ถกร่วมส.อ.ท.เดินหน้าทีมไทยแลนด์รับมือวิกฤตการค้าโลก

ถกร่วมส.อ.ท.เดินหน้าทีมไทยแลนด์รับมือวิกฤตการค้าโลก
“จตุพร-ฉันทวิชญ์” รับ 5 ข้อเสนอเอกชน ออกมาตรการเชิงรุก ลดผลกระทบ Trade Diversion  เปิดตลาดส่งออกใหม่ พร้อม ร่างปฏิญญาความร่วมมือ

นายจตุพร บุรุษพัฒน์  รมว.พาณิชย์  เปิดเผยหลังร่วมกับ นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์  รมช.พาณิชย์ หารือกับนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และคณะผู้บริหารว่า เพื่อรับฟังข้อเสนอและผลักดันความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชนอย่างใกล้ชิด รับมือความไม่แน่นอนของการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้นี้มีเป้าหมายกำหนดแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยท่ามกลางความท้าทายของสถานการณ์โลก ทั้งการเปลี่ยนแปลงมาตรการทางการค้าของประเทศคู่ค้า เช่น ภาษีของสหรัฐฯ และ CBAM ของสหภาพยุโรป ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ทางกระทรวงพาณิชย์ ต้องเป็นพาณิชย์หนึ่งเดียว จับมือกับ FTI ONE บูรณาการความร่วมมือ โดยจะร่วมกันร่าง ‘ปฏิญญาความร่วมมือ’ ระหว่างกระทรวงพาณิชย์และ ส.อ.ท. เพื่อแก้ปัญหาผู้ประกอบการอย่างเป็นระบบ พร้อมติดตามความคืบหน้าทุก 10 วัน

อย่างไรก็ตามข้อเสนอทั้งหมดจาก ส.อ.ท. สอดคล้องกับ 10 นโยบายเร่งด่วนของกระทรวงพาณิชย์ในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย โดยเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก การใช้กลยุทธ์ Soft Power และการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้ทุกภาคส่วน

“วันนี้เราต้องร่วมมือกันทั้งประเทศ กระทรวงพาณิชย์พร้อมเปิดใจ รับฟัง และทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด ทีมไทยแลนด์ต้องเดินหน้าอย่างเป็นหนึ่งเดียว เพื่อผลักดันไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย ให้เกิดขึ้นจริง” นายจตุพร กล่าว

ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมพร้อมสนับสนุนการทำงานของกระทรวงพาณิชย์และรัฐบาล โดยได้เสนอแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจและดูแลผู้ประกอบการไทย 5 ประเด็นสำคัญ ซึ่งต้องเดินร่วมกันให้เป็นทีมไทยแลนด์ เพราะในวันนี้มีทั้งวิกฤตและโอกาส  ดังนี้

1.ผลักดันมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการจากผลกระทบ Reciprocal Tariff

-ขอให้ภาครัฐสนับสนุนด้านกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญแก่ผู้ประกอบการ SME

-ลดค่าใช้จ่ายทางธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าธรรมเนียมใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O)

2. เร่งการเจรจาลดภาษีรายสินค้าของสหรัฐฯ

-โดยเฉพาะภายใต้มาตรา 232 ที่ยังจัดเก็บภาษีสูงในสินค้าสำคัญ เช่น เหล็ก อลูมิเนียม ยานยนต์ และชิ้นส่วน

3. ดำเนินมาตรการเชิงรุก ลดผลกระทบ Trade Diversion

-เสนอให้ภาครัฐสามารถริเริ่มกระบวนการใช้มาตรการทางการค้าโดยไม่ต้องรอให้เอกชนยื่นเรื่อง

-ใช้เครื่องมือทางการค้าให้ครบถ้วน เช่น มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD), การปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (SG), และการตอบโต้การอุดหนุน (CVD)

-พิจารณาควบคุมการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มสูงผิดปกติ ตาม พ.ร.บ. การนำเข้า-ส่งออก พ.ศ. 2522

4. ส่งเสริมการเปิดตลาดใหม่ให้กับอุตสาหกรรมไทย

-เร่งเจรจา FTA ฉบับใหม่ๆ เช่น ไทย–ยูเรเซีย (EAEU)

-สนับสนุนโครงการ SME Pro-active และกิจกรรม Trade Mission

-เพิ่มสัดส่วนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐในสินค้าไทย (Made in Thailand: MiT)

5.สร้างระบบนิเวศการค้าชายแดนเพื่อการเติบโตระยะยาว

-เสนอให้ภาครัฐร่วมบูรณาการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การอำนวยความสะดวกด้านพิธีการ และการค้าชายแดนอย่างครบวงจร

TAGS: #ส.อ.ท. #Trade #Diversion  #ภาษีสหรัฐ #ปฏิญญาความร่วมมือ