พร้อมแนะนำฟีเจอร์ใหม่ ‘การแจ้งเตือนด้วยเสียง’ (Voice Alert) ด้วยเสียงของพี่หนุ่ม กรรชัย และมอบโค้ด Whoscall พรีเมียมฟรีนาน 1 ปี จำนวน 2,000,000 โค้ด
บริษัท โกโกลุก (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Whoscall และผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อความเชื่อมั่น (TrustTech) ได้ร่วมมือกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อยกระดับการปกป้องคนไทยจากภัยมิจฉาชีพ โดยมีเป้าหมายให้ประชาชน ทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงเครื่องมือด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้อย่างเท่าเทียม
ภายใต้ความร่วมระหว่างกันในครั้งนี้ ได้นำเสนอฟีเจอร์ ‘การแจ้งเตือนด้วยเสียง (Voice Alert) ด้วยเสียงของพี่หนุ่ม กรรชัย พร้อมมอบโค้ด Whoscall พรีเมียมใช้งานฟรีเป็นระยะเวลา 365 วัน จำนวน 2,000,000 โค้ด ให้กับกระทรวง พม. เพื่อนำไปจัดสรรให้แก่กลุ่มเป้าหมายในความดูแล อาทิ ผู้สูงอายุ คนพิการ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ยังได้ขยายความร่วมมือไปยังภาคเอกชนรายสำคัญอย่าง Flash Express, Grab และ Sansiri เพื่อผลักดันให้เทคโนโลยีความปลอดภัยดิจิทัลเข้าถึงคนไทยทุกกลุ่ม ตั้งแต่ผู้ใช้งานทั่วไป พนักงานบริการ ไปจนถึงผู้สูงอายุในพื้นที่ห่างไกลเพื่อร่วมกันสร้างสังคมไทยที่ปลอดภัยจากมิจฉาชีพอย่างยั่งยืน
จาก รายงานสถานการณ์ภัยคุกคามออนไลน์ ปี 2567 พบว่าคนไทยกว่า 36 ล้านคนได้รับผลกระทบจาก การหลอกลวงออนไลน์ และมีผู้เสียหายมากถึง 18.37 ล้านคน ทั้งนี้ “ผู้สูงอายุ” ก็ตกเป็นเหยื่อเพิ่มขึ้นถึง 22% ขณะเดียวกัน “คนพิการ” ก็เผชิญความเสี่ยงไม่ต่างกัน เช่น กรณีคนพิการวัย 29 ปี ถูกแอบอ้าง เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารจนสูญเงิน หรือกรณีหญิงพิการทางสมองที่ถูกหลอกจนหมดบัญชี สะท้อนถึง ความจำเป็นในการมีเครื่องมือที่เข้าถึงง่ายและใช้ได้จริงในการป้องกันภัย
นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า “ภัยจาก มิจฉาชีพในปัจจุบันทวีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อคนไทยทุกกลุ่ม รวมถึงกลุ่มเปราะบางทั้ง ผู้สูงอายุ และคนพิการ ดังนั้น กระทรวง พม. จึงมุ่งผลักดันนโยบายเชิงรุกในการป้องกันภัยให้คนไทย ห่างไกลจากมิจฉาชีพ และได้ผนึกความร่วมมือกับภาคเอกชนอย่าง Whoscall นำเทคโนโลยีที่มี นวัตกรรมมาใช้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน”
“นอกจากนี้ กระทรวง พม. ยังมีแผนจัดกิจกรรม Roadshow ใน 5 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี และสงขลาเพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านความปลอดภัยดิจิทัลจาก Whoscall และสร้าง ภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนอย่างใกล้ชิดในระดับชุมชน ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงความใส่ใจ ของ พม. ในการดูแลประชาชนทุกกลุ่มเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างความปลอดภัยทั้งในโลกจริง และโลกดิจิทัล อย่างยั่งยืน” นายอนุกูล กล่าวเสริม
นายกชศร ใจแจ่ม กรรมการผู้จัดการบริษัท โกโกลุก (ประเทศไทย) กล่าวว่า “การร่วมมือกับ กระทรวง พม. สะท้อนความตั้งใจของเราในการนำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่กำลัง เผชิญกับภัยจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งไม่เพียงสร้างความเสียหายทางการเงิน แต่ยังกระทบ จิตใจและความเชื่อมั่นของผู้คน Whoscall จึงมุ่งมั่นทำงานร่วมกับภาครัฐ เพื่อให้เครื่องมือป้องกันภัย เข้าถึงประชาชนได้จริง โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เรายืนยันว่าไม่ได้สร้างแค่ แอปพลิเคชัน แต่เรากำลังสร้างเกราะป้องกันภัยดิจิทัลให้สังคมไทยอย่างแท้จริง”
นอกจากนี้ Whoscall ขยายความร่วมมือไปยังกลุ่มคอมมิวนิตีต่าง ๆ โดยถ่ายทอดความรู้และมอบ เครื่องมือในการป้องกันทุกรูปแบบ ผ่านการสนับสนุนจากพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ Flash Express, Grab และ Sansiri ที่ต่างมีเป้าหมายเดียวกันในการยกระดับการป้องกันภัยไซเบอร์ เพื่อสร้างสังคม ไทยที่ปลอดภัยและน่าเชื่อมั่นยิ่งขึ้น
นางสาวปรินทร์ทิพย์ อิสริยเมธา ผู้ช่วยรองกรรมการผู้อำนวยการสื่อสารองค์กร และรัฐกิจ สัมพันธ์กลุ่มธุรกิจแฟลช ผู้นำด้านธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ระดับมืออาชีพ ให้บริการครบวงจร ครอบคลุมทั่วไทย และเซาท์ อีส เอเชีย กล่าวว่า ปัจจุบันภัยจากมิจฉาชีพออนไลน์ที่แอบอ้าง เป็นพนักงานของบริษัทเอกชน และภาครัฐยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงแม้หลายหน่วยงานจะออกมา ช่วยกันสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนก็ตาม เช่นเดียวกับ แฟลช เอ็กซ์เพรส ที่ให้ความสำคัญ ในการสร้างการรับรู้ และแจ้งเตือนภัยผ่านทุกช่องทางโซเชียลมีเดียให้กับลูกค้า และประชาชนทั่วไป
โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง และกลุ่มผู้สูงอายุ เป็นต้น สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ บริษัทได้นำเทคโนโลยี ของ Whoscall มายกระดับความปลอดภัยให้กับลูกค้า และพนักงาน โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถ เสริมสร้าง ความมั่นใจให้กับลูกค้าผู้ใช้บริการในการส่งพัสดุ และช่วยลดความเสี่ยงจากภัยของมิจฉาชีพ ได้อย่างเท่าทัน และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อป้องกันภัยจากการแอบอ้างเป็นพนักงานขนส่ง และการส่ง SMS หรือลิงก์ปลอมเพื่อหลอกให้แอดไลน์ ตลอดจนการหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน เป็นต้น"
นางสาวอรวรา เอื้อสุนทรวัฒนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์ และพันธมิตร แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “แกร็บรู้สึกยินดีที่ได้ร่วมงานในวันนี้ และเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือ ในการยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับคนไทย ที่ผ่านมา เราได้ร่วมโปรโมท เทคโนโลยของ Whoscall ให้กับผู้ใช้งานและคนขับ ในการนำไปใช้ คัดกรองเบอร์โทรต้องสงสัย และป้องกันภัยไซเบอร์ ที่ซับซ้อนและยากต่อการสังเกตเราเชื่อว่าเทคโนโลยีไม่ควรเป็นแค่เครื่องมือ แต่ต้องเป็น ‘เกราะป้องกัน’ ที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน และแกร็บในฐานะแพลตฟอร์มดิจิทัลที่อยู่ใกล้ชิดผู้คน พร้อมสนับสนุน ทุกความร่วมมือเพื่อขยายการเข้าถึงเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง”
คุณชลีรัตน์ ต่อจรัส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์และพาร์ทเนอร์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แสนสิริ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในทุกมิติ นอกจากการสร้างที่อยู่อาศัย มาตรฐานความปลอดภัยและความอุ่นใจ คือ หัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจและบริการของเรา ไม่ใช่แค่ภายในรั้วโครงการกับระบบรักษาความปลอดภัย LIV-24 เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสร้าง ‘คอมมูนิตี้ที่ปลอดภัย’ เพื่อให้ลูกบ้านและครอบครัวอุ่นใจในทุกวัน รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับ สังคมและคุณภาพชีวิตที่ปลอดภัยให้ชุมชนกลุ่มเสี่ยง บริษัทฯ ได้วางแผนการสื่อสารและให้ความรู้ เกี่ยวกับภัยใกล้ตัว เตรียมความพร้อมเชิงรุก โดยจะจัดมินิเวิร์กชอปให้กับลูกบ้านผ่านเจ้าหน้าที่นิติ บุคคลทุกโครงการที่พร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวด้านดิจิทัล โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ, กลุ่มผู้ที่ไม่คุ้นเคย กับเทคโนโลยี และครอบครัวแสนสิริทุกคน เพื่อให้รู้เท่าทันและป้องกันภัยรอบตัวผ่านการใช้แอพ Whoscall อย่างมั่นใจ เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ของการ อยู่อาศัยในสังคมไทยที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีๆ รอบด้านและสร้างสังคม ที่ปลอดภัยอย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้ ความร่วมมือในครั้งนี้ยังเป็นก้าวสำคัญในการสร้างการรับรู้ฟีเจอร์ “การแจ้งเตือนด้วยเสียง” (Voice Alert) ที่ส่งเสียงเตือนเมื่อมีสายต้องสงสัยโทรเข้า โดยจากการใช้งานนำร่อง ฟีเจอร์นี้สามารถ ปกป้องผู้ใช้ไปแล้วกว่า 10 ล้านครั้ง สะท้อนถึงประสิทธิภาพ ในการใช้งานจริงและความตั้งใจในการ พัฒนาเพื่อความปลอดภัย ของทุกคน สามารถศึกษาวิธีการใช้งานได้ที่: https://whoscall.com/th/blog/articles/1701