ระวังไทยจะแพ้กัมพูชาในสมรภูมิ IO และการจรยุทธ์สงครามประสาท
กัมพูชามีจุดอ่อนที่ชัดเจนเรื่องหนึ่งคือ "การเป็นแหล่งสแกมเมอร์" และโลกรู้ดีว่า "ชนชั้นนำของกัมพูชาสนับสนุนธุรกิจสีเทา"
ผมไม่ได้พูดเองแต่อ้างจากคำกล่าวของ เจค็อบ ซิมส์ (Jacob Sims) ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC ของออสเตรเลียว่า รัฐบาลกัมพูชาที่ทำให้สแกมเมอร์ขยายตัว เนื่องจากชนชั้นปกครองของกัมพูชา "พึ่งพาผลกำไรจากการกระทำผิดกฎหมายเพื่อรักษาอำนาจของตนเอาไว้"
ขณะที่สื่อภาษาจีนทั้งในแผ่นดินใหญ่และไต้หวัน ล้วนแต่รู้ว่าผู้นำกัมพูชาไม่จริงใจในการกวาดล้างสแกมเมอร์ เพราะล้วนแต่หากินกับพวกนี้
ผมเห็นคอมเมนต์หนึ่งในสื่อจีน QQ News ใต้ข่าวเรื่อง "ฮุน มาเนต ลงนามเริ่มการเกณฑ์ทหารอย่างเป็นทางการ + กองทัพปราบปรามการทุจริต ต่อสู้กับความขัดแย้งชายแดนไทย? บทบาทของจีนไม่ง่าย" บอกเหมือนรู้ทันว่า "ได้ยินมาว่าฮุน เซนกับลูกชายคือตัวการสำคัญในการฉ้อโกงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้!!! หวังว่าหลังจากที่คุณกำจัดการฉ้อโกงภายในประเทศได้แล้ว คุณคงแนะนำให้พ่อกับลูกเลิกทำธุรกิจนี้เสียที! ความโกรธแค้นของมหาอำนาจไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณ ประเทศกัมพูชา จะรับไหว!"
ภาพลักษณ์ของกัมพูชาเลวร้ายขนาดนี้!
แต่รัฐบาลไทยแทบไม่ได้ขยี้จุดอ่อนนี้ ไม่ฉวยโอกาสซ้ำ ไม่ทำสงครามนอกรูปแบบ
ผลก็คือ "กำราบ" กัมพูชาไม่อยู่เสียที ทำให้กัมพูชาเล่นสงครามประสาททุกวันด้วยการปล่อยข่าวเท็จ ความเท็จนี้นอกจากจะหลอนตัวเองให้เชื่อว่าจริงแล้ว ผมกลัวว่าสักวันชาวโลกจะหลงเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง
นี่คือ "สงครามประสาทอย่างหนึ่ง" เป็นทั้งสงครามจริงๆ และเป็นอาการประสาทอย่างหนึ่งของชนชั้นนำในกัมพูชาด้วย
การที่ชนชั้นนำของกัมพูชามีกมลสันดานที่ "จริงๆ เท็จๆ เท็จๆ จริงๆ" ทำให้ประเทศนี้ไม่สนใจศีลธรรมจรรยาเวลาปล่อยให้ IO โกหกในแพลตฟอร์มต่างๆ
เช่นผมเห็นกับตาว่ามีพวก IO กัมพูชาไปแสร้งเป็นคนไทย แล้ว "ปั่น" คนประเทศอื่นให้เกลียดไทย เช่น อ้างว่าวัฒนธรรมของประเทศ A เป็นของไทย หรืออ้างว่าประเทศ B น่าเกลียด ทั้งหมดนี้เป็น "เขมรอำพรางเป็นไทย" เพื่อให้เป้าหมายเกลียดไทย
พูดง่ายๆ คือ กัมพูชารู้ตัวว่าชาวโลกรังเกียจเพราะตระบัดสัตย์ มุสาวาท และฉ้อโกง ก็คิดจะพาไทยลงนรกไปพร้อมกัน ด้วยวิธีนรกๆ ที่ว่านั่นเอง
พวกนี้ผมเห็นกับตาตัวเอง บางครั้งก็จะมีคนไทยไปเปิดโปง "เขมรเนียนไทย" พวกนี้ แต่ผมเชื่อว่ายังมีอีกมากที่กำลังบ่อนทำลายไทยด้วยวิธีนี้โดยไม่มีใครไปต่อต้าน
ผมยังได้ยินมาจากแหล่งข่าวว่า ตอนนี้มี IO เขมรเข้าไปวุ่นวายในเพจวัฒนธรรมจีน โดยอ้างเป็นคนไทยแล้วบอกว่า "ชุดฮั่นฝู (ชุดแบบจีน) เป็นของไทย"
โชคร้ายที่มีคนจีนเข้ามาแย้งว่า "นี่มันชุดจีนจะเป็นชุดไทยได้ยังไง?"
แต่โชคดีที่มีคนไทยไปแฉว่า "ไอ้นี่มันเขมรแฝงตัวมาเป็นคนไทยเพื่อปลุกปั่น"
แม้จะพบแค่เพจเดียว แต่มันสะท้อนว่า IO กำลังทำให้ "การรับรู้ของต่างชาติต่อไทย" มีปัญหา ด้วยการโกหกอย่างชั่วร้าย
แม้ว่าแสนยานุภาพด้านอินเทอร์เน็ตของกัมพูชาจะล้าหลังมาก แต่ IO พวกนี้มีจำนวนมาก นั่นแสดว่า ...
หนึ่ง กระแสคลั่งชาติของกัมพูชามาถึงจุดสูงสุดแล้วผู้คนถึงกล้าเสียสละดาต้ากับค่าเน็ดเพื่อมา "รบ" กับไทยแบบนี้
สอง การสนับสนุนสงคราม IO ต้องมีเบื้องหลังที่มีแสนยานุภาพด้านอินเทอร์เน็ต นั่นคือรัฐบาล หาไม่แล้วจะรบกองโจรไปทั่วแบบนี้ได้ยาก
ไม่ว่าจะเป็นข้อหนึ่งข้อสอง ทั้งหมดแสดงว่ากัมพูชากำลังทำสงครามนี้กับไทย คนไทยรู้ แต่รัฐบาลไม่รู้ กองทัพไทยอาจจะรู้แต่ไม่ทำอะไร ทั้งๆ ที่ "ว่ากันว่า" มีกองทัพ IO กับเขาเหมือนกัน
นี่คือสมรภูมิ IO แท้ๆ ซึ่งรัฐบาลไทยนิ่งเฉย และยังเป็นสงครามประสาทแบบจรยุทธ์ที่ไทยควรจะใช้วิธีจรยุทธ์เช่นกัน แต่รัฐบาลจะปล่อยให้ประชาขน "รบแบบกองโจร" กันเองไม่ได้ เพราะอาวุธดิจิทัลรัฐบาลก็มี แต่กลับ "อ่อน" ในแนวรบด้านนี้
ตัวอย่างเช่น เพจสังเกตการณ์กัมพูชาในไทยพบว่ามีช่อง Youtube หนึ่งที่ใช้ AI แสร้งว่าเป็นชาวตะวันตกแต่จริงๆ แล้วมาจากกัมพูชา ทำการเผยแพร่ข้อมูลใส่ร้ายประเทศไทย เพจไทยต่างๆ พบเข้าก็ช่วยกันป่าวประกาศให้ "report" ช่องนี้
นี่แสดงถึงว่า พี่น้องชาวไทยกำลังลงมือปกป้องบ้านเมืองกันเองแบบชาวบ้านบางระจัน
แต่รัฐบาลกำลังทำตัวเหมือน "ขุนนางขี้ขลาด" แห่งกรุงศรีฯ
เพราะนอกจากจะช้าในเรื่องป้องกันบ้านเมืองแล้ว เวลาคนไทยที่ลงแรงช่วยป้องกันบ้านเมืองขอให้รัฐบาลขยับบ้าง รัฐบาลก็ไม่แยแส พอจะใส่ใจขึ้นมาบ้างก็สนใจแบบแกนๆ เหมือนชาวบ้านบางระจันขอปืนใหญ่ กรุงศรีฯ ก็ไม่กล้าส่งไปให้
เช่น กรณี Youtube ใส่ร้ายประเทศไทย แทนที่รัฐบาลจะใช้อำนาจกดดันไปที่บริษัท Alphabet ให้ปิดช่องพวกนี้ แล้วติดตาม IP ต้นทางเพื่อดำเนินคดีเจ้าของช่อง
โฆษกรัฐบาลกลับมาขอความร่วมมือให้ประชาชนไทยไป report เพจที่ว่านั่นเสียอย่างนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชาเขาทำกันอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนรัฐบาลจะตื่นตัวเสียอีก
แทนที่จะใช้ "อำนาจรัฐ" เพื่อแก้ปัญหา ซึ่งจะแก้ปัญหาชะงัดนักเหมือนยิงปืนใหญ่โป้งเดียว รัฐบาลกลับใช้คำพูดขอร้องประชาชนให้ไปรบแทนตนเสียอย่างนั้น
ยังไม่นับแอปอื่นๆ ที่เต็มไปด้วย Disinformation attack โดยพวก Bot กัมพูชา เช่น TikTok ซึ่งผมถือเป็นสมรภูมิแนวหน้าของการรบกับพวกเขมรที่ปล่อยข้อมูลเท็จและคนไทยรบกันเองอย่างดุเดือดเพื่อปกป้อง "อัตลักษณ์ของชาติ" จากการถูกเคลมโดย "โจรขโมยทรัพย์สินทางวัฒนธรรม"
รัฐบาลก็นิ่งเหมือนเดิม เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่รัฐบาลจะได้เครดิตมหาศาลหากเข้าไปช่วยประชาชนรบในแพลตฟอร์มพวกนี้
นี่จึงเหมือนชาวบ้านบางระจันขอปืนใหญ่กรุงศรี นอกจากกรุงศรีจะไม่ให้ปืนใหญ่แล้ว ยังบอกให้ช่วยตัวเองไปก่อน
สภาพแบบนี้กรุงศรีถึงแตก ผมกลัวว่าสงคราม IO ครั้งนี้ถึงกัมพูชาจะกระจอกงอกง่อย แต่ถ้า "รัฐบาลกรุงศรีฯ" ยังมีแต่คนไม่เอาไหน ก็เกรงว่าศัตรูกระจอกๆ ก็สามารถเอาชนะได้
บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better