ฟิลิปปินส์จะเป็น"เนปาลแห่งที่สอง"หรือไม่? เมื่อประชาชนครึ่งแสนลุกฮือประท้วง "นักกินบ้านกินเมือง"

ฟิลิปปินส์จะเป็น

สถานการณ์ล่าสุด
สำนักข่าว AFP รายงานว่าโฆษกหญิงของตำรวจในกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์แถลงในวันนี้ว่า ได้จับกุมผู้ประท้วงกว่า 200 คน ระหว่างการปะทะกับผู้ประท้วงสวมหน้ากาก ซึ่งปะทุขึ้นในวันที่มีการชุมนุมประท้วงต่อต้านการทุจริต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปได้ความสงบ แต่มีความรุนแรงเข้าแทรกด้วย

ในวันอาทิตย์ มีผู้เยาว์อย่างน้อย 88 คน ถูกจับกุมตัวในข้อหาเบื้องต้นจากทั้งหมด 216 คน ขณะที่ตำรวจใช้ปืนฉีดน้ำและเสียงไซเรนดังสนั่นใส่กลุ่มผู้ประท้วงที่ส่วนใหญ่มักเป็นเด็กและชอบขว้างปาหิน

นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา อิสโก โมเรนา กล่าวว่า เด็กชายวัย 12 ปี เป็นเด็กชายอายุน้อยที่สุดที่ถูกจับกุมตัว

ชาวฟิลิปปินส์หลายพันคนรวมตัวกันที่กรุงมะนิลาเมื่อวันอาทิตย์ เพื่อระบายความโกรธแค้นต่อเรื่องอื้อฉาวที่บานปลาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับโครงการควบคุมน้ำท่วมปลอมที่เชื่อว่าทำให้ประชาชนเสียเงินภาษีหลายพันล้านดอลลาร์ แต่เงินกลับเข้ากระเป๋นนักการเมือง

เรื่องอื้อฉาวนี้ทำให้สมาชิกรัฐสภาหลายคนถูกกล่าวหา และผู้นำรัฐสภาทั้งสองสภาต้องลาออกจากตำแหน่งระหว่างการสอบสวน

แต่การปะทะกันบนท้องถนนในวันอาทิตย์ ซึ่งทำให้รถตำรวจหลายคันถูกเผา และกระจกหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ของสถานีแตกกระจาย คุกคามที่จะบดบังการชุมนุมที่เต็มไปด้วยครอบครัว นักเคลื่อนไหว นักบวช และนักการเมือง

“จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีใครพูดถึงเหตุผลเบื้องหลังการกระทำของพวกเขา หรือมีใครจ่ายเงินให้พวกเขาทำหรือไม่” พันตรีเฮเซล อาซิโล โฆษกตำรวจประจำภูมิภาค กล่าวกับ AFP

“ทันทีที่เราทราบถึงความเกี่ยวข้องของพวกเขา เราก็จะรู้ได้ว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของผู้ประท้วงหรือแค่สร้างปัญหา” เธอกล่าวเสริม

แถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขที่เผยแพร่ในวันจันทร์ระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 50 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแห่งเดียวในกรุงมะนิลาหลังการปะทะ

พันตรีฟิลิปป์ อิเนส โฆษกตำรวจอีกนายหนึ่ง กล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 93 นายในวันอาทิตย์ และเสริมว่าจำนวนผู้ที่ถูกจับกุมอาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังมีการดำเนินคดีกับผู้บาดเจ็บอยู่

เบื้องหลังสถานการณ์
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2567 เป็นต้นมา มีข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการทุจริต การบริหารจัดการที่ผิดพลาด และการทุจริตในโครงการจัดการน้ำท่วมที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในฟิลิปปินส์ ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีบองบอง มาร์กอส ประเด็นถกเถียงนี้ ซึ่งบางครั้งเรียกว่ากรณี “ประตูระบายน้ำ” มุ่งเน้นไปที่เงินหลายพันล้านเปโซที่จัดสรรไว้สำหรับโครงการจัดการน้ำท่วม รายงานเกี่ยวกับโครงการ “ผี” การก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน และการถูกกล่าวหาว่าผูกขาดสัญญาโดยกลุ่มผู้รับเหมากลุ่มเล็กๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีอิทธิพลทางการเทือง

สำนักข่าว AFP ชี้ว่ากระแสความโกรธแค้นต่อโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกเรียกว่า "ผี" (เพราะได้งบประมาณมาแต่โครงการกลับไม่มีอยู่จริง) ทวีความรุนแรงขึ้นในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ "บองบอง" มาร์กอส ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาในเดือนกรกฎาคม หลังจากเกิดน้ำท่วมใหญ่หลายสัปดาห์ โดยในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาครั้งที่สี่ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ประธานาธิบดีบองบอง มาร์กอส ได้ให้คำมั่นว่าจะเปิดโปงและดำเนินคดีการทุจริตในโครงการควบคุมน้ำท่วม เขาสั่งให้เปิดเผยรายชื่อโครงการควบคุมน้ำท่วมทั้งหมดในช่วงสามปีที่ผ่านมาเพื่อให้สาธารณชนตรวจสอบ 

ในเวลาต่อมามีการจัดตั้งคณะสืบสวนต่างๆ แต่กระแสความไม่พอใจของประชนเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย เพียงแค่รอเวลาที่จะปะทุเป็นการประท้วงเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาเดียวกัน มีการปรท้วงใหญ่ในอินโดนีเซียและเนปาลเพื่อต่อต้านการนักการเมืองที่กินดีอยู่ดีกว่าประชาชนในประเทศตัวเอง

การคอร์รัปชั่นที่เลวร้าย
ก่อนที่การประท้วงจะเระเบิดขึ้นในฟิลิปปินส์ ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการทุจริตได้ถูฏเปิดเผยอออกมาอย่างต่อเนื่อง กระทรวงการคลังประเมินว่าเศรษฐกิจฟิลิปปินส์สูญเสียรายได้มากถึง 118,500 ล้านเปโซ (2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ระหว่างปี 2566 ถึง 2568 เนื่องจากการทุจริตในโครงการควบคุมน้ำท่วม

กรีนพีซคาดการณ์ว่าตัวเลขที่แท้จริงน่าจะใกล้เคียงกับ 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 วุฒิสมาชิกปันฟิโล ลักซอน อ้างในแถลงการณ์ต่อสาธารณะว่า งบประมาณ 2 ล้านล้านเปโซ (40.61 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่จัดสรรไว้สำหรับการควบคุมน้ำท่วมตลอดระยะเวลา 15 ปี อาจสูญเสียไปกับการทุจริต โดยมีเพียง 40% ของงบประมาณโครงการเท่านั้นที่นำไปใช้ในการก่อสร้างจริง  

ขณะที่โครงการกายเป็น "ผี" ประเทศยังประสบกับภัยธรรมชาติไม่หยุดหย่อน แม้ต่ในวันจันทร์ ฟิลิปปินส์ก็ยังคาดว่าจะเกิดน้ำท่วมหนักอีกครั้ง เนื่องจากพายุไต้ฝุ่นรากาซาพัดถล่มจังหวัดทางตอนเหนือสุดของประเทศ

นอกจากนี้ ประเทศหมู่เกาะแห่งนี้เผชิญกับพายุและไต้ฝุ่นเฉลี่ยปีละ 20 ลูก ส่งผลให้ประชาชนหลายล้านคนในพื้นที่เสี่ยงภัยต้องตกอยู่ในภาวะยากจนอย่างต่อเนื่อง

จะเหมือนเนปาลหรือไม่?
ในที่สุดการประท้วงใหญ่ก็เกิดขึ้นมา โดยการประท้วงเมื่อวันอาทิตย์ คาดว่ามีผู้ประท้วงอย่างน้อย 49,000 คนเข้าร่วม แต่ต่างจากการประท้วงต่อต้านการทุจริตอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นในเนปาลและอินโดนีเซียในปี 2568 การประท้วงในฟิลิปปินส์มีขนาดเล็กกว่าและเป็นไปอย่างสันติ ชาวฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ระบายความคับข้องใจทางออนไลน์ รวมถึงผู้นำคริสตจักรคาทอลิก (ที่ทรงอิทธิพลต่อสังคมอย่างมาก) เช่น สภาสังฆราชคาทอลิกแห่งฟิลิปปินส์ (CBCP) ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2568 ซึ่งลงนามโดยพระคาร์ดินัล ปาโบล เวอร์จิลิโอ เดวิด ประธาน CBCP เรียกร้องให้มีการคืนเงินที่สูญเสียไปเนื่องจากความผิดปกติในโครงการควบคุมน้ำท่วม และเรียกร้องให้ประชาชนเรียกร้องมาตรการตรวจสอบ เช่น การตรวจสอบบัญชีโดยเร่งด่วนและการลงโทษทางอาญา สมาคมเผยแพร่ศาสนาสังคมแห่งพระเยซู ภายใต้คณะเยสุอิตแห่งฟิลิปปินส์ ได้เรียกร้องให้จัดตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อสอบสวนความผิดปกติดังกล่าว เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดกับรัฐสภา

มหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ (UP) ได้วิพากษ์วิจารณ์โครงการควบคุมน้ำท่วมที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเพียงโครงการควบคุมน้ำท่วมชั่วคราว และสนับสนุนการปฏิรูปการกำกับดูแลทางการคลังเพื่อรับประกันความรับผิดชอบและป้องกันการทุจริต อันเจโล ฮิเมเนซ อธิการบดีแห่ง UP กล่าวว่าสถาบันไม่สามารถ "วางตัวเป็นกลาง" เกี่ยวกับปัญหาการทุจริตที่ฝังรากลึกและมีขนาดใหญ่ในโครงการควบคุมน้ำท่วมของประเทศได้ โดยมองว่าเป็นข้อกังวลอย่างยิ่ง 

สหภาพแรงงานและองค์กรต่างๆ เรียกร้องให้รัฐบาลกลางเร่งดำเนินการสอบสวนโครงการควบคุมน้ำท่วมที่ผิดกฎหมาย โดยมุ่งหวังให้เกิดความรับผิดชอบอย่างรวดเร็ว องค์การแรงงานและแรงงานทั่วไปแห่งฟิลิปปินส์ (PTGWO) เสนอว่าการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อโครงการควบคุมน้ำท่วมจะช่วยเร่งกระบวนการพิจารณาความผิดให้เร็วขึ้น

แมทธิว เดวิด ออร์โดเนซ อาจารย์รัฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยเดอลาซาลล์ ระบุว่า เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เช่น การพิจารณาคดีถอดถอนรองประธานาธิบดีซารา ดูแตร์เต ได้ก่อให้เกิด "ความเบื่อหน่ายจากเรื่องอื้อฉาว" ในฟิลิปปินส์ เขาตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อเทียบกับอินโดนีเซีย ผู้ประท้วงชาวฟิลิปปินส์จะเลือก "คุณภาพมากกว่าปริมาณ การดำเนินการที่เฉียบคมมากกว่าการใช้กำลังจำนวน"

โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better

Photo - ผู้ประท้วงเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงต่อต้านการทุจริต หลังจากมีการเปิดเผยโครงการควบคุมน้ำท่วมปลอม ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องอื้อฉาวคอร์รัปชันครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศในรอบหลายทศวรรษ ณ อนุสาวรีย์พลังประชาชน ในเมืองเกซอนซิตี เขตมหานครมะนิลา เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2568 ชาวฟิลิปปินส์หลายพันคนเดินขบวนในกรุงมะนิลาเมื่อวันที่ 21 กันยายน เพื่อระบายความโกรธแค้นต่อเรื่องอื้อฉาวที่บานปลายเกี่ยวกับโครงการควบคุมน้ำท่วมปลอม ซึ่งเชื่อว่าทำให้ประชาชนสูญเสียเงินภาษีหลายพันล้านดอลลาร์ (ภาพโดย Jam STA ROSA / AFP)

TAGS: #ฟิลิปปินส์ #ประท้วง #คอร์รัปชั่น