TOA ลุ้น! รับอานิสงส์ทางอ้อมจากนโยบาย “คนละครึ่งพลัส” ลุยจับตลาดสุขภัณฑ์ไทย มูลค่ารวม 2 หมื่นลบ. ดึง JOMOO เปิดโชว์รูมแห่งแรกในไทย ปักธงขยายสาขาแตะ 150 แห่ง ในปี 69
นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ผู้นำนวัตกรรมสีและเคมีภัณฑ์ก่อสร้างของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดหวังรายได้ช่วงปลายปี 2568 ปรับตัวเพิ่มขึ้น รับอานิสงส์ทางอ้อมจากนโยบาย “คนละครึ่งพลัส” ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค ผนวกกับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในเครือ TOA อย่างต่อเนื่องจะช่วยหนุนรายได้ทั้งปี 2568 เติบโตเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2567 ที่มีรายได้รวม 21,357.16 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ เดินหน้าบุกตลาดซ่อมสร้าง (Repair/Renovation) เพิ่มมากขึ้น หลังเล็งเห็นโอกาสจากสถานการณ์แผ่นดินไหวในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งส่งผลให้จำนวนอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านแนวราบและคอนโดมิเนียมสร้างใหม่มีจำนวนลดลง พร้อมประเมินตลาดซ่อมสร้างภายในระยะ 2-3 ปี ยังเติบโตดีกว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์สร้างใหม่
ด้านกลยุทธ์การลงทุน บริษัทฯ มีแผนขยายสาขาแตะ 150 สาขา ภายในปี 2569 และ 300 สาขา ในปี 2570 ซึ่งคาดใช้งบลงทุนต่อสาขาเฉลี่ย 10 ล้านบาท หวังสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีแผนปรับปรุงกระบวนการผลิต ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผ่านการเพิ่มระบบอัตโนมัติทดแทนกำลังคน ภายใต้งบการลงทุนรวมทั้งปีราว 700 ล้านบาท
ล่าสุดบริษัทฯ ผนึกกำลัง JOMOO แบรนด์สุขภัณฑ์ระดับโลก จัดงานเปิดตัวโชว์รูม ‘Smart Bathroom Solution’ ครบวงจรแห่งแรกอย่างยิ่งใหญ่ ใจกลางสุขุมวิท 26 พร้อมนำ สุขภัณฑ์อัจฉริยะ ‘X-Series’ เป็นสินค้าเรือธง ตั้งเป้ายอดขาย 200 ล้านบาท ภายใน 3 ปี ตอกย้ำวิสัยทัศน์ใหม่ของ TOA ในการมุ่งสู่ตลาด Smart Toilet เพื่อตอบรับเมกะเทรนด์ด้านสุขภาพและสังคมสูงวัย
โดยเบื้องต้นบริษัทฯ ตั้งเป้ามีมูลค่าการตลาด (Market Share) ราว 1% จากมูลค่าตลาดสุขภัณฑ์ไทยรวมราว 20,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่ายังมีโอกาสสร้างการเติบโตต่อเนื่องในอนาคต รับแรงขับเคลื่อนหลักจากภาคอสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยว และความต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขอนามัย (Hygiene) และการลดการสัมผัส (Touchless) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์กลุ่ม Smart Toilet และ Smart Bathroom ที่มีเทคโนโลยี ทำความสะอาดอัตโนมัติและฟังก์ชันไร้สัมผัสพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้นโยบายด้านสาธารณสุข ยังส่งเสริมให้ครัวเรือนที่มีผู้สูงอายุหันมาใช้สุขภัณฑ์แบบนั่งราบมากขึ้น ทำให้สุขภัณฑ์อัจฉริยะกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับที่อยู่อาศัยในอนาคต ด้วยฟังก์ชันด้านความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และการตอบโจทย์กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ที่ใส่ใจสุขภาพโดยตรง
ผนวกกับความแข็งแกร่งของ TOA ที่มีทีมขายขนาดใหญ่ เครือข่ายร้านค้าตัวแทนจำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศ และฐานลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ รวมทั้งการมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์โซลูชันผู้บริโภคครบวงจรทุกเซกเมนต์ ทั้งสีทาอาคาร สีตกแต่งพิเศษ สีงานไม้ สีอุตสาหกรรม เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง เช่นเคมีภัณฑ์กันซึม ปูนกาวซีเมนต์ ปูนมอตาร์สำเร็จรูป กระเบื้องเซรามิกสำหรับปูพื้นและผนัง แผ่นฝ้ายิปซัม (ปัจจุบันเราเป็นเบอร์ 2 ในตลาด) ไปจนถึงสินค้ากลุ่มฮาร์ดแวร์ วัสดุก่อสร้างต่างๆ
“ด้วยปัจจัยเหล่านี้ เราจึงมั่นใจว่าการผนึกกำลังกับJOMOO แบรนด์สุขภัณฑ์ระดับโลก จะช่วยให้สินค้าSmart Toilet สามารถเข้าถึงผู้บริโภคและโครงการชั้นนำทั่วประเทศได้อย่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมยกระดับมาตรฐานคุณภาพชีวิตและสุขอนามัยของคนไทยโดยเราตั้งเป้ายอดขายภายใน 3 ปี ไว้ที่ 200 ล้านบาท” นายจตุภัทร์กล่าว
สำหรับการเปิดตัวโชว์รูม TOA I JOMOO แห่งใหม่ ณ ใจกลางสุขุมวิท 26 บนพื้นที่กว่า 460 ตารางเมตร ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อตอบโจทย์แนวคิด SMART & Digital Intelligence Bathroom อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงกว่า 300 รายการ อาทิ สุขภัณฑ์อัจฉริยะ, ก๊อกน้ำอัตโนมัติ, โถปัสสาวะชายอัตโนมัติ, ฝักบัว, อ่างอาบน้ำ และสุขภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อผู้สูงวัยและเด็กโดยเฉพาะ โชว์รูมแห่งนี้ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ลูกค้างานโครงการเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคทั่วไปได้สัมผัสและทดลองใช้งานนวัตกรรมจริง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ผ่านผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยและบริการครบวงจร
โชว์รูมถูกแบ่งออกเป็น 7 โซนหลัก ที่สะท้อนทั้งนวัตกรรมและการใส่ใจในทุกรายละเอียดการใช้งาน ประกอบด้วย
1. Smart Zone: โซนผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ X-Series ที่เน้นความอัจฉริยะและความเงียบเป็นพิเศษ
2. Smart Suite: ห้องน้ำที่รวมนวัตกรรมอัจฉริยะครบวงจร ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทันสมัย
3. Hotel Suite: โซนมาตรฐานระดับโรงแรมห้าดาว รองรับงานโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับสากล
4. Residential Suite: เจาะกลุ่มที่พักอาศัยระดับพรีเมียม ด้วยผลิตภัณฑ์ Gold Series ที่มอบความหรูหราเหนือระดับ
5. Public Area: สุขภัณฑ์สำหรับพื้นที่สาธารณะ ที่เน้นความทนทานและดีไซน์ร่วมสมัย
6. Senior Suite: โซนที่ออกแบบตามหลัก Universal Design รองรับการใช้งานของทุกเพศวัย รวมถึงผู้ใช้รถเข็น เพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบาย ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ด้วยสุขภัณฑ์ที่ปรับระดับความสูงได้ตามความต้องการ กดฟลัชง่ายที่ด้ามจับโดยไม่ต้องเอี้ยวตัว ลดโอกาสการลื่นล้มหรือบาดเจ็บ และยังมีสัญญาณเตือนฉุกเฉินเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
7. Kid’s Suite: ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยและพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัย
โดยสินค้าเรือธง สุขภัณฑ์อัจฉริยะรุ่น X-Series พร้อมมอบประสบการณ์เหนือระดับ ผ่านการผสานนวัตกรรมทั้งด้านความเงียบ ความสะอาด และความชาญฉลาดไว้อย่างสมบูรณ์แบบ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Silent Flushing ซึ่งทำงานเงียบในระดับเสียงเงียบสุด 38 เดซิเบล (เงียบราวกับอยู่ในห้องสมุด) พร้อมสุขอนามัยสูงสุดจากฝารองนั่งมาตรฐาน SIAA ที่ต้านแบคทีเรียได้มากกว่า 99% ระบบกำจัดกลิ่นด้วยสารแพลทินัมที่ขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า 99% และเทคโนโลยีการชำระล้างแบบใหม่ Flip-Flush ซึ่งเป็นนวัตกรรมปฏิวัติวงการสุขภัณฑ์อัจฉริยะรายเดียวในโลก
TOA มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจ Smart Toilet ด้วยกลยุทธ์สำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ 1. ขยายเครือข่ายเข้าถึงผู้บริโภค: เดินหน้าขยายเครือข่ายร้านตัวแทนจำหน่ายปัจจุบันสู่เป้าหมายกว่า 200 ร้านค้าภายในปี 2026 เพื่อเพิ่มการเข้าถึงสินค้าในทุกภูมิภาค ควบคู่กับการนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมคุณภาพสูงแก่โครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ 2. ยกระดับประสบการณ์งานโครงการ : เน้นนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในด้านดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งาน เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานสุขภัณฑ์ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม และอาคารสาธารณะรวมถึงงานรีโนเวทให้สะดวกสบายและทันสมัยยิ่งขึ้น และ 3. บริการหลังการขายครบวงจร: มุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้า ด้วยบริการหลังการขาย (After-Sales Service) ครบวงจร พร้อมทีมสนับสนุนและอะไหล่สำรอง (Spare Parts) เพื่อการดูแลอย่างต่อเนื่อง และมีแผนขยายโชว์รูมเพิ่มเติมเพื่อให้ลูกค้าสามารถทดลองสัมผัสประสบการณ์ใช้งานจริงก่อนตัดสินใจซื้อ ผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชม และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้แล้ววันนี้ ที่เว็บไซต์www.toalivingspace.com, LINE Official: toalivingspace, Facebook: TOA.LivingSpace และ Instagram: @toalivingspace
“การนำ Smart Toilet มาเป็นสินค้าเรือธง จะไม่เพียงแต่เสริมความแข็งแกร่งให้แก่ TOA ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันครบวงจรเท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับมาตรฐานของตลาดสุขภัณฑ์ในประเทศไทยให้เติบโตไปพร้อมกับนวัตกรรมระดับโลก โดย TOA ตั้งเป้าหมายในการขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านร้านค้าตัวแทน และโครงการชั้นนำทั่วประเทศ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า High-End ที่มีความต้องการสินค้าคุณภาพสูง ดีไซน์สวยงาม และเทคโนโลยีล้ำสมัย
การเปิดตัวโชว์รูมในครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่การนำเสนอสินค้าใหม่ แต่เป็นการประกาศถึงทิศทางใหม่ของ TOA ในการก้าวเข้าสู่ตลาดที่มีอนาคตสดใส และตอกย้ำถึงศักยภาพของตลาด Smart Toilet ในไทยที่กำลังจะก้าวสู่ยุคแห่งความอัจฉริยะอย่างเต็มตัว” นายจตุภัทร์ กล่าวปิดท้าย