ค่ายรถ EV ในจีนลดลงจากกว่า 100 บริษัทในช่วงพีคเหลือแค่ประมาณ 50

ค่ายรถ EV ในจีนลดลงจากกว่า 100 บริษัทในช่วงพีคเหลือแค่ประมาณ 50
เสร็จสงครามราคาไปอีกหนึ่งราย การล่มสลายของ Jiyue สะเทือนไปทั้งวงการ EV จีน

ภายในช่วงก่อนสิ้นปี 2024 ปรากฏว่าจำนวนบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในจีนลดลงจากกว่า 100 บริษัทในช่วงพีคเหลือเพียงประมาณ 50 บริษัทในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม บริษัททั้ง 50 แห่งนี้ไม่ได้ดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง และบริษัทที่เหลือบางแห่งยังคงประสบปัญหาขาดทุน รวมถึงแบรนด์ย่อยบางแบรนด์ที่สร้างโดยบริษัทผลิตรถยนต์รุ่นเก่าและบริษัทอื่นๆ ซึ่งนี่คือข้อมูลจากสำนักข่าว RFI

จากการรายงานของสำนักข่าวเอเชียทีวี (亚洲电视新闻) ระบุว่าผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมชี้ให้เห็นว่าจะมีเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้นที่จะสามารถอยู่รอดและเติบโตในตลาดนี้ได้ในอนาคต ในขณะที่บริษัทที่เหลืออาจจะต้องออกจากตลาดเนื่องจากทรัพยากรไม่เพียงพอหรือส่วนแบ่งการตลาดลดลง

ล่าสุด เป็นเรื่องที่ช็อควงการอย่างมาก เมื่อ Jiyue (极越汽车 หรือ จี๋เยว่ ยานยนต์) ก็ประกาศข่าวการปลดพนักงานออกและปิดกิจการของบริษัท เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม เรื่องนี้ถือว่าส่งผลต่อวงการรถยนต์ของจีนพอสมควรเลยทีเดียว เพราะครั้งหนึ่ง Jiyue เคยได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน และได้รับทุนหนุนหลังจากบริษัทชั้นนำของประเทศ คือ Geely ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ และ Baidu บริษัทเทคโนโลยีระดับชาติ 

ทั้งนี้ Geely เป็นผู้จัดหาโครงสร้างรถให้กับ Jiyue และผลิตยานยนต์ทั้งหมดให้กับ Jiyue ดังนั้นไม่จำเป็นต้องลงทุนเงินจำนวนมากในการสร้างโรงงานและพัฒนาแพลตฟอร์มยานยนต์ในช่วงเริ่มต้น ในขณะที่ Baidu รับผิดชอบส่วนที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ของ Jiyue โดยที่ Baidu เป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ในประเทศจีนที่เริ่มนำระบบขับขี่อัจฉริยะระดับ L4 มาใช้

ข้อมูลสาธารณะแสดงให้เห็นว่าก่อนหน้านี้ Jiyue มีชื่อว่า Jidu Auto (集度) ก่อตั้งขึ้นโดย Baidu และ Geely ร่วมกันในเดือนมกราคม 2021 ในเดือนตุลาคม 2023 รุ่นแรก Jiyue 01 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เป็น SUV ไฟฟ้าล้วนที่มีช่วงราคา 249,900 ถึง 339,900 หยวน 

ในเดือนกันยายน 2024 ได้เปิดตัวรุ่นที่สอง Jiyue 07 เป็นรถเก๋งไฟฟ้าล้วนที่มีราคาส่วนลดเวลาจำกัด 199,900 ถึง 289,900 หยวน  

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีแบ็คอัพที่ทรงพลังขนาดนี้ แต่ยอดขายของ Jiyue ไม่ค่อยดีนัก โดยยอดขายล่าสุดในเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 2,485 คัน และยอดขายสะสมตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายนปีนี้อยู่ที่ 14,000 คัน ด้วยปริมาณการขายเฉลี่ยเพียงกว่า 1,000 คันต่อเดือน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการขาดทุนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รอแต่เพียงเวลาที่จะล่มสลายเท่านั้น

ในช่วงบ่ายของวันที่ 12 ธันวาคม เซี่ยอีผิง (夏一平) ซีอีโอของ Jiyue ได้จัดการประชุมภายในและกล่าวว่าบัญชีของบริษัทถูกระงับ แต่เขาจะไม่หนีไปไหนและยังคงแสวงหาเงินทุนอย่างต่อเนื่อง

แต่ล่าสุด ทั้ง Geely และ Baidu ต่างมีแถลงการณ์แาดสงท่าทีที่จะไม่ลงทุนต่อกับ Jiyue ทำให้บริษัทต้องล่มสลายลงไป ซึ่งแม้ว่ากรณีของ Jiyue ไม่ใช่เรื่องใหม่ในประเทศจีน เพราะเมื่อต้นปีนี้ HiPhi Auto ก็เผชิญสถานการณ์เดียวกันนั่นคือกองทุนสำรองของบริษัทหมดลง และไม่สามารถหาแหล่งเงินทุนใหม่ได้ จนต้องยุติการทำธุรกิจ

แต่ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับค่ายรถยนต์ใหม่บ่อยๆ ขึ้น ผู้บริโภคจะไม่ไว้วางใจค่ายรถยนต์เกิดใหม่ และจะเป็นตัวเร่งให้เกิด "การกำจัด" หรือ "การคัดสรร" ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่จะยืนหยัดอยู่ได้ในการท่ามกลางสงครามราคาที่ดุเดือด

หลังจากข่าวเงียบไประยะหนึ่ง ดูเหมือนว่าวงการ EV และยานยนต์ทั่วไปของจีนจะยังไม่หลุดพ้นจากผลของการทำสงครามราคา ตรงกันข้าม สิ่งที่เกิดขึ้นกับ Jiyue แสดงให้เห็นว่ามันอาจจะกำลังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ

เช่น มีรายงานว่า Neta (哪吒汽车) ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าของจีนประสบปัญหาเช่นกัน และอดีต CEO ของบริษัท คือ จางยง (张勇) ก็ถูกบังคับให้ลาออก

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน หลี่ปิน (李斌) ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอของ NIO (蔚来汽车) ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าของจีน กล่าวในจดหมายภายในเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปีของบริษัทว่า การแข่งขันเพื่อคัดเลือก (ผู้รอดชีวิตใน) อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่เข้มข้นและโหดร้ายที่สุดได้มาถึงแล้ว และมีเพียงบริษัทที่โดดเด่นเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่จะอยู่รอดได้ 

โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better

Photo - ภาพเหตุการณ์ขณะที่ จางอีหมิง ซีอีโอของ Jiyue ถูกรุมล้อมโดยพนักงานของบริษัท หลังจากประกาศข่าวการเลย์ออฟและปิดการดำเนินการธุรกิจ ภาพจาก 东方财富网

TAGS: #EVจีน #จีน