อโรม่า กรุ๊ป ส่งแบรนด์ HARIO เจาะตลาดกลุ่มสเปเชียลตี คอฟฟี ขยายตัวต่อเนื่อง รับเทรนด์ลูกค้าโฮมคาเฟ่-สายแคมปปิง หันดื่มด่ำกาแฟแบบลึกซึ้ง
ราวปี 2019 อโรม่า กรุ๊ป (Aroma Group) ได้นำโมเดลธุรกิจแบรนด์ HARIO ผู้ผลิตเครื่องแก้ว เครื่องเซรามิก และอุปกรณ์การดริปกาแฟ จากประเทศญี่ปุ่น ที่เหล่าคอกาแฟโดยเฉพาะสาย Specialty Coffee ต่างคุ้นเคยชื่อเสียงการผลิตอุปกรณ์ชงกาแฟประเภทสโลว์ บาร์ (Slow Bar) ทั้งแบบ Hot Brew และ Cold Brew เข้ามาเปิดให้บริการในไทย ผ่านกลยุทธ์เปิดหน้าร้าน HARIO Café สาขาแรกที่ซอยโชคชัยสี่ ก่อนขยายธุรกิจ 2 สาขาที่ ซอยสุขุมวิท33 และธนิยะ พลาซ่า เพื่อแนะนำแบรนด์ให้ลูกค้าคนไทยรู้จักได้มากขึ้น
อาภัสสรา กลิ่นประชา ฝ่ายการตลาดดิจิทัล และ ศรันย์ ทองบุญ ซีเนียร์ อีเวนต์ มาร์เก็ตติง บริษัท อโรม่า กรุ๊ป กล่าวกับ The Better ในงาน Coffee Playground จัดขึ้นโดยอิมแพค ระหว่างวันที 10-11 มี.ค.ที่ผ่านมา ถึงการเข้ามาของแบรนด์ HARIO (ฮาริโอะ) ผ่านการทำตลาดของ อโรม่า กรุ๊ป ในฐานะผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์แต่เพียงผู้เดียวในไทย
โดยความเคลือนไหวทางการตลาดแบรนด์ฮาริโอะ ในปีนี้ จะมุ่งสร้างการจดจำแบรนด์ที่เชี่ยวชาญในสายสเปเชียลตี คอฟฟี ผ่านการจัดกิจกรรม (อีเวนต์) ต่างๆไปพร้อมกับแคมเปญส่งเสริมการขายในแต่ละเดือนที่แตกต่างกันออกไป
ทั้งนี้ เพื่อให้แบรนด์สินค้าฮาริโอะ เข้ากึงกลุ่มเป้าหมาย เอนด์ยูสเซอร์ สายสโลว์ คอฟฟี ให้ได้รู้จักกับฮาริโอะ ที่มีสินค้าในพอร์ตมากกว่า 2,000 ไอเทม รวมไปถึงในกลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการร้านคาเฟ่ ที่ต้องการเพิ่มบริการดริปกาแฟ ให้กับลูกค้า และ โฮมคาเฟ่ ที่หันมานิยมดื่มด่ำการชงกาแฟพิเศษ ในที่อยู่อาศัยกันมากขึ้น
“โควิดที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับการเข้ามาของแบรนด์ฮาริโอะในไทยที่ได้แนะนำตัวเองด้วยกลยุทธ์หน้าร้าน ฮาริโอะ คาเฟ่ ซึ่งเป็นโมเดลกับในญี่ปุ่น เพื่อรองรับกระแส คาเฟ่ ฮอปเปอร์ และคอกาแฟสายสเปเชียลตี รวมไปถึงลูกค้าที่ต้องการหาซื้ออุปกรณ์ดริปเปอร์กาแฟ ฮาริโอะ สำหรับใช้ที่บ้านและเทรนด์แคมปปิงที่ยังมาแรงต่อเนื่องในปีนี้” ตัวแทน อโรม่า กรุ๊ป ร่วมอธิบาย
สำหรับในปี2023 แบรนด์ฮาริโอะ จะยังมุ่งจัดอีเวนต์เพื่อแนะนำแบรนด์ และสร้างการจดจำในกลุ่มเป้าหมายข้างต้น อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดตลอดทั้งเดือนมี.ค.นี้ ฮาริโอะ ได้จัดโปรโมชัน HARIO เก่าแลกใหม่ โดยลูกค้านำดริปเปอร์เก่ามาแลกนับส่วนลด 50% ซื้อดริปเปอร์ฮาริโอะ (เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการ) ตามเงื่อนไขที่ระบุ โดยดริปเปอร์เก่าที่ได้รับแลก บริษัทจะนำไปทำกิจกรรม CSR มอบให้กับเกษตรกรไทย ต่อไป
สองตัวแทน อโรม่า กรุ๊ป ร่วมกล่าวทิ้งท้ายว่า “การเติบโตของตลาดกลุ่มสเปเชียลตี คอฟฟี ในไทยคาดว่ายังได้รับความนิยมมากขึ้น จากผู้สนใจที่นิยมดื่มกาแฟแบบลึกซึ้งและต้องการนำกลับไปดริปเองที่บ้าน เห็นได้จากการที่แบรนด์ฮาริโอะ เข้ามาทำตลาดราว3 ปีก่อนซึ่งเป็นช่วงโควิด19 แต่ยังสามารถขยายสาขาใหม่เพิ่มทุกปี
โดยในส่วนของแบรนด์ฮาริโอะ ที่นอกจากทำตลาดสินค้าอุปกรณ์ดริปเปอร์กาแฟแล้ว ยังมีสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์เครื่องครัว อีกด้วย ซึ่งถือเป็นอีกสองกลุ่มสินค้าที่มีโอกาสขยายตัวร่วมกัน
อนึ่ง ข้อมูลตลาดกาแฟปรุงสำเร็จของประเทศไทยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ปีละกว่า 60,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกาแฟที่ปรุงนอกบ้านหรือที่เรียกว่ากาแฟสดตามร้านต่างๆ ประมาณ 20,000 ล้านบาท และอีก 30,000-40,000 ล้านบาทเป็นกาแฟที่ปรุงในบ้าน
ขณะที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ 'ดีพร้อม' เผยข้อมูลปัจจุบันไทยบริโภคกาแฟในประเทศสูงถึง 70,000 ตันต่อปี ขณะที่ไทยผลิตได้เองเพียง 10,000 ตันต่อปี ที่เหลือนำเข้าทั้งหมด อีกทั้งจากการศึกษาข้อมูลตลาดกาแฟโลกฟคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดกาแฟในช่วงปี 2564-2566 จะเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละ 9% คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 1.91 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ชี้ให้เห็นว่าโอกาสเติบโตของกาแฟไทยยังมีอีกมาก