ส.อ.ท.ชี้ยอดผลิตรถพุ่ง 6.68% 2 เดือนแรก 3.2 แสนคัน หลังได้รับชิปเพิ่มหนุนส่งออกขยายตัว ด้านยอดขายในไทยรองานมอเตอร์โชว์กระตุ้นกำลังซื้อ
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 327,939 คัน และเพิ่มขึ้น 6.68 % หลังได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์(ชิป)เพิ่มขึ้น ส่งผลให้สามารถผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น 16.17% และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น 6.39%
สำหรับการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 2 เดือนแรก มีจำนวน175,311 คัน เพิ่มขึ้น 17.43 % มีมูลค่าการส่งออก 107,473.19 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามเป้าหมายการผลิตรถยนต์ในปีนี้ยังมั่นใจจะเป็นไปตามที่กำหนดไว้1.95 ล้านคัน แบ่งเป็นผลิตเพื่อส่งออก 1.05 ล้านคัน และยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 9 แสนคัน ซึ่งงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2023 ที่จัดขึ้นในช่วงนี้คาดการณ์จะมียอดขายสูงกว่าปีก่อนหรือมากกว่า 4 หมื่นคัน โดยส่วนหนึ่งจะมาจากยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) ที่สูงขึ้น
ขณะที่การจำหน่ายรถยนต์ในประเทศ เดือน ก.พ.อยู่ที่ 71,511 คัน ลดลง 3.94% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวม 2 เดือนอยู่ที่ 137,130 คันลดลง 4.73% มีสาเหตุจากส่งมอบรถกระบะในประเทศได้น้อยลง โดยค่ายรถยนต์ต้องเร่งผลิตรถกระบะเพื่อส่งออกหลังจากที่ผ่านมาได้ค้างส่งมอบเพราะปัญหาขาดแคลนชิป รวมไปถึงการจำหน่ายรถบรรทุกที่ลดลง ซึ่งต้องติดตามว่ามาจากปัจจัยใด เบื้องต้นอาจเป็นไปได้ว่ามีการนำเข้ารถบรรทุในราคาที่ต่ำมาจำหน่ายหรือไม่
“การส่งออกรถเริ่มดีขึ้น หลังได้รับชิปเพิ่มและสถานการณ์ชิปโลกเริ่มคลี่คลายตามลำดับจากการเปิดประเทศทำให้การทำงานที่บ้าน(Work from Home) น้อยลงความต้องการโน๊ตบุ๊ค มือถือ ฯลฯ ลดต่ำจึงทำให้ชิปสามารถถูกจัดสรรมายังยานยนต์ได้ปกติ แต่สิ่งที่ต้องจับตาต่อไปคือการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ล่าสุด วิกฤติธนาคารต่างประเทศ ที่จะกระทบต่อการถดถอยของเศรษฐกิจโลก รวมถึงปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ หากปัญหาเศรษฐกิจโลกไม่ลุกลาม ภูมิรัฐศาสตร์ไม่ขยายวงกว้าง การผลิตรถยนต์ของไทยคาดว่าจะกลับไปสู่ระดับ 2 ล้านคันได้ในปี 2567”
นายสุรพงษ์ กล่าวถึง สถานการณ์รถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนใหม่(ป้ายแดง) เฉพาะรถยนต์นั่งในประเทศเดือนก.พ. 66 อยู่ที่ 5,402 คันเพิ่มขึ้นจากเดือนก.พ. 2565 ที่มีจำนวน 341 คันหรือเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 1,484.2 % รวม 2 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ก.พ.) อยู่ที่ทั้งหมด 8,331 คันเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,283.9%
ขณะที่ยานยนต์ไฟฟ้ารวมทุกประเภทแบบแบตเตอรี่ BEV 2 เดือนแรก มีจดทะเบียนใหม่ 12,243 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 715.66 % ประเภทรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด(HEV) 15,605 คัน เพิ่มขึ้น 60.58% รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ( PHEV) 2,210 คัน เพิ่มขึ้น 31.63%
ส่วนยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 28 ก.พ. 66 มีจำนวนทั้งสิ้น 44,294 คัน เพิ่มขึ้น 244.19% ประเภท HEV มีจำนวน 275,193 คัน เพิ่มขึ้น 33.47% ประเภท PHEV 44,596 คัน เพิ่มขึ้น 35.89 %