CRC ประกาศยุทธศาสตร์ปี 2567 เดินหน้าอัพเกรด Omni Channel ดึง AI เสริมทัพ ก้าวสู่ The Next Era ปั้นรายได้โต 9-11% พร้อมทุ่มงบ 22,000-24,000 รองรับขยายธุรกิจ
ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่าสำหรับปี 2567 บริษัทฯ วางกลยุทธ์ภายใต้คอนเซ็ปต์ของ Leading Excellence and Advancing Sustainability คือการบริหารธุรกิจทุกกลุ่มของเซ็นทรัล รีเทล รวมทั้งมีการวางกลยุทธ์เรื่องการสร้างความยั่งยืน ให้เข้มข้นไปอีกขั้น
โดยเซ็นทรัล รีเทล จะเดินหน้าสู่ The Next Era ด้วยวิสัยทัศน์ CRC OMNI-Intelligence ด้วยการนำ AI เข้าไปในทุกกระบวนการของการทำธุรกิจ อีกทั้งยังขยายอีโคซิสเต็มจาก B2C สู่ B2B อย่างเต็มรูปแบบ และมีการ Integrate AI ให้เข้ากับ HI (Human Intelligence) เพื่อให้พนักงานทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
*ปักธงรายได้ปี 2567 โต 15-17% พร้อมทุ่มงบ 2.2-2.4 หมื่นล้านบ. ขยายทุกกลุ่มธุรกิจ
สำหรับเป้าหมายปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 9-11% ส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA จะเติบโต 15-17% พร้อมวางงบลงทุนไว้ที่ 22,000-24,000 ล้านบาท สำหรับรองรับขยายทุกลุ่มธุรกิจ โดยมีแผนการดำเนินงานดังนี้
1. กลุ่มแฟชั่น : พัฒนาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แฟล็กชิปสโตร์ สาขาชิดลม สู่การเป็น World Class Luxury Destination รวมถึงการขยายสาขาเพิ่ม 2 แห่ง พร้อมรีโนเวทและอัพเกรดห้างอีก 4 แห่ง ตลอดจนมีแผนเพิ่มแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และนำแบรนด์ในไทยขยายไปยังเวียดนาม
2. กลุ่มฟู้ด : เดินหน้าขยาย GO Wholesale อีก 7 สาขา เพื่อให้เป็นจุดหมายใหม่ The New Choice For All สำหรับผู้ประกอบการทุกคน พร้อมตั้งเป้าขยายรวม 40 สาขา ภายใน 5 ปี และก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 Omni B2B ในกลุ่มHoReCa
นอกจากนี้ยังมีแผนขยายสาขา Tops รวม 10 สาขาในไทย สำหรับประเทศเวียดนาม มีแผนเปิด ไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! 3 สาขา และ go! (มินิ โก!) อีก 9 สาขา ซึ่งถือเป็น Proven Format ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
3. กลุ่มฮาร์ดไลน์ : เดินหน้าขยายสาขาไทวัสดุ 9 สาขา พร้อมรีโนเวทอีก 4 สาขา และได้ทรานส์ฟอร์มเหงียนคิมในเวียดนามให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
4. กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ : ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ มีการพัฒนาและปรับปรุงสาขาอย่างต่อเนื่อง ส่วนศูนย์การค้าGO! ในเวียดนาม มีแผนขยายอีก 3 สาขา โดยตั้งเป้าปิดปี 2567 ด้วยจำนวน 42 สาขา ครอบคลุม 42 จังหวัด จาก63 จังหวัดทั่วประเทศ
ส่วนแนวโน้มยอดขายในไตรมาส 1/2567 มีสัญญาณการเติบโตที่ดี จากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐที่ออกมา คือโครงการ Easy e-Receipt ซึ่งในส่วนของลูกค้าที่เข้ามาใช้จับจ่ายใช้สอยในสาขาต่างๆของ CRC เห็น Transaction ในการขอใบกำกับภาษีอิเล็คทรอนิกส์เป็นจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นว่าช่วงต้นปีประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการกระตุ้นกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงให้ออกมาจับจ่ายใช้สอย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี และช่วยหนุนยอดขายและผลงานของ CRC เติบโตต่อเนื่องในไตรมาสนี้