Porsche 996 จากการก้าวพลาดและความผิดหวังในอดีต ลุกขึ้นอัปเกรดตัวเองเพื่อต่อสู้บนเส้นทางธุรกิจ จนกลายเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีมูลค่าในตลาดมือสอง ในฐานะรถตระกูล 911 โดยแท้
สายซูเปอร์คาร์คงรู้จัก Porsche 996 กันเป็นอย่างดี เพราะเป็นรถสปอร์ตระดับไฮเอนด์รุ่นแรกของตระกูล 911 ที่นอกจากจะสร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์แล้ว ยังเป็นรุ่นที่ทำรายได้อย่างรวดเร็วให้กับ Porsche หลังจากเปิดตัว และได้กลายเป็นหมุดหมายสำคัญของการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ หลังจากที่ 911 ขึ้นแท่นเป็นรุ่นเรือธงต่อจาก Porsche 356
แผนการเปลี่ยนแปลงครั้งนั้น ถูกวางไว้โดยนักออกแบบที่ชื่อ Pinky Lai ในปี 1992 ที่มีความตั้งใจจะพาตระกูล 911 ไปสู่ความมั่นคงและตอบโจทย์ในทุกด้าน ด้วยการปรับแต่งรูปลักษณ์ใหม่ เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำที่ไม่เคยมีมาก่อนในรถรุ่นนี้ รวมถึงห้องโดยสาร ซึ่งทั้งหมดจะสามารถตอบโจทย์และดึงดูดทุกความชอบของผู้คนเหมือนในช่วงต้นยุค 2000
หากไปถามสาวกของ Porsche คงได้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่า Porsche 996 คือจุดเปลี่ยนสำคัญของตระกูล 911 ในหลายรุ่น โดยเฉพาะในเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งาน
การกำเนิดขึ้นของ Porsche 996 ส่วนหนึ่งมีแรงผลักดันมาจากการที่ Porsche ประสบปัญหาทางด้านการเงินในช่วงทศวรรษที่ 1990 และต้นยุค 2000 หลายอย่างเริ่มเข้าสู่จุดอิ่มตัว และด้วยกฎระเบียบที่ออกมาควบคุมมลพิษทางอากาศจากรถยนต์ใหม่ ทำให้ชิ้นส่วนของ Porsche หลายชิ้นได้รับผลกระทบ ลามไปถึงการขาดเงินทุนในช่วงนั้น
การดีไซน์ของ Porsche 996 ยังคงเอกลักษณ์จากตระกูล 911 ได้อย่างสมบูรณ์ โดยมีการดีไซน์ด้านหน้ารถที่โค้งมนและให้ความรู้สึกที่นุ่มนวล รวมถึงการออกแบบการควบคุมรถและความสะดวกสบาย จึงไม่น่าแปลกในที่ Porsche จะได้รับเสียงชื่นชมและการย้อนรับอย่างมากหลังจากเปิดตัว
แม้ดูเหมือนว่า Porsche 996 จะประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ในช่วง 7 ปีที่มีการผลิตออกมา ยังมีการพูดถึงรถรุ่นนี้ว่า เป็นรุ่นที่ล้มเหลว สาเหตุหนึ่งมาจากคุณสมบัติใหม่ที่ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับส่วนประกอบของรถทั้งสิ้น ทั้งไฟหน้าไข่ดาว ที่เป็นฉายาของรถรุ่นนี้ ซึ่งเป็นดีไซน์ที่เหล่าสาวกไม่ชื่นชอบสักเท่าไรนัก
เครื่องยนต์ที่ระบายความร้อนด้วยน้ำ ก็สร้างความไม่ประทับใจให้กับผู้ที่ชื่นชอบ Porsche 996 เช่นกัน ด้วยความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจนทำให้เครื่องยนต์ชำรุด โดยไม่มีการแจ้งเตือน และสุดท้ายอาจต้องเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ยกชุด
ยังรวมไปถึงกรณีการออกแบบให้ Porsche 996 และ Porsche Boxster สามารถใช้ชิ้นส่วนแทนกันได้เพื่อลดต้นทุน จนสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้า Porsche 996 ที่มองว่า รถระดับ Luxury car ของตัวเองถูกลดสเป็คลง เพื่อไปแชร์การใช้งานกับรถรุ่นที่ราคาถูกกว่า
สิ่งเหล่านี้ทำให้ Porche 996 เป็นรุ่นที่ไม่เป็นที่นิยมมากนัก จนกระทั่งยุติการผลิตในปี 2004
แต่ข้อดีคือ หลังจากนั้น Porche 996 มีราคาที่ถูกลงจนจับต้องได้ และยังถือว่าเป็นรถในตระกูล 911 “แท้” ที่มีสมรรถนะการขับขี่ยอดเยี่ยม และเมื่อได้อัปเกรดชิ้นส่วนที่เคยมีปัญหา เช่น ชุดอัปเกรดแบริ่ง IMS, คอยล์จุดระเบิด หรือคอยน์หัวเทียน, ผ้าเบรกหน้าและหลัง และ ชุดดูแลบำรุงรักษารถด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ Porsche 996 กลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่าในตลาดมือสอง
ในลานประมูลต่างประเทศ Porsche 996 เคยถูกตั้งแต่ราคาตั้งแต่หลักหมื่นดอลลาร์สหรัฐ อย่างในปี 2022 Porsche 996 Carrera Coupe 6-Speed ถูกประมูลจบที่ราคา 50,500 ดอลลาร์สหรัฐ จากราคาเปิดตัวโดยประมาณ 65,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 1999
ในปี 2024 Porsche 996 Carrera Coupe ประมูลจบที่ราคา 27,250 ดอลลาร์สหรัฐ จากราคาเปิดตัวโดยประมาณ 65,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 1999 และ Porsche 996 Carrera Cabriolet ประมูลจบที่ราคา 16,475 ดอลลาร์สหรัฐ จากราคาเปิดตัวโดยประมาณ 72,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 1998
หรืออย่างรุ่น Turbo เคยถูกประมูลผ่านมาร์เก็ตเพลสแห่งหนึ่งอยู่ที่ 66,500 ดอลลาร์สหรัฐ จากราคาเปิดตัวโดยประมาณ 120,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2000
กว่า 20 ที่ซูเปอร์คาร์อย่าง Porsche 996 ได้หยุดการผลิตไปจากเสียงวิจารณ์ว่า ไม่ใช่รถในโผซูเปอร์คาร์ที่เป็นที่นิยมมากนัก แต่นั่นก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ผลักดันให้รถรุ่นนี้ ได้ก้าวออกจากกรอบเดิมเพื่อความอยู่รอด จนสร้างมูลค่าในตลาดมือสอง แบบที่ยังคงเอกลักษณ์รถในตระกูล 911 ได้อย่างแนบเนียน
Photo : www.porsche.com