รู้หรือไม่ Jensen Huang แห่ง Nvidia เคยมาอยู่เมืองไทย แต่อยู่ต่อไม่ไหวเพราะอะไร?

รู้หรือไม่ Jensen Huang แห่ง Nvidia เคยมาอยู่เมืองไทย แต่อยู่ต่อไม่ไหวเพราะอะไร?

เรื่องในวัยเด็กที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับ เจนเซน หวง (Jensen Huang) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ Nvidia บริษัทด้านเทคโนโลยีชันนำของสหรัฐฯ และเป็นผู้นำด้านการผลิตชิปชั้นแนวหน้าของโลก 

1. ที่มาของชื่อ เจนเซน หวง มี่อภาษาจีนว่า หวงเหรินซวิน (黃仁勳) แต่ออกเสียงเป็นสำเนียงฮกเกี้ยน (ที่เป็นภาษาจีนประเภทหนึ่งที่แพร่หลายในไต้หวัน) ว่า อึ้งหยินฮุน (N̂g Jîn-hun) ชื่อของเขาในภาษาจีนเมื่อสะกดด้วยตัวอักษรโรมันด้วยการปริวรรตแบบที่ใต้หวันใช้คือระบบ Wade–Giles จะได้เป็น Jen-hsun Huang ซึ่ง Jen-hsun เป็นที่มาของชื่อภาษาอังกฤษ Jensen 

2. ตามรายงานของสื่อไต้หวัน เจนเซน หวง และประธานและซีอีโอของบริษัท AMD คือ ลิซา ซู (Lisa Su) หรือ ซูจือเฟิง (蘇姿丰) เป็นญาติกัน โดยแม่ของเจนเซน หวง และปู่ของซูจือเฟิงเป็นพี่น้องกัน ทำให้เจนเซน หวงและซูจือเฟิง ซึ่งถือเป็นมันสมองสำคัญของวงการเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน และสะท้อนถึงการครอบงำของคนไต้หวันในธุรกิจนี้ แม้ว่า ลิซา ซู จะเคยปฏิเสธข่าวลือนี้ แต่ต่อมาก็ยอมรับว่าทั้งสองเป็นญาติห่างๆ กันจริง

3. เจนเซน หวง เกิดที่เมืองไถหนาน, ไต้หวัน ต่อมาออกจากไต้หวันมาประเทศไทยเมื่ออายุได้ 5 ขวบพร้อมกับพ่อแม่ของเขาในปี 1972 โยตามพ่อที่ไปทำงานโรงกลั่นน้ำมันในไทย แต่เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่มั่นคงในประเทศไทยในปี 1973 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 2516 พอดี ตอนนั้น เหวินซุนอายุได้ 9 ขวบ เขาและพี่ชายวัย 11 ขวบจึงถูกส่งไปสหรัฐอเมริกาเพื่อไปอยู่กับลุงของตน

4. ครั้งหนึ่งรายการ "ตำนานไต้หวัน" หรือ ไถวานเหยี่ยนอี้「台灣演義」 ของสถานีหมินซื่อFTV (民視FTV) ได้สัมภาษณ์เจนเซน หวง เขาเล่าว่าตอนเด็กๆ เขาซนมาก ตอนที่เขาอยู่เมืองไทย ครั้งหนึ่งเขาเคยถอดชิ้นส่วนของไฟแช็กและเทน้ำมันในนั้นออกมาลงไปที่ผิวน้ำของสระว่ายน้ำแล้วจุดไฟ จากนั้นเขากระโจนลงไปในสระน้ำแล้วมองเปลวไฟที่เปล่งประกายบนผิวน้ำของสระ เขาบอกว่ามันสวยงามมาก เขาบอกว่า “การมองดูทะเลเพลิงจากก้นสระว่ายน้ำเป็นความรู้สึกที่แสนวิเศษและยากจะลืมเลือน”

5. เมื่อจากวิกฤตการเมืองในไทย และพ่อก็ต้องการให้ลูกชายได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ พ่อของเขาจึงส่งเขาและพี่ชายไปอาศัยอยู่กับลุงที่สหรัฐอเมริกา แต่ทั้งสองพี่น้องทั้งสองได้เข้าเรียนในโรงเรียนประจำสำหรับวัยรุ่นที่มีปัญหาในรัฐเคนตักกี้ นักเรียนส่วนใหญ่ในจำนวน 300 คนมีมีด ​​เพื่อนร่วมห้องของหวงเหรินซุ่นเป็นเด็กชายผิวขาวอายุ 17 ปีที่มีรอยแผลเป็นจากการทะเลาะวิวาท

6. เจนเซน หวง ซึ่งอายุเพียง 9 ขวบ เป็นเด็กที่อายุน้อยที่สุดในโรงเรียน เขาต้องทำความสะอาดห้องน้ำของเด็กชายหลังเลิกเรียนทุกวัน และมักจะสอนพิเศษให้กับเด็กเกเร หลังจากสำเร็จการศึกษาที่โรงเรียนประจำในรัฐเคนตักกี้ พวกเขาย้ายไปรัฐออริกอนไปอยู่กับพ่อแม่ที่ย้ายมาอยู่ที่สหรับฯ และเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมที่นั่น แต่ เจนเซน หวง ยังคงเป็นด็กที่อายุน้อยที่สุดในโรงเรียน ดังนั้นเขาจึงมักถูกกลั่นแกล้ง อย่างไรก็ตาม ด้วยเกรดที่ยอดเยี่ยมของเขาและการสอนนักเรียนคนอื่น เลิกกลั่นแกล้งเขาไปทีละน้อย

7. เขาได้รับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐออริกอนในปี 1984  งานแรกของ เจนเซน หวงคือเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านอาหาร Denny's ซึ่งเป็นเชนร้านอาหารแบบดินเนอร์ที่นิยมในสหรัฐฯ หลังจากสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัย เขาทำงานเป็นวิศวกรฮาร์ดแวร์ไมโครโปรเซสเซอร์ที่ AMD โดยตั้งแต่ปี 1985 ถึงปี 1993 เจนเซน หวง ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการออกแบบฮาร์ดแวร์หลักที่ LSI Logic

และนี่คือจุดเริ่มต้นของเส้นทางการเป็น "กระบี่มือหนึ่ง" ของ เจนเซน หวง ในวงการเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการผลิตชิป และสร้างบริษัทที่ Nvidia ที่กำลังมั่งคั่งอย่างมากขึ้นมา แต่ก็มีการตั้งกระทู้ในฟอรั่มภาษาจีนว่า "สื่อไทยเคยรายงานไหมว่าหวงเหรินซวินคือแสงสว่างของประเทศไทย?"

"เมื่อตอนที่คุณหวงอายุ 5-9 ขวบ ก่อนจะไปอเมริกา ได้รับการศึกษาและเติบโตที่ประเทศไทย หลังจากอยู่ที่นั่นมา 4 ปี คุณหวงก็น่าจะพูดภาษาไทยได้บ้างแล้วใช่ไหม? ทั้งสภาพแวดล้อมด้านวัฒนธรรมอาหารไทย ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณหวงอย่างลึกซึ้ง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มูลค่าสุทธิของคุณหวงหวงพุ่งสูงขึ้น มีสื่อไทยรีบรายงานว่าคุณหวงคือแสงสว่างของประเทศไทยหรือไม่?"

แม้จะไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่ถ้า Nvidia ลงทุนที่ไทยอย่างจริงจัง มันก็คงจะเป็นแสงสว่างต่ออนาคตของประเทศไทยได้เหมือนกัน

รายงานพิเศษโดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better

Photo - เจนเซน หวง ซีอีโอของ Nvidia กล่าวสุนทรพจน์สำคัญก่อนงาน Computex 2024 ที่ไทเปในวันที่ 2 มิถุนายน 2024 งาน Computex ถือเป็นงานแสดงเทคโนโลยีประจำปีระดับแนวหน้าของไต้หวัน ซึ่งอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลิตทุกอย่างตั้งแต่ iPhone ไปจนถึงเซิร์ฟเวอร์ที่รัน ChatGPT (ภาพโดย Sam Yeh / AFP)
 

TAGS: #JensenHuang