กรมสรรพากรขานรับนโยบายรัฐบาล เดินหน้าเก็บภาษีรอบ 7 เดือน ปีงบ 67 ทะลุ 1 ล้านล้านบาท
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายด้านการปฏิบัติราชการแก่กรมสรรพากร โดยมีนางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร รายงานภารกิจ บทบาทหน้าที่ รวมทั้งผลการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรในรอบปีที่ผ่านมา
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการป้องกันการทุจริตในภาครัฐ การพัฒนาระบบการให้บริการ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนเป็นหลัก โดยมีหัวข้อดังนี้
1 ปรับปรุง และพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบฯ ชำระภาษี และการคืนภาษี ของประชาชน ให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น
2 กรมสรรพากรช่วยส่งเสริม และสนับสนุน มาตรการด้านภาษีแก่ธุรกิจภาคเอกชนที่สอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และระยะยาว
3 มุ่งเน้นในเรื่องการป้องกัน เฝ้าระวัง และตรวจสอบการทุจริตของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ และภาคเอกชน
4 ให้ความสนใจเรื่องสวัสดิการ และสวัสดิภาพของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อเป็นแรงจูงใจ ในการปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ จะช่วยให้การทำงานของกรมสรรพากรภายใต้การกำกับดูแลมีความชัดเจนขึ้น และเพื่อผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจประเทศให้เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งกรมสรรพากรถือเป็นหน่วยงานหลักในการจัดเก็บภาษี เสนอแนะนโยบายการจัดเก็บภาษีอากรต่อกระทรวงการคลัง และการใช้นโยบาย ทางภาษีอากร เพื่อให้ได้ภาษีตามเป้าหมายอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม เป็นกลไกในการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม และเกิดความสมัครใจในการเสียภาษี กรมสรรพากรจึงต้องปฏิบัติงานด้วยความวิริยะอุตสาหะ มีทัศนคติที่ดีต่อผู้เสียภาษี มีใจให้บริการ โดยยึดผู้เสียภาษีเป็นศูนย์กลาง
นางสาวกุลยา กล่าวว่า กรมสรรพากรพร้อมดำเนินการตามนโยบายที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่กระทรวงการคลังตั้งไว้ ทั้งนี้ผลการจัดเก็บภาษีสรรพากรปีงบประมาณ 2567 สะสม 7 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค. 66 - เม.ย. 67 กรมสรรพากรจัดเก็บรายได้จำนวน 1,090,683 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 19,569 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.8 และสูงกว่าประมาณการ 9,597 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.9 ซึ่งแนวทางในการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรในปี 2567 ทั้งในเรื่อง การจัดเก็บภาษีให้ได้ตามเป้าหมายที่กระทรวงการคลังกำหนด การขยายฐานภาษี และการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีให้มีความทันสมัยเต็มรูปแบบ เป็นภารกิจที่กรมสรรพากร ต้องเดินหน้าขับเคลื่อนต่อไป