ไขข้อสงสัย “กระดาษทิชชู” ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก!

ไขข้อสงสัย “กระดาษทิชชู” ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก!
กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) ไขข้อสงสัย ข่าวสาวชาวจีนวัย 20 ปีป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกโดยชี้สาเหตุมาจากใช้กระดาษทิชชูเยื่อรีไซเคิลเช็ดทำความสะอาดน้องสาว

นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ตามที่มีข่าวหญิงสาวรายหนึ่งในต่างประเทศ ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก โดยชี้สาเหตุมาจากการเลือกใช้กระดาษชำระหรือกระดาษทิชชูที่มีส่วนผสมของเยื่อรีไซเคิลมาเช็ดทำความสะอาดร่างกายและอวัยวะสืบพันธุ์เป็นประจำ สร้างความตกใจแก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงที่มีการใช้กระดาษทิชชูเป็นประจำ 

จากข่าวดังกล่าว ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันแน่ชัดว่าการใช้กระดาษทิชชูเช็ดทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์เป็นประจำทำให้เกิดโรคมะเร็งในมนุษย์ อย่างไรก็ตาม หากต้องการใช้ทิชชูเช็ดทำความสะอาดร่างกายควรเลือกใช้ที่ผลิตจากเยื่อกระดาษบริสุทธิ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานและใช้ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ตามการใช้งาน

นพ.รุ่งเรืองกล่าวว่า กระดาษทิชชูแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทตามประโยชน์ใช้สอย ได้แก่ กระดาษชำระ กระดาษเช็ดหน้า กระดาษเช็ดปาก กระดาษเช็ดมือ และกระดาษเช็ดอเนกประสงค์ ซึ่งมีทั้งที่ผลิตจากเยื่อกระดาษบริสุทธิ์ (เยื่อกระดาษจากต้นไม้) และจากเยื่อรีไซเคิล โดยกระดาษทิชชูที่มีเยื่อรีไซเคิลเป็นส่วนผสม จะทำมาจากจากกระดาษที่ใช้งานแล้ว นำมาถูกให้ความร้อน ผ่านขั้นตอนการกำจัดหมึก (Deinking) และขึ้นรูปใหม่ ด้วยความร้อนที่สูงมาก 

ทิชชูจากเยื่อรีไซเคิลจึงมีสีขาวขุ่น รวมถึงความขรุขระ ไม่ค่อยเรียบ มีคุณภาพต่ำกว่าทิชชูประเภทอื่น ราคาถูก บางชนิดมีการใส่สีสันลงไป เช่น สีชมพู สีน้ำตาล เพื่อปกปิดให้ผู้ใช้งานมองข้าม โดยทั่วไปแล้วมีสารเรืองแสงตกค้าง เพราะในขั้นตอนการกำจัดหมึกจะทำให้ความขาวสว่างของเยื่อกระดาษลดลงจึงใส่สารฟอกนวลหรือสารเพิ่มความความเข้าไป ทำให้มีสารเรืองแสงตกค้าง

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการกล่าวว่า การเลือกใช้กระดาษทิชชูที่มีเยื่อรีไซเคิลเป็นส่วนผสมซึ่งอาจมีสารเรืองแสงตกค้างอยู่ เมื่อใช้เช็ดทำความสะอาดผิวสารเรืองแสงซึ่งเป็นสารที่ละลายในน้ำได้ จะหลงเหลือสารตกค้างอยู่บนผิวหนังอาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองในบางคน และจากการศึกษาพบว่าเมื่อสารเรืองแสงได้รับรังสี อัลตราไวโอเลต (UV) จากแสงแดดอาจเหนี่ยวนำให้เกิดสารก่อมะเร็งที่ผิวหนัง ทำให้เกิดมะเร็งที่ผิวหนังในระยะยาวได้

“ประชาชนควรเลือกซื้อทิชชูที่ไม่มีเยื่อรีไซเคิลเป็นส่วนผสม โดยดูที่ฉลากที่ระบุว่าผลิตจากเยื่อบริสุทธิ์และไม่มีสารเรืองแสง แต่อย่างไรก็ตาม บางยี่ห้อไม่ได้ระบุไว้ว่าทำมาจากเยื่อชนิดใด มีวิธีทดสอบแบบง่ายๆ ด้วยตัวเอง คือ นำกระดาษทิชชูจุ่มน้ำ แล้วนำมาพักทิ้งไว้สักครู่ สีบนเนื้อกระดาษทิชชูจะเปลี่ยนไป หากกระดาษทิชชูใดที่มีการเปลี่ยนแปลงสีของเนื้อกระดาษจากขาวเปลี่ยนเป็นดำคล้ำแสดงว่ากระดาษทิชชูนั่นมีส่วนผสมของเยื่อรีไซเคิล ส่วนกระดาษทิชชูที่ทำจากเยื่อกระดาษบริสุทธิ์จะไม่มีการเปลี่ยนสี หรือหากที่บ้านมีเครื่องหรือไฟฉายที่ใช้ตรวจธนบัตรปลอม ซึ่งเครื่องเหล่านี้มีแหล่งกำหนดแสงเป็น UV ก็สามารถนำมาส่องที่กระดาษทิชชูเพื่อตรวจหาสารเรืองแสงได้ ถ้ากระดาษทิชชูมีการเติมสารเรืองลงไปก็จะเรืองแสงออกมาแสดงว่ากระดาษทิชชูนี้มีเยื่อรีไซเคิลเป็นส่วนผสม” นพ.รุ่งเรืองกล่าว

นพ.รุ่งเรืองกล่าวว่า หากต้องใช้ทิชชูทำความสะอาดร่างกายและอวัยวะสืบพันธุ์นอกจากควรเลือกใช้กระดาษทิชชูที่ผลิตจากเยื่อบริสุทธิ์แล้วต้องเป็นทิชชูที่สะอาด แห้ง ไม่เปียกชื้น เพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรีย รา ไวรัส หรือเชื้ออื่นๆ ที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในกระดาษทิชชูที่เปียก สัมผัสหรือเข้าสู่ร่างกายก่อให้โรคร้ายตามมาได้

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แนะวิธีรู้ทันฉลากสินค้า

1.ชื่อผลิตภัณฑ์ต้องชัดเจนและไม่เกิดความเข้าใจผิด

2.ชื่อผู้ผลิตและที่ตั้งต้องชัดเจน  ทั้งชื่อผู้ผลิต  ที่ตั้ง สถานที่ผลิต สถานที่แบ่งบรรจุ เพราะหากใช้แล้วเป็นอันตราย เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมายได้

3.วัน เดือน ปีที่ผลิตและหมดอายุ  เพื่อจะได้ใช้อย่างปลอดภัย ซึ่งฉลากผลิตภัณฑ์ทุกชนิดควรมีวันผลิต ส่วนวันหมดอายุอาหารบางประเภทที่มีอายุสั้น   เช่น    นม   โยเกิร์ต ฯลฯ และยาทุกตัวจะต้องแสดงให้ชัดเจน

4.ปริมาตรหรือปริมาณสุทธิ ช่วยประกอบการตัดสินใจซื้อให้ดียิ่งขึ้นซึ่งผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดต้องแสดงจำนวนที่บรรจุในภาชนะที่จำหน่าย โดยหน่วยจะแตกต่างตามลักษณะของสังเกตได้ง่ายๆ ดังนี้

  • ของเหลว แสดงจำนวนหน่วยปริมาตรของเหลวเช่น   มิลลิลิตร ซีซี   ลิตร    ฯลฯ 
  • ของแข็ง แสดงจำนวนปริมาณในหน่วยน้ำหนัก เช่น มิลลิกรัม กรัม    กิโลกรัม ฯลฯ
  • ของผสมทั้งของแข็งและของเหลว เช่น   น้ำหนักรวม   น้ำหนักสุทธิ  น้ำหนักเนื้อ ฯลฯ

5.ส่วนประกอบสำคัญ จะแสดงส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เป็นร้อยละ

6.เครื่องหมายรับรองคุณภาพ ได้แก่ อย.   หรือ    มอก. เพื่อบ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีกระบวนการผลิตปลอดภัย

บทความจากผศ. นพ.ภุชงค์ ลิขิตธนสมบัติ อาจารย์ประจำ หน่วยมะเร็งวิทยานรีเวช ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยาโรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูกโดย มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งของอวัยวะสืบพันธุ์สตรี เป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในสตรีไทย และทำให้มีผู้ป่วยเสียชีวิตเป็นจำนวนมากจากโรคนี้ จึงควรมาทำความรู้จักโรคนี้

สาเหตุสำคัญของโรคนี้เกิดจากเชื้อฮิวแมนแป๊ปปิโลม่าไวรัส (Human papilloma virus = HPV) หรืออีกชื่อหนึ่งว่า เชื้อเอชพีวี (HPV) ซึ่งติดต่อไปยังบุคคลอื่นๆ ได้จากการมีเพศสัมพันธ์ ในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งอาจจะเคยได้รับเชื้อนี้ แต่ร่างกายสามารถกำจัดไปได้ และมีบางส่วนที่ไม่สามารถกำจัดเชื้อได้ รวมถึงมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูกและทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น หูดหงอนไก่ มะเร็งปากมดลูก และอื่นๆ ในขณะที่ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ นอกจากเชื้อ HPV ที่กล่าวมาได้แก่

  1. อายุ ส่วนใหญ่มะเร็งปากมดลูกมักพบในผู้ที่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป
  2. มีคู่นอนหลายคน ทำให้มีโอกาสได้รับเชื้อ HPV มากขึ้น
  3. สูบบุหรี่
  4. มีบุตรจำนวนมาก
  5. ร่างกายมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (โรคเอดส์)
  6. ไม่เคยตรวจภายใน เพื่อค้นหารอยโรคระยะก่อนเป็นมะเร็ง (Precancercous lesion) ซึ่งในช่วงเวลานี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ แต่สามารถตรวจพบด้วยการตรวจทางเซลล์วิทยาที่เรียกว่าแป๊ปสเมียร์ (Pap smear) และสามารถรักษาได้ หากตรวจพบรอยโรคในระยะนี้ก็จะสามารถป้องกันการเกิดเป็นมะเร็งปากมดลูกได้
TAGS: #กรมวิทยาศาสตร์บริการ #กระดาษทิชชู #มะเร็งปากมดลูก