Brother ปิดปี 67 โตกว่าตลาด 2 เท่า ลุยต่อปี 68 มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี บริการครบวงจรทั้งกลุ่ม B2C และ B2B ขอปิดสิ้นปีขยายตัว 7%
ธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทบราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมาเป็นปีที่บริษัท มีอัตราการเติบโตสูงถึง 9% และยังสูงสุดในรอบ 28 ปี นับแต่ก่อตั้งกิจการในไทย เรียกว่า เติบโตกว่าเศรษฐกิจในภาพรวมของไทย
จากแนวโน้มดังกล่าว บริษัทฯ ได้วางวิสัยทัศน์เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำตลาดในไทย ด้วยมองเห็นโอกาสการขยายตัวจากการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการสื่อสารและดิจิทัล ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) โดยข้อมูลจาก Gartner, Inc. บริษัทวิจัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบุว่า ตลาดไอทีในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตขึ้นถึง 5.8% และมีมูลค่าสูงทะลุ 1 ล้านล้านบาท
ขณะเดียวกัน บราเดอร์ ยังวางแผนการเติบโตไปพร้อมกับ GDP ของประเทศในปีนี้ จากหลายสำนักคาดการณ์อัตราเติบโตราวๆ 2.9% จากในปี 2567 มีจีดีพีอยู่ที่ 2.7% ซึ่งบริษัทฯ มองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่เติบโตตามทิศทางเดียวกันกับอุตสาหกรรมหลัก 3 กลุ่ม ได้แก่
- อุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing) ซึ่งมีแนวโน้มเติบโต 2.5%
- อุตสาหกรรมด้านการแพทย์ (Medical Care) เติบโต 5.7%
- ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เติบโต 3.4%
ธีรวุธ ให้มุมมองถึงภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2568 ว่า ยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากแรงสนับสนุนของ 4 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่
- การท่องเที่ยว ในปี 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทยราว 38 ล้านคน
- การลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและโรงงาน
- ภาคการส่งออก ขยายตัวอัตรา 5-10%
- นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ที่เดินหน้าอย่างต่อเนื่องผ่านแคมเปญต่างๆ
ขณะที่ ปัจจัยลบ ที่ยังต้องเฝ้าระวังยังคงมีอยู่ ทั้งความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์โลก และผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ
ด้าน กิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้ บราเดอร์ได้วางกลยุทธ์การตลาดแบบรอบด้าน ภายใต้แนวคิด "Brother All" เพื่อตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจและผู้บริโภคในหลากหลายกลุ่ม
ด้วย ผลิตภัณฑ์ของบราเดอร์ครอบคลุมทั้ง เครื่องพิมพ์, เครื่องสแกน, เครื่องพิมพ์ฉลาก, จักรปักและจักรเย็บผ้าภายในบ้าน, ระบบเครื่องเสียงภายใต้แบรนด์ BMB, เครื่องพิมพ์ผ้าระบบดิจิทัล, เครื่องพิมพ์ฉลากระบบ UV ความละเอียดสูง ภายใต้แบรนด์ Domino และ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท A3 ของบราเดอร์ยังครองตำแหน่งยอดขายอันดับ 1 ของโลกติดต่อกันถึง 17 ปี
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มธุรกิจขยาย (Business Expansion) เช่น จักรปัก จักรเย็บ เครื่องพิมพ์ฉลาก และเครื่องพิมพ์ผ้าระบบดิจิทัล Direct-to-Garment GTX ก็ยังครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 เช่นกัน
ขณะเดียวกัน บราเดอร์ ยังเตรียมทำตลาดเชิงรุกทั้งในกลุ่ม B2C (ผู้บริโภคทั่วไป) และ B2B (ลูกค้าองค์กร/โปรเจกต์) ควบคู่กับการเปิดตัวช่องทาง อีคอมเมิร์ซผ่านเว็บไซต์ Brother และระบบ Loyalty Program เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายสู่ลูกค้าใหม่ ตอบสนองต่อความต้องการผลิตภัณฑ์หลัก รวมถึงอุปกรณ์เสริมและหมึกพิมพ์ในรุ่นต่างๆ
รวมถึงการวางกลยุทธ์ให้แบรนด์สามารถเชื่อมต่อกับผู้บริโภครุ่นใหม่ได้มากขึ้น ผ่านการสื่อสารทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยเน้นกลยุทธ์ SEO & SEM, การสร้าง Lead Generation และการใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
จากแผนดังกล่าว บริษัทตั้งเป้าการเติบโตทางธุรกิจไม่ต่ำกว่า 7% ในปี 2568 เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักต่อเนื่องจากปีก่อน
โดย บราเดอร์ยังครองผู้นำในตลาดเครื่องพิมพ์ ในหลายกลุ่ม อาทิ
- เครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำ (ส่วนแบ่งตลาด 45%)
- เครื่องพิมพ์เลเซอร์มัลติฟังก์ชันขาวดำ (55%)
- เครื่องพิมพ์เลเซอร์สี (51%)
- เครื่องพิมพ์เลเซอร์มัลติฟังก์ชันสี (45%)