เต็ดตรา แพค เปิดรายงานอนาคตพฤติกรรมผู้คนทั่วโลก ยอมจ่ายให้กับอาหาร/เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ห่วงเงินเฟ้อกดกำลังซื้อของดกินข้าวนอกบ้าน-พักคาเฟ่ ฮอปเปอร์
สุภนัฐ รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทเต็ดตราแพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด (Tetra Pak) ผู้ผลิตและทำตลาดบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มระดับโลก เผยเทรนด์ผู้บริโภค ผ่านรายงาน ‘อนาคตของสุขภาพและโภชนาการ-The Future of Health and Nutrition’ โดยรวบรวมข้อมูลผู้บริโภค 5,000 คนใน 10 ประเทศทั่วโลกแต่ละทวีป อาทิ จีน อินเดีย เกาหลีใต้ บราซิล และ ยุโรป ฯลฯ พร้อมวิจัยข้อมูลเชิงลึกร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ พันธมิตรธุรกิจ ผู้เกี่ยวข้อง ในอุตสาหกรรม ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
โดยรายงานฉบับนี้ ได้สำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคที่เข้าสู่ยุคนอร์มใหม่ หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย โดยให้ความสำคัญใน 4 ด้านหลัก คือ
- ด้านการดูแลสุขภาพที่ดี
จากสถานการณ์ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ‘โควิด’ เป็นตัวเร่งให้ผู้คนทั่วโลกตระหนักการดูแลสุขภาพ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันรางกายที่แข็งแรงมากขึ้น โดยพบว่า
สัดส่วน 70% ต้องการสุขภาพที่ดี จากการออกกำลังกายควบคู่ไปกับการได้โภชนาการที่ดีจากการการบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม
สัดส่วน 69% ต้องการการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อดูแลสุขภาพเชิงป้องกันการรักษาก่อนการเจ็บป่วย เพื่อสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับร่างกาย โดยผู้ถูกสำรวจ ยังให้ความสำคัญอันดับแรก คือ การดูแลร่างกายและจิตใจ ที่ดีไปพร้อมกัน
สัดส่วน 74% ผู้บริโภคต้องการซื้อสินค้าที่ถูกอ้างถึงคุณประโยชน์ด้านสุขภาพที่ชัดเจน
“ผู้บริโภคต่างมองหาสิ่งที่ดีให้กับตัวเองมากขึ้น ดังนั้นแบรนด์จะต้องระบุฟังก์ชัน พูดให้ชัด ตะโกนให้ดัง ถึงประโยชน์ตัวสินค้าว่าเป็นอย่างไร” สุภนัฐ กล่าว
- ด้านค่าครองชีพ
ในปี 2567 ผู้บริโภคทั่วโลก จะกังวลต่อค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่สูงขึ้นจากเงินฟ้อมากดดันการจับจ่ายในด้านต่างๆ ทำให้ปลายทางสินค้าอย่างอาหารและเครื่องดื่มมีแนวโน้มราคาสูงขึ้น
โดยแนวโน้มสิ่งที่ผู้บริโภคเลือกตัดออกในอันดับต้นๆเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย คือ การรับประทานอาหารนอกบ้าน งดกิจกรรมรับประทานอาหารจุกจิก (Snacking) เช่น ลดความถี่การไปคาเฟ่ เป็นต้น
“ถ้ามองอีกมุมหนึ่งมีข้อดี คือ แม้ว่าสินค้าจะราคาสูงขึ้น แต่สิ่งที่ผู้บริโภคจะตัดทิ้งเป็นสิ่งท้ายๆ คือ ยอมจ่ายให้กับอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ”
- การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความยั่งยืน
ผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ให้ความสำคัญและใส่ใจด้านความยั่งยืนมากขึ้น ด้วยจะตระหนักและเลือกบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม ที่มีกระบวนการตั้งแต่แรกเริ่มการปลูกวัตถุดิบ ไปจนถึงปลายทางการทำตลาด ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
ดังนั้นการใช้บรรจุภัณฑ์ (แพคเกจจิง) ที่สามมารถย่อยสลายให้นำกลับมาใช้ใหม่ได้ หรือใช้วัสดุทดแทนได้จากธรรมชาติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้น
“แบรนด์สินค้าต้องสื่อสารให้ชัดเจนว่า สิ่งที่เราทำมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากน้อยอย่างไร”
- เทคโนโลยี และ นวัตกรรมด้านฐานข้อมูล
การเข้ามาของเทคโนโลยีที่อยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คนผ่านอุปกรณ์ต่างๆ เช่น แทรคกิง ดีไวซ์ หรือ แอปพลิเคชัน ต่างๆ ที่เข้ามาช่วยสำรวจการทำกิจกรรมส่วนตัวที่มีผลกับการทำงานอวัยวะของร่างกายด้านต่างๆ เพื่อมอนิเตอร์การรับประทานอาหารได้ตามหลักโภชนาการ มากขึ้น
สัดส่วน 65% เห็นด้วยกับเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยให้สุขภาพร่างกายดีขึ้น
สัดส่วน 62% เห็นด้วยว่าเทคโนโลยีมีส่วนช่วยทำให้เกิดความยั่งยืน
สัดส่วน 40% ผู้บริโภคกลุ่มช่วงอายุมากกว่า 45 ปีขึ้นให้ ไม่มั่นใจประโยชน์เทคโนโลยีกับสุขภาพ
โดยรายงานฉบับนี้ ยังได้จำแนกผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสนใจในอาหารและเครื่องดื่ม ที่แตกต่างกันออกไปใน 6 กลุ่มหลัก คือ
- กลุ่มควบคุมดูแลน้ำหนัก (Weight Watchers)
- กลุ่มล้าหลังด้านสุขภาพ (Health Laggards)
- กลุ่มที่ยังมีส่วนร่วมในวิถีแบบดั้งเดิม (Responsible Traditionalists)
- กลุ่มให้ความสำคัญด้านโภชนาการแบบไม่ซับซ้อน (Nutrition minimalists)
- กลุ่มรักษ์โลก (Planet Lovers)
- กลุ่มมองหาการบำบัดสุขภาพทางเลือก (Holistic Health Seekers)
นอกจากนี้ เต็ดตร้า แพค ยังได้พัฒนาแนวคิดผลิตภัณฑ์ (Concept Product) พร้อมทดลองร่วมกับผู้บริโภค 6 กลุ่มใหม่ดังกล่าว ที่มีพฤติกรรมสนใจในผลิตภัณฑ์ทั้ง 6 กลุ่มดังนี้
- Plant-based-next-generation ingradients
ปัจจุบัน สินค้าอาหารเครื่องดื่มไม่ได้มีเฉพาะโปรตีนจากถั่วเหลืองเท่านั้น แต่ยังสามารถหาได้จากพืชชนิดอื่น อาทิ นมอัลมอนด์ นมข้าวโอ้ต หรือ นมสำปะหลัง ให้สามารถนำวัตถุดิบเหล่านี้ไปพัฒนาสินค้าใหม่ๆได้
- Alternative protein : microbial protein
แหล่งโปรตีนใหม่จาก ไมโครไบโอล เช่น โปรตีนจากเห็ด
- Alternative proteins: lab-grown food & drink
พัฒนาโปรตีนอาหารและเครื่องดื่มที่ได้จากห้องแล็บ อาทิ ผลิตภัณฑ์นมที่ให้ประโยชน์จากโปรตีนแหล่งอื่น ที่นอกเหนือจากนมวัว เป็นต้น
- Alternative proteins: insect protein
โปรตีนที่ได้จากแมลง
- De-sugarred juice
การใข้ปริมาณน้ำตาลลดน้อยลงในน้ำผลไม้ ตามแนวโน้มคนรุ่นใหม่ที่หันมาลดการบริโภคน้ำตาลในเครื่องดื่มที่มีรสชาติหวานน้อย เป็นต้น
- Food made with low value side streams from production
อาหารที่ทำจากส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิตอาหาร เช่น บายโปรดักส์ โดยสามารถนำกลับมาแปรรูป เพื่อลดสิ้นเปลืองวัตถุดิบจากกระบวนการผลิตเพื่อนำกลับมาเป็นสินค้าใหม่ เช่น วัตถุดิบเปลือกส้ม นำกลับมาผลิตใหม่เป็นน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ (Natural Oil) เป็นต้น
สุภนัฐ กล่าวว่าเทรนด์ผู้บริโภคทั้ง6 กลุ่มข้างต้น ยังสอดคล้องกับการทดลองแนวคิดผลิตภัณฑ์ทั้ง 6 ประเภท ด้วยเช่นกัน โดยแต่ละกลุ่มจะให้ความสนใจแตกต่างออกตามพฤติกรรมและรูปแบบการใช้ชีวิต
ขณะที่เต็ดตร้า แพค จะนำรายงานฉบับนี้ ไปปรับใช้ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการพัฒนาสินค้าบริการในอุตสาหกรรมร่วมกันต่อไปในอนาคต
“เทรนด์การตลาดอาหารและเครื่องดื่มหลังโควิด จะเป็นด้านฟังก์ชันนัลที่ตอบโจทย์สุขภาพ ความปลอดภัยอาหาร การดูแลสุขภาพเชิงป้องกันเป็นแกนแรกๆ รวมไปถึงด้านไซส์ซิงบรรจุภัณฑ์ ในรูปแบบ ออน เดอะ โก พร้อมเอาไปใช้ข้างนอก หรือการใข้หลอดที่ถูกต้องกับการดื่ม มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะรองรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่ต้องการสิ่งเหล่านี้มากขึ้น และยอมจ่าย”
โดยแผนเต็ดตร้า แพค ใน 3-5 ปีนับจากนี้จะมุ่งพัฒนาสายการผลิตสินค้าบรรจุภัณฑ์ที่สอดคล้องกับแนวโน้มดังกล่าว โดยเฉพาะด้านความยั่งยืนมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และปลอดภัย พร้อมใช้วัสดุทดแทนการผลิตบรรจุภัณฑ์ในบางรุ่น อาทิ การใช้วัสดุกระดาษบางชั้น (Layers) ที่ทำมาจากไบโอ เบส เช่น ชานอ้อย เป็นต้น ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ พร้อมแผนเพิ่มปริมาณการผลิตบรรจุภัณฑ์แนวคิดดังกล่าวได้ 100% ในอนาคต