ประเทศมหาอำนาจที่น่าจะมีระบบป้องกันวินาศภัยและภัยธรรมชาติระดับเยี่ยม กลับไม่สามารถช่วยประชาชนได้ สาเหตุมันเกิดจากอะไร?
ความผิดพลาดที่ 1 มองข้ามปัญหาไฟป่า
เมื่อปี 2565 เจ้าหน้าที่ของรัฐฮาวายเผยแพร่รายงานการจัดอันดับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีแนวโน้มว่าจะคุกคามผู้อยู่อาศัยของรัฐมากที่สุด พวกเขาจัดให้สึนามิ แผ่นดินไหว และภัยจากภูเขาไฟ เป็นภัยคุกคามที่มีสำคัญอย่างเด่นชัด นั่นเพราภัยเหล่านี้เคยทำลายฮาวายมาก่อนแล้ว
แต่พวกเขาระบุความเสี่ยงของไฟป่าต่อชีวิตมนุษย์ว่าเป็นภัยคุกคามระดับ "ต่ำ" โดยใช้คำๆ เดียวเท่านั้น คือ "low" และถือเป็นภัยคุกคามที่ต่ำที่สุดในบรรดาภัยคุกคามต่อรัฐฮาวาย
และการประเมินในปี 2564 พวกเขายอมรับว่าไฟป่าพุ่งสูงขึ้นในรัฐ แต่บอกว่าเงินงบประมาณ "ไม่เพียงพอ" และวิพากษ์วิจารณ์ยุทธศาสตร์ปฏิบัติงานของหน่วยดับเพลิงเทศมณฑลเมาอีอย่างหนักว่า "ไม่มีอะไรที่จะทำได้และควรทำเพื่อป้องกันไฟป่า"
จนกระทั่งในปีนี้พวกเขาตระหนักว่าไฟป่าที่ไม่เคยคุกคามฮาวาย ได้กลายเป็นอีกหนึ่งหายนะที่คร่าชีวิตผู้คนในรัฐนี้ไปมากที่สุดครั้งหนึ่ง
ความผิดพลาดที่ 2 ประเมินพลังพายุต่ำเกินไป
ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2566 หย่อมความกดอากาศสูงเกิดขึ้นทางตอนเหนือของเกาะฮาวาย ในเวลาเดียวกัน เฮอริเคน "ดอรา" เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเป็นระดับ 4 ทำให้เกิดความแตกต่างของความกดอากาศสูงระหว่างบริเวณความกดอากาศสูงกับพายุไซโคลนความกดอากาศต่ำ ทำให้เกิดกระแสลมพัดแรง
ในเวลาเดียวกันมีปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะอากาศแห้งรุนแรง และมีความชื้นต่ำกว่าปกติ ระหว่างวันที่ 7 - 8 สิงหาคม
ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 8 สิงหาคม ใกล้กับเมืองลาไฮนา ในเกาะเมาอิด้านตะวันตก รัฐฮาวาย ประเทศสหรัญ มีรายงานการเกิดไฟป่าขนาด 3 เอเคอร์ (1.2 เฮกตาร์) ใกล้กับถนนลาไฮนาลูนาครั้งแรกเมื่อเวลา 6:37 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันที่ 8 สิงหาคม แต่มีรายงานว่าควบคุมไฟไหม้ได้ 100% ภายในเวลา 9:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
อย่างไรก็ตาม ภายหลังมีประกาศเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ว่าไฟได้ปะทุขึ้นอีกครั้งและจะต้องปิดเส้นทางลาไฮนาบายพาส/เส้นทางสาย 3000 โดยมีการอพยพในบริเวณใกล้เคียงตามมา ผู้อยู่อาศัยทางฝั่งตะวันตกของเมืองได้รับคำแนะนำให้อยู่ในบ้านเรือนของตน
ไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็วทั้งขนาดและความรุนแรง ลมกระโชกแรงผลักดันเปลวไฟผ่านพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของชุมชน จากนั้นไฟก็เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และเคลื่อนลงไปยังชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกและย่านคาโฮมา
นักผจญเพลิงพยายามที่จะปกป้องเมืองเก่าลาไฮนา แต่ต้องพบกับความล้มเหลว
ความผิดพลาดที่ 3 ระบบดับเพลิงถูกทำลาย
ความล้มเหลวมาจากแรงดันน้ำในหัวดับเพลิงที่อ่อนแรง เพราะท่อหลอมละลายในบ้านที่ที่ถูกไฟป่าเผาผลาญ ท่อที่หลอมละลายทำให้กระแสน้ำรั่วไหล และทำให้เครือข่ายการส่งน้ำสูญเสียแรงดันแม้จะมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองที่ทำงานอยู่ก็ตาม
เวลาประมาณ 16:46 น. ตามเวลาท้องถิ่น มีรายงานว่าไฟไหม้ข้ามทางหลวงหมายเลข 30 ของฮาวายเข้าสู่ส่วนหลักของเมืองลาไฮนา ทำให้ผู้อยู่อาศัยต้องอพยพกันเองโดยแทบไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าหรือไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ความผิดพลาด 4 สัญญาณเตือนภัยไม่ทำงาน
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าไซเรนป้องกันภัยพลเรือนไม่ได้เปิดใช้งานระหว่างเกิดไฟไหม้ แม้ว่ารัฐฮาวายจะมีระบบเตือนภัยไซเรนกลางแจ้งแบบบูรณาการที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีไซเรนมากกว่า 80 ตัวบนเกาะเมาอีเพียงแห่งเดียวเพื่อใช้เตือนภัยในกรณีเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ
คนท้องที่หลายคนบอกนักข่าวในภายหลังว่าพวกเขาไม่ได้รับการเตือนและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งพวกเขาเจอควันหรือเปลวไฟ ไม่มีกระแสไฟฟ้าหรือสามารถใช้การติดต่อสื่อสารในลาไฮนาได้เป็นเวลาเกือบทั้งวัน
ภายในเวลา 17:45 น. ตามเวลาท้องถิ่น ไฟได้มาถึงแนวชายฝั่งแล้ว และหน่วยยามฝั่งของสหรัฐอเมริกาเพิ่งจะทราบว่ามีคนกระโดดลงไปในมหาสมุทรที่ลาไฮนาเพื่อหนีไฟ ต่อมาผู้รอดชีวิตเล่าในเวลาต่อมาว่าติดอยู่ในขบวนรถติดที่ขยับไปไหนไม่ได้ และตระหนักว่าพวกเขาจำเป็นต้องลงไปในน้ำ หลังจากเห็นว่ารถรอบๆ ตัวพวกเขาเกิดไฟไหม้หรือระเบิดขึ้น
ภายหลังจากไฟไหม้ ผู้ที่ไปสำรวจพื้นที่เผยว่า "รถยนต์หลอมละลายเป็นแอ่งโลหะหลอมเหลวที่จับตัวเป็นก้อนบนถนน" แสดงว่าเปลวไฟร้อนแรงมาก
ความผิดพลาดที่ 5 สหรัฐเมินภาวะโลกร้อน
มีการวิเคราะห์กันว่าไฟป่าที่ฮาวายก็น่าจะเป็นผลพวงจากภาวะโลกร้อนหรือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก
ถึงแม้จะมีฉันทามติทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่าโลกของเราร้อนและแปรปรวนขึ้นจริงๆ แต่ในปี 2564 ชาวอเมริกันหนึ่งในสามปฏิเสธว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากฝีมือมนุษย์นั้นมีอยู่จริง
ปัญหาโลกร้อนยังเป็นประเด็นการเมืองที่สร้างความแตกแยกรุนแรงในสหรัฐ โดยเฉพาะในสมัยที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดี เขาไม่เพียงถอนสหรัฐจากความร่วมมือแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน แต่ยังผ่านกฎหมายที่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย
เขายังเคยพูดกับรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียระหว่างเกิดไฟป่าในแคลิฟอร์เนียในปี 2563 โดยทรัมป์กล่าวถึงสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงว่า "อากาศจะเริ่มเย็นลง คุณคอยดูเถอะ" แต่เมื่อรัฐมนตรีบอกเป็นนัยว่าความเห็นของทรัมป์ส่วนทางกับหลักการวิทยาศาสตร์ ทรัมป์ตอบว่า "จริง ๆ แล้วผมไม่คิดว่าวิทยาศาสตร์จะรู้อะไรหรอก"
แม้แต่ในสมัยของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่เปลี่ยนท่าทีมาแก้ปัญหาโลกร้อนจริงๆ จังๆ แต่ ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ 57% ไม่เห็นด้วยกับการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไบเดนตามการสำรวจของ Washington Post-University of Maryland
สรุปความเสียหายเบื้องต้น ที่เลวร้ายที่สุด
ณ วันที่ 12 สิงหาคม มีคนอย่างน้อย 93 คนได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตในและรอบๆ ลาไฮนาจากเพียง 3% ของพื้นที่ที่ค้นหาจำนวนผู้เสียชีวิตคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหาและกู้ภัยได้ค้นหาภายในอาคารที่ถูกไฟไหม้ และเบื้องต้นสามารถระบุอัตลักษณะของเหยื่อจำนวนน้อยมากเท่านั้น
และจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางระบุว่า เหยื่อหลายคนที่พบเสียชีวิตข้างนอกอาคาร "เชื่อว่าเสียชีวิตในยานพาหนะของพวกเขา"
ไฟไหม้พื้นที่ 2,170 เอเคอร์ (880 เฮกตาร์) เจ้าหน้าที่ประเมินว่าอาคาร 2,207 หลังถูกทำลาย โดยมีทั้งหมด 2,719 หลังถูกไฟไหม้ จอช กรีน (Josh Green) ผู้ว่าการรัฐได้ประกาศว่ามีความเสียหาย เกือบ 6 พันล้านดอลลาร์ สิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์หลายแห่งถูกทำลาย นับเป็นความเสียหายทางประวัติศาสตร์ของรัฐฮาวายที่เลวร้ายอย่างยิ่ง เพราะที่นี่คืออดีตเมืองหลวงเก่าของราชอาณาจักรฮาวาย ก่อนที่จะถูกผนวกเป็นมลรัฐหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา