การเดินทางครั้งใหม่ของผ้าไทยสู่แฟชั่นโชว์ระดับโลก พร้อมนิยามใหม่ที่เชื่อมต่อภูมิปัญญากับแฟชั่นร่วมสมัย ภายใต้แนวคิดของโครงการ SILQ

ถ้าใครยังนึกถึงผ้าไทยว่าเป็นผ้าพับเรียบอยู่ในตู้ หรือผ้าทอพื้นเมืองที่ใส่ในงานพิธี ลองมาดูรันเวย์ของแฟชั่นโชว์ THE SILQ REIMAGINATION แล้วอาจต้องเปลี่ยนความคิด เพราะนี่คือก้าวใหม่ของผ้าไทย ที่ไม่ได้มาในลุคเดิม แต่ถูกตีความใหม่ผ่านสายตาของนักออกแบบรุ่นใหม่มากฝีมือ ภายใต้โครงการ SILQ: Atelier Thailand ที่อยากให้เห็นว่า ผ้าไทยสามารถเป็นแฟชั่นระดับโลกได้ ถ้ามีแพลตฟอร์มที่สนับสนุนอย่างจริงจัง

SILQ คือมาตรฐานใหม่ที่ตั้งใจจะยกระดับผ้าไทยในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น ความยั่งยืน (Sustainability), Innovation (นวัตกรรม), Legacy (มรดกวัฒนธรรม) และQuality (คุณภาพระดับสากล) ตั้งแต่การออกแบบ การตัดเย็บ โครงสร้างแพตเทิร์น ไปจนถึงการต่อยอดสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเป้าหมายไม่ใช่แค่ทำผ้าไทยให้น่าสนใจขึ้นในสายตาคนรุ่นใหม่ แต่ต้องทำให้แบรนด์ไทยที่ใช้ผ้าไทย อยู่ได้จริงในแฟชั่นระดับสากล  ซึ่งหมายถึงคุณภาพที่ดีพอ การเล่าเรื่องที่ทันสมัย และการเข้าถึงตลาดในแบบที่เป็นมืออาชีพ

สำหรับในงานเปิดตัวโครงการนี้ จึงได้จัดเป็นรูปแบบของแฟชั่นโชว์ที่รวมผ้าไทยจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศกว่า 250 แบบ มาดีไซน์ใหม่ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน โดยยังคงสะท้อนเอกลักษณ์และรากเหง้าของวัฒนธรรมเอาไว้ ทั้งรูปทรง และเรื่องราวของผ้า ตั้งแต่เส้นใยที่ใช้ ไปจนถึงเทคนิคการตัดเย็บ โดยช่างฝีมือที่เข้าใจผ้าไทยอย่างลึกซึ้ง

แฟชั่นโชว์ครั้งนี้อาจไม่ใช่แค่เรื่องของเสื้อผ้า แต่จะเป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้นให้ผ้าไทยถูกเล่าใหม่ ด้วยแพลตฟอร์มที่เข้าใจทั้ง “ราก” และ “อนาคต” ว่าสิ่งนี้คือสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยในแบบที่โลกต้องหันมามอง

เรื่อง : Labrai