Paper Planes กับคีย์เวิร์ดการตลาดทรงพลัง ‘ทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย’ ปลุกอารมณ์ตื่นวัยรุ่นนอนกลางวัน
วันเด็กแห่งชาติปีนี้ ตรงกับวันที่ 14 มกราคม 2566 กลุ่มเป้าหมายสำคัญของวันนี้ คือ ‘เด็ก’ ผู้ที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงอายุ 14 ปี หากมีอายุเลยจากเลขชุดนี้ไปแล้ว จะถูดจัดให้เข้าสู่กลุ่มวัยรุ่นตอนต้น
หากมองในแง่การทำตลาดในกลุ่มเด็ก (ตามนิยามอ้างอิงด้านบน) จะเห็นว่ามีสินค้า บริการ ประเภทต่างๆหลากหลายกลุ่มออกมารองรับและครองใจ ‘เด็ก’ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ส่วนอำนาจการตัดสินใจควักกระเป๋าจ่ายให้ส่วนใหญ่ ก็มักจะเป็น ‘ผู้ปกครอง’
โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กวัยเรียนระดับชั้นอนุบาล (อายุระหว่าง 3-6 ปี) ที่มีพฤติกรรม เน้นกิจกรรม ‘การเล่น’ เป็นหลัก พักเที่ยงเป็นต้องนอนกลางวัน ก่อนจะตื่นมากินนม ขนม ข้าว เป็นชีวิตวัยเด็กที่วนลูปไปด้วยความสุข และ สนุกสนาน
ขณะเดียวกัน กลุ่มวัยรุ่นนอนกลางวันเหล่านี้ ยังเน้นความสุขนิยมด้วยการร้องเล่นเต้นรำ เพื่อความบันเทิง ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่พวกเขาชื่นชอบและให้ความสนใจไม่น้อย
ทำไม? 'ทรงอย่างแบด'โดนใจวัยรุ่น(ฟันน้ำนม)
โดยเฉพาะเพลง ‘ทรงอย่างแบด’ (Bad Boy) ของวงดนตรี Paper Planes ปัจจุบันประกอบด้วยสมาชิก 2 คน คือ ฮาย ธันวา (ร้องนำ) และ เซน นครินทร์ (เบส)
ล่าสุด ฮาย ธันวา ได้ครองตำแหน่งหัวหน้าแก๊ง (วัยรุ่นนอนกลางวัน) แถมยังมอบคำขวัญวัยเด็กประจำปีนี้ ‘สร้างสรรค์ความคิด ผูกมิตรซื่อตรง ก้าวอย่างมั่นคง ฟังทรงอย่างแบด’ ให้กับเหล่าชาวแก๊งไปตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม ที่ผ่านมา อีกด้วย
จากการสำรวจของ The Better News ต่อความน่าสนใจเพลง ‘ทรงอย่างแบด’ ที่ติดหูอย่างรวดเร็วในกลุ่มเป้าหมายเด็กอนุบาล พบว่า (เด็ก)ส่วนใหญ่ต่างให้คำตอบเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ ท่อนฮุกของเพลง ที่ร้องว่า **ทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย เธอไม่อินกับผู้ชาย bad boy ทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย เธอไม่รักฉันก็คงต้องปล่อย... คือ คีย์เวิร์ดอันทรงพลัง และมีมีอิมแพ็คกับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นฟันน้ำนม เหล่านี้เป็นอย่างมาก
เหตุผลที่ฟังเพลงแล้วติดหู
“เพื่อนคนแรกในห้องเอามาร้องก่อน ฟังแล้วก็ร้องตามเลยเพราะเนื้อร้องมันจำง่าย ได้ตะโกนออกมาดังๆพร้อมกับเพื่อนๆ มันสนุกครับ” คำบอกเล่าของ ‘น้องขุน’ วัย 8ปี ที่ชื่นชอบเพลงนี้ แถมร้องได้ทุกวันไม่มีเบื่อ บอกเหตุผลความชื่นชอบเพลงทรงอย่างแบดกับทีม The Better News
ผู้ปกครอง ปล่อยโฟลว์ให้ฟังได้ร้องเลย
ขณะที่ฝั่งผู้ปกครอง ในฐานะกำลังซื้อตัวจริง ด้วยเป็นผู้กุมอำนาจการจับจ่ายซิ้อสินค้า บริการ ให้กับกลุ่มเป้าหมายเด็ก โดยส่วนใหญ่ บอกว่าหลังจากฟังเพลงนี้ พร้อมลองเสิร์ชข้อมูลเพื่อทำความรู้จักกลุ่มศิลปิน Paper Planes และได้ฟังแนวคิดของ ฮาย ธันวา แล้ว ก็ยิ่งไฟเขียวให้เด็กๆได้ซึมซับดนตรีของวงฯนี้ ด้วยเพลง ไม่มีความรุนแรงของเนื้อหา และ คำหยาบ
สุดท้ายความดังของเพลง ‘ทรงอย่างแบด’ หากมองในฐานะสินค้าที่ประสบความสำเร็จในกลุ่มเป้าหมายเด็กได้นั้น มาจาก ความดีงามของผลิตภัณฑ์ ทั้งเนื้อหาบทเพลง ท่อนฮุกปลุกอารมณ์ตื่น (นอนกลางวัน) และ Mindset ของ ฮาย ธันวา ที่มีต่อน้องๆ ฟันน้ำนม ที่ผู้ปกครอง เชื่อใจ และให้ความไว้วางใจ ต่อสินค้าในที่สุด
ทั้งหมด คือ ส่วนประกอบที่ลงตัวและส่งให้เพลง ‘ทรงอย่างแบด’ และวงดนตรี Paper Planes เข้าไปนั่งอยู่ในใจ ทั้งในกลุ่มเป้าหมายหลัก และผู้ปกครอง (กำลังซื้อตัวจริง)ได้อย่างน่าปละหลาดใจ