ใครที่จะมาแทนที่ไบเดน จะเป็น'กมลา แฮร์ริส'หรือว่าเป็นคนเหล่านี้?

ใครที่จะมาแทนที่ไบเดน จะเป็น'กมลา แฮร์ริส'หรือว่าเป็นคนเหล่านี้?

หลังจากที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ไม่ขอลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งต่อไป เขาได้ประกาศสนับสนุน กลมา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี ให้เป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่การเสนอชื่อนี้เป็นแค่การเสนอชื่อ ยังต้องผ่านการรับรองจากการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตอีกครั้ง ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 สิงหาคมถึง 22 สิงหาคม ที่นครชิโก ระหว่างนี้ สมาชิดกพรรคเดโมแครตอีกหลายคนมีสิทธิ์ที่จะได้เป็นตัวแทนของพรรคเช่นกัน เช่น 

รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส
แฮร์ริส วัย 59 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในขณะนี้ หลังจากที่ไบเดนเสนอชื่อเธอ สมาชิกพรรคเดโมแครตตคนอื่นๆ ก็สนับสนุนมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตารม มีคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของเธอในฐานะผู้บริหาประเทศ ตัวอย่างเช่น ในระหว่างการดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี มีเจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาวลาออกในระดับสูง ซึ่งรวมถึงการลาออกของหัวหน้าเจ้าหน้าที่ประจำตัวของเธอ รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ เลขาธิการสื่อมวลชน รองเลขาธิการสื่อมวลชน ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสาร และหัวหน้านักเขียนสุนทรพจน์ แหล่งข่าวที่ไม่ระบุชื่อกล่าวว่าพวกเขาลาออกเพราะพวกเขาและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ “มักจะรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่อาวุโสถูกปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสม” 

วุฒิสมาชิก โจ แมนชิน แห่งรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2024 แมนชิน (Sen. Joe Manchin of West Virginia) ประกาศว่าเขาจะไม่ลงสมัครรับตำแหน่งประธานาธิบดี ในแง่การเมือง แมนชิน มักถูกมองว่าเป็นกลุ่มสายกลางหรือแม้แต่เอียงไปทางอนุรักษ์นิยม ซึ่งค่อนข้างคนละางกับแนวทางหลักของพรรคเดโมแครต  อย่างไรก็ตาม ผู้ช่วยทางการเมืองที่ใกล้ชิดของ ส.ว. แมนชิน บอกกับ CBS  ว่าแมนชินกำลัง "พิจารณา" การเสนอตัวชิงตำแหน่งประธานาธิบดี 

ผู้ว่าการรัฐ เกวิน นิวซัม แห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย
นิวซัม (Gov. Gavin Newsom of California) วัย 56 ปี มีแนวคิดเสรีนิยมที่โดดเด่น และสื่อมักชี้ว่าเขาอาจแทนที่ไบเดนได้ ในแง่คะแนนนิยมเขาอาจมีปัญหา เพราะระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐ นิวซัมต้องเผชิญกับคำวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมส่วนตัวและความเป็นผู้นำของเขาในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนมีความพยายามที่จะกดดันให้เขาออกจากตำแหน่งในปี แต่เขาได้รับเลือกอีกครั้งในปีหน้าด้วยคะแนนเสียงมากกว่า 59% แต่นิวซัมระบุซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเเขาไม่ค่อยสนใจที่จะชิงตำแหน่งประธานาธิบดร และหลังจากไบเดนถอนตัวแล้วเขาได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนแฮร์ริสอีกด้วย 

ผู้ว่าการ เกรทเชน วิทเมอร์ แห่งรัฐมิชิแกน
วิทเมอร์ (Gov. Gretchen Whitmer of Michigan) วัย 52 ปี ผู้ว่าการรัฐหญิงรายนี้ได้รับความนิยมอย่างมากและได้รับชัยชนะอย่างล้นหลามในการเลือกตั้งดำรงตำแหน่งอีกสมัยโดยเอาชนะคู่แข่งหญิงจากพรรครีพับลิกัน เช่นเดียวกับนิวซัมชื่อของวิทเมอร์ถูเอ่ยถึงกว้างขวางในฐานะผู้ที่จะมาแทนที่ไบเดน เธอระบุว่าตัวเองเป็นคนหัวก้าวหน้า และในฐานะผู้ว่าการ เธอให้ความสำคัญกับกฎหมายด้านการดูแลสุขภาพและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นแนวทางหลักของพรรคเดโมแครต

ผู้ว่าการ เจ.บี. พริตซ์เกอร์ แห่งรัฐอิลลินอยส์
เจ.บี. พริตซ์เกอร์ (Gov. J.B. Pritzker of Illinois) วัย 59 ปี ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์มาตั้งแต่ปี 2562 และขณะนี้อยู่ในวาระที่สอง เขามีจัดยืนแบบเดโมแครตที่หลักแน่นมาก เช่น การควบคุมอาวุธปืนและสิทธิในทำแท้ง พริตซ์เกอร์ยังเป็นทายาทมหาเศรษฐีของครอบครัวที่เป็นเจ้าของเครือโรงแรมไฮแอทอีกด้วย นั่นคือ ตระกูลพริตซ์เกอร์  (Pritzker family) เนื่องจากมีความมั่งคั่งส่วนตัว รวมถึงความสามารถในการบริหารธุรกิจและการลงทุน ทำให้เขาถูกมองว่าไม่น่าจะมีปัญหาในการระดมทุนหาเสียง

ผู้ว่าการ แอนดี บีเชียร์  แห่งรัฐเคนตักกี้
บีเชียร์ (Gov. Andy Beshear of Kentucky) วัย 46 ปี ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในฐานะพรรคเดโมแครตที่กุมอำนาจในรัฐที่แต่เดิมเป็นฐานเสียงของรีพับลิกัน จุดเด่นของเขาคือไม่ได้มีแนวทางเหมือนพรรคเดโมแครตกระแสหลัก แต่เขาก็มีจุดยืนสนับสนุนแนวทางของเดโมแครตที่ยืนหยัดต่อต้านแนวทางของรีพับลิกันแบบที่ประนีประนอมกันไม่ได้ นั่นคือสิทธิในการทำแท้ง ดังนั้นเขาจึงได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มสนับสนุนการทำแท้ง คือ NARAL Pro-Choice America ซึ่งเป็นกลุ่มสิทธิในการทำแท้ง และได้รับการสนับสนุนจาก Planned Parenthood ซึ่งเป็นกลุ่มวางแผนครอบครัวและสนับสนุนสิทธิ์ที่จะเลือกมีบุตรหรือทำแท้ง

ผู้ว่าการ เวส มัวร์ แห่งรัฐแมริแลนด์
มัวร์ (Gov. Wes Moore of Maryland) วัย 45 ปีเป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งในพรรคเดโมแครต เป็นผู้ว่าการรัฐผิวสีเพียงคนเดียวของประเทศ เป็นผู้ว่าการรัฐจากพรรคเดโมแครตที่อายุน้อยที่สุดในประเทศ เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ และได้รับปริญญาโทจากวิทยาลัยวูล์ฟสัน แห่งอ็อกซ์ฟอร์ดเคยทำงานเป็นกองหนุนกองทัพสหรัฐฯ และกองทัพบกเป็นเวลาหลายปี และยังเคยเป็นนายธนาคารเพื่อการลงทุนในนิวยอร์ก จุดยืนทางการเมืองของเขาคือ "เป็นกลางด้านสังคม เป็นอนุรักษ์นิยมด้านการเงิน" 

ผู้ว่าการ จาเร็ด โพลิส แห่งรัฐโคโลราโด
โพลิส (Gov. Jared Polis of Colorado) วัย 49 ปี ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐโคโลราโดมาตั้งแต่ปี 2019  และเป็นหนึ่งในผู้ว่าการรัฐที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของประเทศ ในปี 2018 เขากลายเป็นชายเกย์ที่เปิดเผยคนแรกและเป็นบุคคล LGBT อย่างเปิดเผยคนที่สองได้รับเลือกเป็นผู้ว่าการรัฐของสหรัฐอเมริกา ในปี 2021 เขากลายเป็นผู้ว่าการสหรัฐฯ คนแรกที่แต่งงานกับคนเพศเดียวกันในปี 2022 เขากลายเป็นชายรักร่วมเพศคนแรกอย่างเปิดเผยที่เป็นผู้ว่าการรัฐคนแรกของสหรัฐฯ และยังผ่านการแต่งงานเพศเดียวกัน ที่ได้รับเลือกอีกสมัย

ผู้ว่าการรัฐ จอช แชพิโร แห่งรัฐเพนซิลเวเนีย
แชพิโร (Gov. Josh Shapiro of Pennsylvania) วัย 51 ปี ได้รับความสนใจจากทั่วประเทศจากการเอาชนะคู่ต่อสู้ฝ่ายขวาจัดในการแข่งขันของผู้ว่าการรัฐในปี 2022 ทำให้พรรคเดโมแครตสามารถยึดฐานที่มั่นทางการเมืองในรัฐที่เป็นสมรภูมิสำคัญได้ เขาถูกจับตามาโดยตลอดว่า อาจเข้ามาแทนที่ไบเดนหากไบเดนถอนตัว แต่หลังจากการประกาศของไบเดน แชพิโรได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนแฮร์ริส 

พีท บูตทีจีก รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม
บูตทีจีก (Transportation Secretary Pete Buttigieg) วัย 42 เคยลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2020 และกลายเป็นผู้สมัครที่เป็นเกย์อย่างเปิดเผยคนแรกที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีหรือพรรคการเมือง ต่อมาสละการแข่งขันแล้วได้รับเลือกให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของรัฐบาลไบเดน เขาสามารถทำงานประสานกับฝ่ายรีพับลิกันได้ ทั้งๆ ที่เป็นสมาชิกในคณะรัฐมนตรีของไบเดน เขามีชื่อปรากฏในฐานะผู้ที่จะมาแทนที่ไบเดนได้ แต่ต่อมาโพสต์บน X ว่า "ผมจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยเลือก @KamalaHarris เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐอเมริกา"

Photo by Allison Joyce / AFP 
 

TAGS: #ไบเดน #กมลาแฮร์ริส