่สุด สามารถผลิตได้สัปดาห์ละ 5 เครื่อง และลดลงเหลือ 1-2 เครื่องต่อเดือน ตามความนิยมที่ลดลง
ลำโพงสุดวินเทจนี้ มีรูปทรงขนาดใหญ่ คล้ายตู้ ขนาดแต่ละด้านอยู่ที่ 269 x 86 x 62 เซนติเมตร และมีน้ำหนักกว่า 390 กิโลกรัม ผลิตจากไม้เนื้อแข็งหลายชนิด ทั้ง ไม้ Korina, Birch, มะฮอกกะนี และ ไม้มะเกลือ โดย JBL D44000 Paragon 1 เครื่อง ใช้ช่างฝีมือถึง 6 คน เพราะเป็นชิ้นงานที่ต้องเก็บรายละเอียดจากงานไม้ และหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการงานไม้แล้ว ยังมีงานขัด ทาแล็กเกอร์อีกหลายชั้นด้วยมือ และหลังจากแห้งแล้วก็ต้องปิดท้ายด้วยงานขัดให้พื้นผิวเรียบเนียนอีกครั้ง
ลำโพงสเตอริโอรุ่นนี้ ถูกออกแบบด้วยดีไซน์โค้งมน ทำให้ระบบเสียงที่สะท้อนออกมาให้ความรู้สึกกว้างและโปร่งสบาย โดย Richard Ranger เคยกล่าวถึงระบบเสียงของ JBL D44000 Paragon ในบทความของเขาไว้ว่า การออกแบบให้เสียงจากลำโพงแต่ละฝั่งได้สะท้อนกับผิวโค้ง จะช่วยผู้ฟังได้สัมผัสเสียงที่มีประสิทธิภาพดีกว่า เสียงที่ออกจากตัวลำโพงโดยตรง โดยระบบเสียงที่เขาออกแบบมานี้ยังได้รับการยกย่องจากวิศวกรด้านเสียง และนักดนตรีอีกด้วย
ปัจจุบันลำโพง JBL D44000 Paragon ได้ยุติการผลิตไปแล้ว ในปี 1983 รวมเวลากว่า 30 ปี ที่โลดแล่นอยู่ในตลาด โดยในระหว่างนั้นลำโพงชิ้นที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดจากโรงงานผลิต สามารถขายได้ในราคาสูงถึง 20,000-30,000 ดอลลาร์สหรัฐในตลาดสินค้ามือสอง จากราคา 1,830 ดอลลาร์สหรัฐ (ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วงปี 1950) และในบางรุ่นยังมีราคาหลักแสนไปจนถึงหลักล้านขึ้นอยู่กับสภาพความสมบูรณ์ของตัวเครื่อง
ทั้งยังมีการประมูลเกิดขึ้นผ่านเว็บไซต์ประมูลหลายแห่ง เช่น AUCTION & APPRAISAL เคยเปิดประมูล JBL D44000 Paragon และปิดการขายไปที่ 13,500 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2023, เว็บ Selkirk Auctions, St. Louis เคยปิดประมูลไปที่ราคา 11,000 ดอลลาร์สหรัฐ และครั้งหนึ่งยังเคยถูกประมูลใน Facebook ได้ในราคา 57,000 ดอลลาร์สหรัฐ
แม้ JBL D44000 Paragon ที่ถูกผลิตออกมาในยุคปี 1950 จะถูกกระจัดกระจายไปอยู่ในมือของนักสะสมและนักลงทุนในของวินเทจ แต่ยังมีตัวเครื่องที่คนทั่วไปสามารถชมได้ใน Stereo Sound Museum พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงอุปกรณ์เครื่องเสียงระดับไฮเอนด์และหายากในประเทศญี่ปุ่น
ความประณีต และการผลิตอย่างจำกัด เป็นเหตุผลสำคัญที่ให้ลำโพง JBL D44000 Paragon เป็นเหมือนงานศิลปะที่ผสมผสานเข้ากับเสียงดนตรีได้อย่างทรงคุณค่า เพราะแม้จะยุติการผลิตไปแล้ว แต่ยังถูกยกย่องจากคนฟังเพลง คนรักงานศิลปะ และนักสะสม ยาวนานมาจนถึงวันนี้