ซีแพค จับมือ วัน แบงค็อก  นำ รถโม่พลังงานไฟฟ้าใช้ขนส่งคอนกรีตครั้งแรกในไทย

ซีแพค จับมือ วัน แบงค็อก  นำ รถโม่พลังงานไฟฟ้าใช้ขนส่งคอนกรีตครั้งแรกในไทย
ตอกย้ำจุดยืนด้านงานก่อสร้างสีเขียว “ซีแพค” ผสานความร่วมมือ “วัน แบงค็อก” เดินหน้ายกระดับมาตรฐานก่อสร้างของไทยนำรถโม่พลังงานไฟฟ้ามาเริ่มใช้ที่โครงการวัน แบงค็อก เป็นที่แรกในประเทศไทย  

 

นิธิ ภัทรโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี เปิดเผยว่า ซีแพค (CPAC) ล่าสุด ซีแพค นำรถโม่พลังงานไฟฟ้า CPAC EV Mixer Truck เข้ามาใช้ในการจัดส่งคอนกรีตตามแนวคิดการขนส่งสีเขียว (Green Fleet) ครั้งแรกภายในโครงการวัน แบงค็อก (One Bangkok) 

สำหรับรถโม่พลังงานไฟฟ้า CPAC EV Mixer Truck ถือเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ให้ได้ภายในปี พ.ศ.2593 (2050) ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

โดยเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นพลังงานสะอาดเข้ามาใช้ในการขับเคลื่อนแทน   น้ำมันดีเซล ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบในการใช้งานแล้ว รถโม่พลังงานไฟฟ้าสามารถลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 และ PM 10  ได้ถึง 45 กรัมต่อการขนส่ง 1 เที่ยว ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) กลุ่มก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)ได้ถึง 26.5 ตัน/ปี/คัน หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ได้เพิ่มขึ้น 2,800 ต้น/ปี/คัน โดยการดำเนินงานครั้งนี้นับเป็นความตั้งใจ 

และความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาซีแพคยึดตามแนวทางนี้มาใช้ในการดำเนินธุรกิจตลอดทั้ง Value Chain ตั้งแต่โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ ที่มีการนำลมร้อนเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิต มาผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในโรงงานปูนซีเมนต์ (Waste Heat Power Generator) 

การใช้รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าสำหรับขนส่งภายในโรงงาน และการพัฒนาปูนซีเมนต์ที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เช่น ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก มาใช้ทดแทนปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ มาจนถึงการผลิต Low Carbon Concrete คอนกรีตคาร์บอนต่ำอีกด้วย”  

ด้าน ชนะ ภูมี Vice President Sustainability SCG กล่าวว่า “ในการทำเรื่อง Net Zeroให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้นั้น หัวใจสำคัญคือการต้องลงมือทำ ซึ่งจากความร่วมมือกับโครงการวัน แบงค็อก นับเป็น Use case ของการทำ Green Construction 

โดยใช้ปูนซีเมนต์และรถโม่พลังงานไฟฟ้าที่ประสบความสำเร็จ เป็นอย่างมาก สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ว่า Energy transition ของเอสซีจีสามารถช่วยลดก๊าซคาร์บอนออกไซด์ โดยเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนในการที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 40% ในปี พ.ศ.2573 (2030)

ทั้งนี้เพื่อผลักดันเข้าสู่สังคม Net Zero จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อช่วยกันยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยสู่มาตรฐานระดับสากล

ในขณะที่ วรวรรต ศรีสอ้าน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงการวัน แบงค็อก (One Bangkok) กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “วัน แบงค็อก โครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ พร้อมมาตรฐานคุณภาพสูงสุด ที่ครบครันใจกลางกรุงเทพฯ พัฒนาขึ้นบนวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนธุรกิจไปพร้อมกับกรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด “Evolving Bangkok”  มุ่งสู่การเป็นต้นแบบของการกำหนดมาตรฐานใหม่ในด้านการก่อสร้างแบบยั่งยืนในประเทศไทย

ตลอดจนการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตที่ดีขึ้น ซึ่งเราได้ร่วมมือกับ “เอสซีจี” และ “ซีแพค” เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์และมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการสร้างคุณค่าด้วยการวางแนวปฏิบัติภายใต้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน

มุ่งลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) โดยที่ผ่านมา วัน แบงค็อก, เอสซีจี  ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการบริหารการก่อสร้างโครงการอย่างยั่งยืน  

ทั้งนี้ผลจากการดำเนินงาน การนำ “รถโม่พลังงานไฟฟ้า” เข้ามาใช้ขนส่งคอนกรีตภายในไซต์งานแทนรถโม่ธรรมดา พบว่าถ้าใช้รถโม่พลังงานไฟฟ้า CPAC EV Mixer Truck โดยประมาณ 1,800 เที่ยว/คัน

สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้สูงถึง 49,000 kg./(CO2) หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ได้ 5,210 ต้น นับเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยสนับสนุนดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายตามนโยบายการดูแลสิ่งแวดล้อมที่วางไว้ 

 

 

TAGS: #CPAC #ซีแพค