ONYX Hospitality Group ปักธงรายได้ปี 68 แตะ 9 พันล้าน จ่อออกกองทรัสต์ Q4/68 นี้

ONYX Hospitality Group ปักธงรายได้ปี 68 แตะ 9 พันล้าน จ่อออกกองทรัสต์ Q4/68 นี้
ONYX Hospitality Group วางธงรายได้ปี 68 แตะ 9 พันลบ. EBITDA แตะ 1.9 พันลบ. พร้อมเดินหน้าออกกองทรัสต์ Q4/68 นี้ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อนักลงทุน และสร้างการเติบโตให้ดับธุรกิจอย่างยั่งยืน

นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป” เป็นบริษัทบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ต เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และเรสซิเดนซ์ ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 แตะ 9,000 ล้านบาท EBITDA แตะ 1,900 ล้านบาท จากการเปิดตัวโรงแรมใหม่อย่างต่อเนื่อง คาดช่วยหนุนให้ผลงานทั้งปีเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

โดยบริษัทฯ มีแบรนด์ภายใต้การดูแล ได้แก่ อมารี (Amari), โอโซ่ (OZO), ชามา (Shama) และโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ (Oriental Residence) ซึ่งแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์และสามารถตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของนักเดินทางที่มาทำธุรกิจหรือพักผ่อนในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้อย่างดีเยี่ยม ปัจจุบันมีโครงการที่เปิดให้บริการทั้งสิ้น 42 แห่ง รวมกว่า 7,700 ห้อง ในประเทศไทย มาเลเซีย จีน ฮ่องกง บังกลาเทศ ศรีลังกา และ สปป.ลาว 

“ปีที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ดีของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป จากการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม ส่งผลให้อัตราการเข้าพักของโรงแรมในกลุ่มออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะแบรนด์ อมารี (Amari) และ โอโซ่ (OZO) มีอัตราการเข้าพักที่โดดเด่น นำไปสู่ผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม โดยมีรายได้กว่า 8,700 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงานรวม (GOP) กว่า 3,400 ล้านบาท” นายยุทธชัย กล่าว

นายยุทธชัย กล่าวต่อว่า ขณะที่ปี 2025 ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ยังคงดำเนินการขยายการเติบโตผ่านการขยายพอร์ตโฟลิโออย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยล่าสุดได้เปิดตัว โรงแรมใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ อมารี โคลัมโบ ประเทศศรีลังกา (Amari Colombo, Sri Lanka) เปิดให้บริการเดือน ธันวาคม 2024, อมารี เวียงจันทน์ ประเทศลาว (Amari Vientiane, Laos) เปิดให้บริการเดือน มีนาคม 2025, อมารี บางแสน (Amari Bangsaen) เปิดให้บริการเดือน มิถุนายน 2025 และโอโซ่ เมดินี ประเทศมาเลเชีย (OZO Medini, Malaysia) เป็นต้น ซึ่งการเปิดตัวโรงแรมใหม่อย่างต่อเนื่องเช่นนี้ เป็นเครื่องยืนยันได้ถึงการเดินหน้าตามเป้าหมายพันธกิจที่ตั้งไว้ในการบริหารจัดการโรงแรมและที่พักมากกว่า 50 แห่งภายในปี 2025 และเพิ่มขึ้นเป็น 70 แห่งภายในปี 2028

ทั้งนี้ แบรนด์ “อมารี (Amari)” ซึ่งเป็นโรงแรมระดับบน ให้บริการเต็มรูปแบบที่สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของนักเดินทางทั้งเพื่อธุรกิจและเพื่อการพักผ่อน บริการของอมารีครอบคลุมทั้งการบริการแบบ City MICE, Urban Resort และ Resort โรงแรมตั้งอยู่ในทำเลที่หลากหลาย ตั้งแต่ริมชายฝั่ง ใจกลางเมืองที่คึกคัก หรือท่ามกลางทิวทัศน์ภูเขาและธรรมชาติอันเขียวขจี ครอบคลุมจุดหมายสำคัญในประเทศไทย มาเลเซีย ลาว บังกลาเทศ และศรีลังกา พร้อมมอบบริการด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับทุกช่วงเวลาแห่งการเข้าพัก ผ่านจิตวิญญาณของอมารีที่สะท้อนอยู่ในทุกแง่มุมของการบริการที่ก้าวข้ามขอบเขตของการบริการแบบดั้งเดิม เพื่อเติมเต็มความต้องการที่หลากหลายของทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังผสมผสานประเพณีท้องถิ่นเข้ากับความทันสมัยไว้ได้อย่างกลมกลืน เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่มีความหมายและตรึงใจให้เป็นความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนให้กับแขกผู้เข้าพักในทุกครั้งที่เข้าพักที่อมารี ปัจจุบันโรงแรมภายใต้แบรนด์ “อมารี (Amari)” เปิดให้บริการแล้ว 16 แห่ง ครอบคลุมหลากหลายประเทศในเอเชียแปซิฟิก 

ขณะที่แบรนด์ “โอโซ่ (OZO)” เป็นโรงแรมระดับUpper-middle scale ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเน้นความสนุกสนานและความลงตัวในทุกรายละเอียดของการเข้าพัก ตอบโจทย์นักเดินทางทั้งกลุ่ม Leisure และ Business ใน 3 เรื่องหลัก คือ Sleep การมีเครื่องอำนวยความสะดวกเพื่อการนอนที่มีคุณภาพ Connect การเชื่อมต่อเทคโนโลยีได้ง่ายและรวดเร็ว พร้อมพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมสนุกๆและ Explore การสนับสนุนในการออกไปค้นหาแรงบันดาลใจและความสนุกของท้องถิ่น ก่อนกลับมารีชาร์จพลังได้ที่ OZO ปัจจุบัน OZO มีโรงแรมในหลายเมืองหลักทั้งในประเทศไทยและมาเลเซีย และจะมุ่งส่งเสริมแบรนด์ OZO ให้แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตอบโจทย์นักเดินทางรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด “Unpack. Good. Vibes.” โดยมองว่า OZO จะช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น และสามารถแข่งขันในตลาดระดับภูมิภาค 

ด้วยความหลากหลายของแบรนด์แต่ส่งเสริมกัน ทำให้ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของแขกผู้เข้าพักและสร้างประสบการณ์โดดเด่นได้อย่างมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร สามารถทำให้เป็นแบรนด์โรงแรมที่ยืนหนึ่งด้วยประสบการณ์ที่แตกต่างและน่าจดจำ แม้ในตลาดที่มีพลวัตของการแข่งขันที่สูงก็ยังเข้าถึงทุกความต้องการของนักเดินทางได้อย่างแท้จริง

มากกว่านั้น การพัฒนาประสบการณ์การเข้าพักกับแบรนด์โรงแรมในเครือออนิกซ์ฯ ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง ล่าสุดเตรียมปรับปรุงอมารี ภูเก็ต (Amari Phuket) และ อมารี ดอนเมือง (Amari Don Muang Airport Bangkok) ครั้งใหญ่ เพื่อให้สามารถสร้างความประทับใจในการเข้าพักได้ตามมาตรฐานในระดับสากลที่ตั้งไว้ และสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดให้สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน พร้อมทั้งยังลงทุนในการพัฒนาด้านเทคโนโลยี ระบบ CRM, Martech และแพลตฟอร์มจองห้องพักโดยตรง เพื่อให้เข้าใจความต้องการเชิงลึกของลูกค้าและส่งมอบประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคล รวมถึงการจับมือกับพันธมิตรชั้นนำทั้งธนาคาร บัตรเครดิต สายการบิน ธุรกิจรีเทล และแบรนด์ไลฟ์สไตล์ เพื่อสร้างเครือข่ายการตลาดแบบ Ecosystem เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้หลากหลายและครอบคลุมทุกรูปแบบ Lifestyle ของลูกค้า เช่น การใช้คะแนนสะสมแลกที่พัก ร้านอาหาร สปา พร้อมรับสิทธิประโยชน์จากพาร์ทเนอร์พันธมิตรที่เราคัดสรรมาโดยเฉพาะเป็นต้น นายยุทธชัยกล่าว

ดร.ณัฐกวิน เจียมโชติพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ รีท แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ได้เดินหน้าจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อลงทุนในโรงแรมที่ศักยภาพของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ล่าสุดได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์ (แบบไฟลิ่ง) และแบบคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ออนิกซ์ (ONYX Leasehold Real Estate Investment Trust) หรือ ONYXRT แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อสร้างพอร์ตโรงแรมคุณภาพสูง ที่มีโอกาสในการเติบโตระยะยาว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดขายกองทรัสต์ได้ในช่วง Q4/68 นี้ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เป็นทรัสตี และมีบริษัท ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ รีท แมเนจเมนท์ จำกัด เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ 

โดยทรัพย์สินที่ ONYXRT จะเข้าลงทุนครั้งแรก ได้แก่ 1. อมารี กรุงเทพ (Amari Bangkok) ตั้งอยู่ใกล้แยกราชประสงค์ซึ่งเป็นย่านธุรกิจและท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงเทพฯ อีกทั้งการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้มในอนาคตจะเพิ่มศักยภาพของโครงการมากยิ่งขึ้น โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในปีที่ผ่านมา 82% 2. อมารี พัทยา (Amari Pattaya) 3. โอโซ่ พัทยา (OZO Pattaya) ทั้งสองโครงการตั้งอยู่ใจกลางพัทยาเหนือ ติดริมโค้งอ่าวทะเลที่ มีเพียงถนนเลียบชายหาดคั่น ใกล้ร้านอาหารและศูนย์การค้า จึงได้รับความนิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในปีที่ผ่านมา 80% และ 89% ตามลำดับ และ 4. โอโซ่ ภูเก็ต (OZO Phuket) ใกล้หาดกะตะเพียง 150 เมตร และหาดกะรนเพียง 850 เมตร และห่างจากสนามบินภูเก็ตเพียง 1 ชั่วโมง โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในปีที่ผ่านมา 86% 

“ONYXRT มีจุดเด่นต่างจาก REIT โรงแรมอื่นๆ โดยเราคัดเลือกทรัพย์สินคุณภาพสูง ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่ได้รับความนิยมของผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยและชาวต่างชาติ จากทรัพย์สินซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ผู้มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมโรงแรมมากกว่า 50 ปี อีกทั้งการลงทุนของกองทรัสต์มีการกระจายความเสี่ยงในหลากหลายมิติ จาก 4 ทรัพย์สินที่เข้าลงทุน ใน 3 ทำเลยอดนิยม ภายใต้ 2 แบรนด์โรงแรมที่เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงเพื่อให้มั่นใจว่ากองทรัสต์จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาว อีกทั้งยังมีโอกาสขยายการลงทุนในทรัพย์สินของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ในอนาคตอีกด้วย” ดร.ณัฐกวิน กล่าว

TAGS: #ONYXHospitalityGroup #กองทรัสต์ #โรงแรม #amari #ozo