ทำไม ‘เจ้าหญิงชาร์ลอตต์’ ถึงมั่งคั่งกว่าว่าที่กษัตริย์อย่าง 'เจ้าชายจอร์จ'

ทำไม ‘เจ้าหญิงชาร์ลอตต์’ ถึงมั่งคั่งกว่าว่าที่กษัตริย์อย่าง 'เจ้าชายจอร์จ'
เจาะลึก Charlotte Effect ปรากฏการณ์ที่ทำให้เจ้าหญิงชาร์ลอตต์กลายเป็นเด็กที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก แม้จะอยู่ในลำดับที่ 3 ของราชบัลลังก์อังกฤษ

แม้จะมีพระชนมายุเพียง 10 พรรษา แต่เจ้าหญิงชาร์ลอตต์แห่งเวลส์ ทรงได้รับการจัดอันดับให้เป็น "เด็กที่มั่งคั่งที่สุดในโลก" ด้วยมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ประเมินไว้สูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากที่พระองค์ประสูติได้เพียง 4 เดือน

เจ้าหญิงชาร์ลอตต์แห่งเวลส์ ทรงเป็นพระธิดาพระองค์ที่ 2 ของเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงแคทเธอรีน (Prince & Princess of wales) และเป็นพระราชนัดดาของสมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งตามลำดับการสืบราชบัลลังก์อังกฤษ เจ้าหญิงพระองค์น้อยทรงอยู่ในลำดับที่ 3 รองจากพระบิดาและพระเชษฐาอย่างเจ้าชายจอร์จ

นับตั้งแต่ที่พระองค์ประสูติมาเป็นหนึ่งในสมาชิกของราชวงศ์อังกฤษ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงเป็นที่รู้จักและเป็นขวัญใจของบรรดาแฟนๆ ที่ยังคงจงรักภักดีกับสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอย่างมาก ด้วยบุคลิกที่มีความโดดเด่น พระองค์ได้แสดงออกถึงความมั่นใจและความสง่างามสมวัย ไม่ว่าจะปรากฏตัวในที่สาธารณะหรือในงานพระราชพิธีสำคัญก็ตาม  ซึ่งหลายครั้งพระองค์ได้แสดงความเป็นผู้นำในหมู่พี่น้อง แม้จะทรงมีฐานะเป็นพระธิดาคนกลางก็ตาม

Royal Family

ความฮ็อตของเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ไม่ได้หยุดอยู่แค่การได้เห็นพระองค์ในงานพระราชพิธี แต่ในชีวิตประจำวันพระองค์ก็มีกิจวัตรไม่ต่างจากเด็กทั่วไป อีกทั้งยังกลายเป็นเด็กที่ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่น เนื่องจากชุดที่พระองค์สวมใส่มักจะขายหมดอย่างรวมเร็ว จนสื่อต่างๆ มองว่านี่คือปรากฏการณ์ "Charlotte Effect" หรือ “ปรากฏการณ์เจ้าหญิงชาร์ลอตต์” ซึ่งหมายถึง อิทธิพลทางเศรษฐกิจและแฟชั่นที่เจ้าหญิงชาร์ลอตต์แห่งเวลส์สร้างขึ้นตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแฟชั่นเด็กและสินค้าที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งข้อมูลล่าสุดในปี 2025 ชี้ให้เห็นว่าอิทธิพลของพระองค์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านราชวงศ์ประเมินว่า เจ้าหญิงชาร์ลอตต์จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับสหราชอาณาจักรระหว่าง 3 ถึง 4 พันล้านปอนด์ ตลอดช่วงพระชนม์ชีพของพระองค์ ซึ่งสูงกว่าพระเชษฐาอย่างเจ้าชายจอร์จที่เป็นรัชทายาทลำดับที่ 2 

โดยเหตุผลที่สำคัญก็มาจากการที่ตลาดแฟชั่นเด็กเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการที่เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงสวมใส่เสื้อผ้าจากแบรนด์ต่างๆ ช่วยกระตุ้นยอดขายและความนิยมของแบรนด์เหล่านั้น อีกทั้งการที่พระองค์ทรงสวมใส่เสื้อผ้าที่มีความหมายหรือเชื่อมโยงกับบุคคลสำคัญในราชวงศ์ ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้ช่วยสร้างเรื่องราวและความผูกพันกับประชาชน

เจ้าหญิงชาร์ลอตต์

และที่สำคัญคือ ภาพถ่ายของเจ้าหญิงชาร์ลอตต์มักถูกแชร์อย่างแพร่หลายในโซเชียลมีเดีย ซึ่งช่วยเพิ่มการรับรู้และความนิยมของแบรนด์ที่พระองค์ทรงสวมใส่ อย่างเช่นในช่วงเทศกาลคริสมาสต์ ปี 2024 พระองค์ติดโบว์กำมะหยี่สีเขียวจากแบรนด์ Beulah London ในเวลานั้นทำให้ของขายหมดอย่างรวดเร็ว และยังมีผู้ที่รอซื้ออีกจำนวนมาก 


การประเมินนี้สะท้อนถึงอิทธิพลของพระองค์ในการกระตุ้นยอดขายสินค้า โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแฟชั่นเด็กและสินค้าที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์

แม้ว่าเจ้าหญิงชาร์ลอตต์จะเป็นรัชทายาทลำดับที่ 3 ซึ่งโอกาสที่พระองค์จะครองบัลลังก์อาจจะมีโอกาสน้อยกว่าเจ้าชายจอร์จก็ตาม แต่ในอนาคตก็คาดว่าพระองค์จะได้รับตำแหน่ง "Princess Royal" ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มอบให้แก่พระราชธิดาองค์โตของกษัตริย์ และตำแหน่งนี้ปัจจุบันเป็นของเจ้าหญิงแอนน์ พระปิตุจฉาของพระองค์เอง ซึ่งในวันข้างหน้า หาก Prince of wales ขึ้นครองราชย์ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์จึงมีโอกาสได้รับตำแหน่งนี้ ซึ่งจะทำให้พระองค์มีบทบาทสำคัญในราชวงศ์อังกฤษเช่นกัน

เจ้าหญิงชาร์ลอตต์แห่งเวลส์ ทรงเป็นเจ้าหญิงพระองค์น้อยที่มีอิทธิพลและมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในโลก เพราะด้วยความน่ารัก ความมั่นใจ และอิทธิพลด้านแฟชั่น พระองค์ทรงเป็นที่รักของประชาชนและสื่อมวลชนทั่วโลก ถึงแม้จะยังทรงพระเยาว์ แต่เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ก็ทรงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นผู้นำและบทบาทสำคัญในราชวงศ์อังกฤษในอนาคต

 

ที่มา : 

 

เรื่อง : Labrai 

TAGS: #LifeStory #เจ้าหญิงชาร์ลอตต์แห่งเวลส์ #เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ #เด็กที่มั่งคั่งที่สุดในโลก #ราชวงศ์อังกฤษ #เจ้าชายจอร์จ