อุตสาหกรรมเพลงในปัจจุบันแตกต่างจากในอดีตมาก เพราะเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีช่องทางออนไลน์
ซึ่งแพลตฟอร์มมิวสิคสตรีมมิง จะช่วยให้ธุรกิจเพลงมีการเติบโตอย่างรวดเร็วผ่านการฟังเพลงที่สามารถทำได้จากทั่วทุกมุมโลก และสามารถคาดการณ์รายได้ระยะยาวได้แม่นยำมากขึ้น
จากข้อมูลของสมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ (IFPI) พบว่า ในปี 2565 รายได้จากมิวสิค สตรีมมิงทั่วโลกมีมากถึง 67% และมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีกว่า 5% ในขณะที่ประเทศไทย ผู้ฟังใช้เวลาฟังเพลงผ่านระบบสตรีมมิงมีระยะเวลานานถึงวันละ 1.8 ชั่วโมง
สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ครั้งนี้อาร์เอส มิวสิค ทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ ด้วยเล็งเห็นว่าอุตสาหกรรมเพลงมีโอกาสการสร้างรายได้ในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากช่องทางดิจิทัลที่เติบโตตามพฤติกรรมผู้บริโภค
จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ RS กลับมาลุยธุรกิจเพลงอีกครั้งภายใต้จังหวะเวลาที่ใช่ และมีโมเดลธุรกิจใหม่รองรับ รวมถึงการได้พาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งทั้งในและต่างประเทศ เพื่อขยายโอกาสและเติมเต็มศักยภาพของ อาร์เอส มิวสิค แบบก้าวกระโดด
โดยในไตรมาส 4/2566 บริษัทฯเตรียมเดบิวต์ศิลปินใหม่ ซึ่งมีทั้งเกิร์ลกรุ๊ปและบอยแบนด์ 7 กลุ่ม โดยในปีนี้ตั้งเป้ามีรายได้จาก RS MUSIC ที่ 720 ล้านบาทหรือคิดเป็น 25% ของรายได้ RS Group
อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมองหาพันทมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อร่วมมือกันขับเคลื่อนธุรกิจเพลงต่อเนื่องเพื่อให้รายได้ของ RS MUSIC เติบโตปีละ 30% และสามารถแตะ 1,200 ล้านบาท ภายในปี 2568
"เรามีฐานเรากในการทำเพลงอยู่แล้วไม่ได้เริ่มนับหนึ่งใหม่ เพียงแต่ตอนนี้เราจะเดินหน้าให้ธุรกิจเพลงตอบโจทย์ยุคปัจจุบันมากขึ้น และการที่มีพาร์ทเนอร์เข้ามาก็ทำให้ตลาดเพลงของเรากว้างขึ้น " สุรชัย กล่าว