SME ไทยยุคใหม่ ไม่ใช่แค่ต้องมีสินค้าดี แต่ต้องมีจุดต่าง รู้จักตลาด และมีแผนการตลาดที่ชัดเจน เพราะในโลกที่ผู้บริโภคเปลี่ยนเร็ว "แบรนด์ที่เติบโต" คือแบรนด์ที่ “ปรับได้ไว และคิดได้ไกล”

“รู้ตลาด – รู้ตัวเอง – หาจุดต่าง” สูตร SME ไทย ปั้นแบรนด์ให้ปัง ติดเชลฟ์เซเว่นฯ อย่างยั่งยืน

ในยุคที่การแข่งขันในตลาดค้าปลีกสูงขึ้นทุกวัน การได้วางสินค้าบนเชลฟ์ เซเว่น อีเลฟเว่น ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของ SME ไทย ที่ต้องการขยายฐานลูกค้าและสร้างแบรนด์ให้แข็งแรง โดยเฉพาะเมื่อร้านเซเว่นฯ มีผู้เข้ามาใช้บริการมากกว่า 10 ล้านคนต่อวันทั่วประเทศ ซึ่งไม่เพียงแต่เปิดโอกาสการเข้าถึงผู้บริโภค แต่ยังเป็นเวทีแสดงศักยภาพของสินค้าไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ล่าสุด ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ได้เผยแนวทาง "สูตรสำเร็จ SME ไทย ปั้นสินค้าให้ปัง" ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถปักหมุดสินค้าบนเชลฟ์เซเว่นฯ ได้อย่างมั่นคง พร้อมหนุนสินค้าไทยกว่า 8,000 รายการ เข้าถึงตลาดจริง ตั้งแต่กลุ่มอาหาร ขนม เครื่องดื่ม สกินแคร์ ไปจนถึงของใช้ในชีวิตประจำวัน

3 ขั้นตอนกลยุทธ์ SME บุกตลาดเซเว่นฯ

1. รู้ตลาด – รู้ตัวเอง – หาจุดต่าง (Positioning & Market Fit)
SME ต้องเข้าใจตลาด และสามารถชูจุดขายที่แตกต่าง (Differentiation) ได้ชัดเจน เช่น สินค้าสุขภาพ สูตรเฉพาะ หรือวัตถุดิบท้องถิ่น การทำการบ้านอย่างดี เช่น วิเคราะห์คู่แข่ง หาเทรนด์ตลาด และเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค จะช่วยให้แบรนด์เจาะตลาดได้แม่นยำ

ตัวอย่าง: แบรนด์ “เกรนเน่ย์” สแน็กเพื่อสุขภาพจากข้าวและธัญพืช ใช้กลยุทธ์เน้นคุณค่าสารอาหารและความเป็นธรรมชาติ ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคสาย Healthy ได้อย่างตรงจุด

2. กลยุทธ์การนำเสนอที่ผ่านการคัดเลือก (Pitch & Placement)
การเข้าสู่เชลฟ์เซเว่นฯ ไม่ใช่แค่มีสินค้าดี แต่ต้อง “ขายได้” และ “ขายซ้ำได้” ขั้นตอนคัดเลือกครอบคลุมตั้งแต่การลงทะเบียน เสนอสินค้า ทดสอบตัวอย่าง และทดลองขาย โดยมีเกณฑ์ชัดเจน เช่น คุณภาพ ความปลอดภัย ความแตกต่าง และศักยภาพในการตลาด

สูตรลับ “2 ดู 2 ทำ”

• ดูเทรนด์: เทรนด์ Plant-based, Low Sugar

• ดูคู่แข่ง: แล้วหามุมที่ต่าง

• ทำการตลาด: ผ่าน TikTok, Facebook หรือช่องทางออนไลน์

• ทำต่อเนื่อง: ไม่ใช่แค่ไวรัลชั่วคราว แต่ต้องสร้างแบรนด์ระยะยาว

3. สร้างแบรนด์ให้ยืนระยะ (Sustainable Growth)
สินค้าที่เข้าเซเว่นฯ แล้ว ต้อง “โตได้บนเชลฟ์” อย่างมั่นคง สิ่งที่ SME ต้องให้ความสำคัญ ได้แก่ ความคงที่ของคุณภาพ รสชาติ ราคาเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และบรรจุภัณฑ์ที่สะดวก ใช้งานง่าย รวมถึงใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เช่น ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ หรือสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น

ตัวอย่างที่น่าจับตา:

• น้ำพริกเอมโอชา ใช้เสียงของลูกค้าพัฒนาสูตรต่อเนื่อง

• กล้วยหอมทอง N&N Fruits มุ่งสร้างอาชีพให้เกษตรกรกว่า 400 รายในเพชรบุรี พร้อมเดินหน้าเกษตรแบบยั่งยืน

เซเว่นฯ = พันธมิตรธุรกิจที่ขับเคลื่อน SME

เซเว่นฯ ไม่ใช่แค่ช่องทางการขาย แต่เป็นพันธมิตรธุรกิจที่ช่วยต่อยอดให้ SME ก้าวสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้น ด้วย กลยุทธ์ "3 ให้" ได้แก่

• ให้ช่องทางจำหน่าย

• ให้ความรู้

• ให้การเชื่อมโยงเครือข่าย

นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้ SME หน้าใหม่ทดลองวางขายในบางสาขา (25–100 สาขา) เพื่อเรียนรู้ตลาดจริงก่อนขยายสู่ระดับประเทศ ถือเป็นบันไดธุรกิจที่ลดความเสี่ยงและต่อยอดได้อย่างยั่งยืน

การวางสินค้าบนเชลฟ์เซเว่นฯ จึงไม่ใช่แค่การขายของ แต่คือการสร้างแบรนด์ สร้างอาชีพ และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นและประเทศในภาพรวม