เศรษฐกิจยังชะลอกดการใช้น้ำมัน 9 เดือนลดลง เว้น JET A1 โตรับปัจจัยบวกเร่งส่งออก

เศรษฐกิจยังชะลอกดการใช้น้ำมัน 9 เดือนลดลง เว้น JET A1 โตรับปัจจัยบวกเร่งส่งออก
กรมธุรกิจฯชี้ ดีเซลลดลง 2.4% ผลจากขนส่งภาคเกษตร-อุตสาหกรรมชะลอ ขณะที่กลุ่มโซฮอล์ 91-อี20 ลดลงจากปัจจัยรถ EV ด้านน้ำมัน JET A1 รับอานิสสงฆ์เร่งส่งออกขยายตัวครึ่่งปีแรก

นายสราวุธ  แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ในช่วงเดือนมกราคม - กันยายน 2568 มีปริมาณอยู่ที่ 153.95 ล้านลิตร/วัน ลดลงร้อยละ 0.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) มีปริมาณการใช้ลดลงสูงสุด ที่ร้อยละ 16.1 ตามด้วยก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ลดลงร้อยละ 5.1 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วลดลงร้อยละ 2.4

ขณะที่น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 การใช้น้ำมันเตาเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 และกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 โดยมีรายละเอียดปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละชนิดเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ดังนี้  ปริมาณการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.61 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 โดยน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 19.49 ล้านลิตร/วัน ซึ่งมีสาเหตุมาจากส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลงมาอยู่ที่ 0.37 บาท/ลิตร (ราคาเฉลี่ยเดือนมกราคม - กันยายน 2568) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 0.93 บาท/ลิตร จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคเลือกใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 สูงขึ้นจากปีก่อน

ขณะที่การใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 น้ำมันแก๊สโซฮอล์อี 20 น้ำมันเบนซิน และน้ำมันแก๊สโซฮอล์อี 85 มีปริมาณการใช้ที่ลดลงมาอยู่ที่ 6.58 ล้านลิตร/วัน  5.10 ล้านลิตร/วัน  0.38 ล้านลิตร/วัน และ 0.06 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ สาเหตุมาจากหลายปัจจัย อาทิ การขยายตัวของยานยนต์ไฟฟ้า (BEV HEV และ PHEV) โดยมีสัดส่วนร้อยละ 7.0 ของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 คน1 รวมถึงการใช้งานระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่มีการขยายตัวของผู้โดยสารอย่างต่อเนื่องคิดเป็นร้อยละ 1.6 2 เมื่อเทียบกับปีก่อน

ด้านปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว เฉลี่ยอยู่ที่ 65.12 ล้านลิตร/วัน ลดลงร้อยละ 2.4 โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ลดลงมาอยู่ที่ 65.11 ล้านลิตร/วัน และดีเซลหมุนเร็วบี 20 ลดลงมาอยู่ที่ 0.02 ล้านลิตร/วัน สอดคล้องกับเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวลง จากภาคเกษตรและการผลิตภาคอุตสาหกรรม ส่งผลให้ภาคการค้าและขนส่งสินค้าลดลงตาม เป็นไปตามดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เฉลี่ย 8 เดือน (มกราคม–สิงหาคม 2568) ที่หดตัวลงร้อยละ 1.09 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์และการผลิตเพื่อการส่งออกที่หดตัว  รวมถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวมีการชะลอตัวตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวระยะใกล้ (short haul) ที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง

ส่วนปริมาณการใช้ Jet A1 เฉลี่ยอยู่ที่ 16.80 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน โดยจำนวนผู้เยี่ยมเยือนทั้งคนไทยและต่างชาติขยายตัวร้อยละ 1.54

รวมไปถึงการขยายตัวของบริการขนส่งสินค้าทางอากาศเนื่องจากการเร่งการส่งออกในช่วงครึ่งปีแรก โดยการขนส่งทางอากาศช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี ขยายตัวร้อยละ 9.0 จากไตรมาสก่อนหน้าสะท้อนผ่านการเพิ่มขึ้นของจำนวนเที่ยวบินเฉลี่ย 9 เดือน (มกราคม-กันยายน 2568) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 6.05

สำหรับปริมาณการใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 17.79 ล้านกก./วัน ลดลงร้อยละ 5.1 ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ภาคปิโตรเคมี ที่ลดลงมาอยู่ที่ 7.59 ล้านกก./วัน และภาคขนส่งลดลงมาอยู่ที่ 2.26 ล้านกก./วัน ขณะที่การใช้ในภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.87 ล้านกก./วัน และภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.07 ล้านกก./วัน

ส่วนปริมาณการใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 2.37 ล้านกก./วัน ลดลงร้อยละ 16.1 โดยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับจำนวนรถจดทะเบียน NGV สะสมที่ลดลง และจำนวนสถานีบริการ NGV ที่มีแนวโน้มปิดตัวลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปตท. ยังคงช่วยเหลือผ่านโครงการบัตรสิทธิประโยชน์ ให้กับกลุ่มรถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะ และได้ประกาศปรับลดราคา NGV สำหรับรถทั่วไปลง 0.14 บาท/กก. ส่งผลให้ราคาอยู่ที่ 17.16 บาท/กก. โดยมีผลระหว่างวันที่ 16 ตุลาคม - 15 พฤศจิกายน 2568 และจะมีการพิจารณาทุก ๆ เดือน เพื่อสะท้อนกลไกต้นทุนที่แท้จริง

นายสราวุธ  กล่าวถึง การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ยอยู่ที่ 1,026,436 บาร์เรล/วัน ลดลงร้อยละ 1.9 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 77,245 ล้านบาท/เดือน โดยเป็นการลดลงของการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันอากาศยาน และ LPG) มาอยู่ที่ 34,393 บาร์เรล/วัน ลดลงร้อยละ 46.0 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 1,976 ล้านบาท/เดือน

ขณะที่น้ำมันดิบมีการนำเข้าเพิ่มขึ้น อยู่ที่ 992,043 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 75,269 ล้านบาท/เดือน  โดยมีปริมาณการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เฉลี่ยอยู่ที่ 146,878 บาร์เรล/วัน ลดลงร้อยละ 16.6 โดยเป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 12,116 ล้านบาท/เดือน

 

 

TAGS: #กรมธุรกิจฯ #ดีเซล #EV #JET #A1 #