สื่อของรัฐอ้างคำพูดของ เริ่นเจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าชิปของ Huawei ยังคง "ตามหลังสหรัฐฯ อยู่หนึ่งรุ่น"
เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เปิดเผยแนวปฏิบัติใหม่เพื่อเตือนบริษัทต่างๆ ว่าการใช้เซมิคอนดักเตอร์ AI ไฮเทคที่ผลิตในจีน โดยเฉพาะชิป Ascend ของ Huawei อาจทำให้บริษัทเหล่านี้เสี่ยงต่อการละเมิดการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ
Huawei ที่มีฐานอยู่ในเซินเจิ้น กลายเป็นศูนย์กลางของการเผชิญหน้าอย่างดุเดือดระหว่างยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจทั้งสอง หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ เตือนว่าอุปกรณ์ของบริษัท Huawei อาจถูกรัฐบาลจีนนำไปใช้ในการจารกรรม ซึ่ง Huawei ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
ล่าสุด เริ่นเจิ้งเฟย วัย 80 ปี ให้สัมภาษณ์กับ People's Daily ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยยืนยันว่าสหรัฐฯ "พูดเกินจริง" เกี่ยวกับความสำเร็จของ Huawei
การควบคุมที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทำให้ Nvidia ยักษ์ใหญ่ด้านชิปของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคู่แข่งรายหนึ่งของ Huawei ไม่สามารถขายเซมิคอนดักเตอร์ AI บางตัว ซึ่งถือกันว่าล้ำหน้าที่สุดในโลก ให้กับบริษัทจีนได้
ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงยิ่งขึ้นจากผู้เล่นในท้องถิ่นในตลาดจีน ซึ่งรวมถึง Huawei ด้วย
เมื่อเดือนที่แล้ว เจนเซ่น หวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nvidia กล่าวกับนักข่าวว่า บริษัทจีน "มีความสามารถและความมุ่งมั่นสูงมาก และการควบคุมการส่งออกทำให้บริษัทเหล่านี้มีจิตวิญญาณ พลัง และการสนับสนุนจากรัฐบาลในการเร่งพัฒนาบริษัท"
อย่างไรก็ตาม เริ่นเจิ้งเฟย กล่าวว่า Huawei "ยังไม่ยอดเยี่ยมขนาดนั้น" ตามบทความที่ตีพิมพ์ในหน้าแรกของหนังสือพิมพ์เมื่อวันอังคาร
"บริษัทหลายแห่งในจีนกำลังผลิตชิป และมีไม่กี่แห่งที่ทำได้ดี Huawei เป็นเพียงบริษัทหนึ่งในนั้น" เริ่นเจิ้งเฟยกล่าวเสริม
เมื่อถูกถามถึง "การปิดกั้นและปราบปรามจากภายนอก" ซึ่งเป็นการอ้างถึงข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ ต่อรัฐบาลจีนโดยอ้อม เริ่นเจิ้งเฟยกล่าวว่าเขา "ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย"
"อย่ามัวแต่จมอยู่กับความยากลำบาก เพียงแค่ทำงานให้เสร็จและก้าวไปข้างหน้าทีละขั้นตอน" เริ่นเจิ้งเฟยกล่าวเสริม
การคว่ำบาตรตั้งแต่ปี 2019 ทำให้บริษัทเข้าถึงส่วนประกอบและเทคโนโลยีที่ผลิตในสหรัฐฯ ได้น้อยลง ส่งผลให้ต้องกระจายกลยุทธ์การเติบโต
จีนกล่าวหาสหรัฐฯ ว่า "กลั่นแกล้ง" และ "ใช้การควบคุมการส่งออกในทางที่ผิดเพื่อกดขี่และควบคุม" บริษัทต่างๆ ของประเทศ
Agence France-Presse
Photo by Fabrice COFFRINI / AFP