เศรษฐกิจฟื้นบางส่วนภาพรวมยังเปราะบาง แร่งหนุนส่งออก-ท่องเที่ยวแผ่วลง

เศรษฐกิจฟื้นบางส่วนภาพรวมยังเปราะบาง แร่งหนุนส่งออก-ท่องเที่ยวแผ่วลง
วิจัยกรุงศรีชี้ เศรษฐกิจไตรมาสสองรอฟื้นบางส่วน ส่งออกยังเผชิญปัจจัยเสี่ยงภาษีสหรัฐ ขณะที่ท่องเที่ยวอ่อนแอลง ด้านเงินเฟ้อยังต่ำต่อเนื่องกดดันกนง.ลดดอกเบี้ยงครึ่งปีหลัง

วิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา  จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยแม้มีสัญญาณการฟื้นตัวในบางภาคส่วนของเศรษฐกิจในช่วงต้นไตรมาสสอง แต่การฟื้นตัวยังมีความเปราะบางอยู่สะท้อนจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่แม้เริ่มกลับมาขยายตัวในเดือนเมษายนแต่ส่วนหนี่งเป็นการผลิตเพื่อเติมสินค้าคงคลังที่ได้เร่งส่งออกไปในช่วงก่อนหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ

สำหรับแนวโน้มการส่งออกของไทยในระยะถัดไปยังเผชิญกับความเสี่ยงของนโยบายการค้าระหว่างประเทศของประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีความไม่แน่นอนสูง  ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนที่ลดลงในหมวดบริการอาจชี้ถึงกำลังซื้อของครัวเรือนที่ชะลอลงหลังสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ 

ด้านแรงหนุนจากภาคท่องเที่ยวอ่อนแอลงจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวช้าทั้งนี้ท่ามกลางแรงกดดันจากปัจจัยภายในและภายนอกดังกล่าว ล่าสุดวิจัยกรุงศรีคาดการณ์  GDP ไทยปี 2568 ขยายตัว 2.1% ภายใต้สมมติฐานของอัตราภาษีที่สหรัฐฯยังคงเรียกเก็บกับไทยในระดับปัจจุบันที่ 10%

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤษภาคมติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 คาดคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ยังมีโอกาสลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีกในช่วงครึ่งหลังของปี  โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ -0.57% YoY ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่องจาก -0.22% ในเดือนเมษายน มีปัจจัยหลักจาก  1. การลดลงของราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสด โดยเฉพาะผักและผลไม้ตามปริมาณผลผลิตที่เข้าสู่ตลาดมากขึ้น 2. ราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานที่ปรับลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบโลก

และ3. ฐานราคาสินค้าในปีก่อนที่อยู่ในระดับสูง ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (หักราคาหมวดอาหารสดและพลังงาน) อยู่ที่  1.09% เพิ่มขึ้นจาก 0.98% ในเดือนเมษายน สำหรับในช่วง 5 เดือนแรกของปี อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยอยู่ที่ 0.48% และ 0.95% ตามลำดับ

วิจัยกรุงศรี ประเมินอัตราเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปีมีแนวโน้มที่จะยังอยู่ในระดับต่ำ โดยมีปัจจัยหลักจากราคาพลังงานที่ยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ประกอบกับมาตรการภาครัฐในการตรึงราคาค่าไฟฟ้าและก๊าซหุงต้ม รวมทั้งสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในปีนี้หนุนให้ผลผลิตภาคเกษตรออกสู่ตลาดมากขึ้น

นอกจากนี้อุปสงค์ในประเทศมีแนวโน้มอ่อนแอ สะท้อนจากการบริโภคภาคเอกชนลดลงต่อเนื่อง และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้ คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปี 2568 จะอยู่ที่ 0.6% ซึ่งต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเงินเฟ้อเป้าหมายของทางการต่อเนื่องเป็นปีที่สอง

ส่วนมุมมองด้านดอกเบี้ยนโยบาย จากแรงกดดันเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ความเสี่ยงจากนโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลักอาจกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะซ้ำเติมความเปราะบางของเศรษฐกิจในประเทศ บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)อาจใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจถูกปรับลดลงอีก 1-2 ครั้งในปีนี้

ด้านสถานการณ์เศรษฐกิจโลก คาดนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯยังคงกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจโลกแม้ความตึงเครียดทางการค้าผ่อนคลายลงบ้าง ส่วนเศรษฐกิจจีนยังเปราะบาง ความตึงเครียดทางการค้าผ่อนคลายลงในช่วงสั้น

ขณะที่เฟดมีแนวโน้มคงดอกเบี้ยในเดือนนี้ การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 139,000 ตำแหน่ง ในเดือนพฤษภาคม จากเดือนก่อนที่ 147,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานยังคงอยู่ที่ระดับ 4.2% ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯเตรียมส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงเดินทางไปยังกรุงลอนดอนสัปดาห์นี้เพื่อหารือกับจีนเกี่ยวกับข้อตกลงการค้า

สำหรับการจ้างงานที่ยังคงแข็งแกร่ง ประกอบกับความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีนำเข้าที่มีต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อคาดว่าจะส่งผลให้เฟดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 17-18 มิถุนายนนี้

อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้น สะท้อนจาก PMI ภาคบริการที่หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือน และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565

นอกจากนี้ความเสี่ยงจากนโยบายภาษีนำเข้าคาดว่าจะกดดันเศรษฐกิจมากขึ้นในระยะถัดไป แม้ศาลการค้าฯ ตัดสินว่าการขึ้นภาษีนำเข้าช่วงต้นเดือนเมษายนผิดกฎหมาย แต่ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นศาลอุธรณ์และอาจไปสู่ศาลฎีกา อีกทั้งยังสามารถปรับขึ้นภาษีนำเข้ารายสินค้าและรายประเทศผ่านกฎหมายอื่นๆ ได้ จากประเด็นดังกล่าว วิจัยกรุงศรีคาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลังเพื่อบรรเทาความเสี่ยงต่อภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ

สำหรับเศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากไตรมาสแรก สะท้อนจาก PMI ภาคบริการที่ปรับลดลงต่อเนื่อง ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับผลบวกจาก front-loading ของการส่งออกที่เริ่มลดลง ขณะที่ความเสี่ยงจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ คาดกดดันภาคการผลิตและส่งออกในระยะข้างหน้า

 

TAGS: #วิจัยกรุงศรี #ภาษีสหรัฐ #ท่องเที่ยว #เงินเฟ้อ