สองเหตุการณ์สำคัญในจีนสัปดาห์นี้ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เกี่ยวกับระเบียบโลกใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งทำให้เขาและประเทศจีนเป็นศูนย์กลางอย่างมั่นคงในเวทีโลก ขณะเดียวกันก็ทำให้คู่แข่งอย่างสหรัฐอเมริกาต้องถูกเขี่ยออกไปจากการเป้นดาวเด่นของเวทีโลกในเวลานี้
ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา สี จิ้นผิง ได้พบปะกับผู้นำโลกเกือบ 30 คน ณ การประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ที่เมืองเทียนจิน และยังเป็นประธานในงานขบวนพาเหรดทางทหารครั้งยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปี ของการสิ้นสุดสงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น
ภาพลักษณ์ของสี จิ้นผิง ที่เดินเคียงข้างวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ขณะเฝ้าดูขบวนพาเหรดขีปนาวุธพิสัยไกล เลเซอร์ขนาดมหึมา และโดรนใต้น้ำ เป็นสิ่งที่ไม่ยากที่จะเข้าใจว่า "พันธมิตร" กลุ่มนี้กำลังทำอะไร
“รัฐบาลจีนกำลังส่งสัญญาณแห่งการท้าทาย นั่นคือจีนจะไม่หวั่นเกรงที่จะยืนหยัดเคียงข้างมิตรสหาย...อย่างแท้จริง” เหวิน-ตี้ ซ่ง (Wen-Ti Sung) จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (ANU) กล่าวกับสำนักข่าว AFP
นอกจากคิมและปูติน ซึ่งส่วนใหญ่มักถูกมองว่าเป็นบุคคลแปลกแยกจากนานาชาติแล้ว สี จิ้นผิงยังได้เป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้นำอิหร่าน อินเดีย และคิวบา รวมถึงหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียกลาง และแอฟริกาในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
สปอตไลท์ของการชุมนุมครั้งนี้อยู่ที่เมืองเทียนจิน จากนั้นก็ย้ายไปที่ปักกิ่ง กลายเป็นเวทีสนทนาทางการเมืองของโลก เมื่อผู้นำอย่างนเรนทรา โมดี และปูติน ของอินเดีย ได้คว้าโอกาสนี้ในการประชุมร่วมกัน
คำประกาศสนับสนุนฉนวนกาซาและต่อต้านมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของยุโรปยืนยันว่า SCO เป็นเวทีสำคัญในการประสานจุดยืนทางการเมืองที่เป็นขั้วตรงข้ามกับรัฐบาลวอชิงตัน
ไม่มีมหาอำนาจตะวันตกรายใดส่งผู้นำเข้าร่วม SCO หรือขบวนพาเหรด มีเพียงโรเบิร์ต ฟิโก ของสโลวาเกีย เป็นหัวหน้าประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเพียงคนเดียวที่เข้าร่วม
“จีนกำลังวางตนเป็นผู้ถือธงของโลกหลายขั้วที่นำโดยกลุ่มประเทศโลกใต้ (ประเทศกำลังพัฒนา) ท่ามกลางกระแสความเชื่อตะวันตกเกี่ยวกับระเบียบโลกเสรีนิยมที่นำโดยสหรัฐฯ” หยู เจี๋ย จากสถาบัน Chatham House กล่าว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ มีมุมมองที่ตรงไปตรงมามากกว่า
“ขอส่งความปรารถนาดีอย่างสุดซึ้งไปยังวลาดิเมียร์ ปูติน และคิม จองอึน ขณะที่พวกคุณร่วมกันวางแผนต่อต้านสหรัฐอเมริกา” เขาเขียนบนโซเชียลมีเดียระหว่างขบวนพาเหรด
'จีนมีทางเลือก'
แต่หลายคนมองว่าการกระทำของทรัมป์ในสมัยที่สอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายภาษีศุลกากรที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจโลก กลับกลายเป็น "ของขวัญ" ที่เขามอบให้กับจีน
“เมื่อผู้คนพูดถึงต้นตอของความไม่แน่นอนในระบบระหว่างประเทศ กลับเป็นนโยบายฝ่ายเดียวของทรัมป์ มากกว่าจะเป็นการทูตแบบนักรบหมาป่าของจีน” ซุง จาก ANU กล่าว
การมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้นของ SCO ของประเทศต่างๆ เช่น อินเดีย ตุรกี และเวียดนาม ที่ก่อนหน้านี้มักจะเอนเอียงไปทางรัฐบาลที่วอชิงตัน เป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
ในคลิปวิดีโอที่เผยแพร่อย่างแพร่หลายจากการประชุมที่เมืองเทียนจิน แสดงให้เห็นภพของ โมดี ยืนหัวเราะอย่างเป็นกันเองกับปูตินและสี จิ้นผิง ในการเยือนจีนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2018 ของเขา
อินเดียเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯ และเป็นคู่แข่งที่ดุเดือดของจีน แต่ความสัมพันธ์กับปักกิ่งดูเหมือนจะกำลังผ่อนคลายลง ขณะที่นิวเดลีกลับตกเป็นเป้าหมายที่ไม่คาดคิดจากมาตรการภาษีของทรัมป์
หยู เจี๋ย จากสถาบัน Chatham House ให้สัมภาษณ์กับ AFP ว่า ประโยชน์หลักที่สี จิ้นผิงได้รับในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาคือการรีเซ็ตความสัมพันธ์กับอินเดียชั่วคราว รวมถึงการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับคู่ค้าในเอเชีย ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสงครามการค้าของทรัมป์
แพทริเซีย เอ็ม. คิม จากสถาบัน Brookings Institution กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็น "การปฏิวัติทางการทูตของสี จิ้นผิง" ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจีนมี "ทางเลือกอื่นนอกเหนือจากตะวันตก"
"จีนไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรองรับพันธมิตรของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสหรัฐฯ กำลังทำให้พันธมิตรจำนวนมากรู้สึกแปลกแยกอยู่แล้ว"
'รอยยิ้มและเสียงคำราม'
ที่น่าสังเกตคือ ผู้เข้าร่วม SCO ไม่ได้เข้าร่วมขบวนพาเหรดทั้งหมด รวมถึงโมดี
คิมเข้าร่วมเพียงขบวนพาเหรดทางทหารเท่านั้น
“การทูตต้องอาศัยการผสมผสานอย่างมีศิลปะระหว่างรอยยิ้มและเสียงขู่คำราม และขบวนพาเหรดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพของปูติน คิม และสี จิ้นผิง ร่วมกัน น่าจะสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของรัฐบาลปักกิ่ง” โจเซฟ ทอริเกียน จากมหาวิทยาลัยอเมริกันกล่าวกับ AFP
เขากล่าวว่า จีนอาจจะมีแผนการในว่า “การให้เกียรติ” ต่อคิมจะช่วยขัดขวางไม่ให้เกาหลีเหนือใกล้ชิดกับกับรัสเซียมากเกินไป
ยุน ซุน จากศูนย์ Stimson Center ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การเลือกแขกผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมงานนี้เป็นสิ่งที่ทำลายน้ำหนักในคำกล่าวอ้างของจีนเองที่ว่ามี “มีทางเลือกอื่นที่เป็นไปได้เกี่ยวกับระเบียบระหว่างประเทศ”
“มันทำให้เกิดคำถามว่าจีนไม่มีใครดีไปกว่านี้แล้วหรือที่จะแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนทางการทูต” เธอกล่าว พร้อมเสริมว่ารัฐบาลปักกิ่งได้พยายามโน้มน้าวให้นักการทูตตะวันตกเข้าร่วม
การแสดงแสนยานุภาพทางทหารอาจทำให้ผู้เข้าร่วมงานบางคนรู้สึกไม่สบายใจในภูมิภาคที่จีนมีข้อพิพาทเรื่องดินแดนหลายกรณี
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว ขบวนพาเหรดนี้ไม่น่าจะเปลี่ยนกลยุทธ์ของผู้สังเกตการณ์ได้
“สำหรับผู้ที่ตัดสินใจสนับสนุนจีนแล้ว ขบวนพาเหรดนี้อาจตอกย้ำเหตุผล (การสนับสนุนจีน)” มิก ไรอัน อดีตพลตรีกองทัพบกออสเตรเลีย ซึ่งปัจจุบันประจำการอยู่ที่ CSIS เขียนบนโซเชียลมีเดีย
“สำหรับคนอื่นๆ ที่ตัดสินใจต่อต้าน... อาจเป็นเหตุผลเพิ่มเติมในการทำเช่นนั้น (ต่อต้านจีน)”
Agence France-Presse
Photo by SUO TAKEKUMA / POOL / AFP