หมดสิ้นแล้วป่าเมืองลาว ประชาชนถามทำไมรัฐปล่อยให้ป่าสงวนถูกตัดเหี้ยน

หมดสิ้นแล้วป่าเมืองลาว ประชาชนถามทำไมรัฐปล่อยให้ป่าสงวนถูกตัดเหี้ยน

ในเวลานี้มีกระแสข่าวที่ได้รับความสนใจอย่างมากในประเทศลาว คือการแชร์ภาพป่าแปก หรือป่าสนของป่าสงวนแห่งชาติภูกองข้าว (ພູກອງເຂົ້າ) บ้านวังเฮือ เมืองทุละคม ในแขวงเวียงจันทน์ อันเป็นพื้นที่ปริมณฑลของเมืองหลวงของลาว โดยภาพที่เผยแพร่นั้นเป็นภาพของป่าสนในปีนี้ (ปี 2024) ที่ถูกตัดโค่นจนแหว่งเหลือแค่ต้นไม่ไม่กี่ต้น พร้อมกับมีการเทียบภาพเดิมเมื่อปี 2020 ที่ป่ายังมีสภาพสมบูรณ์ 

ความงดงามของป่าสงวนภูกองข้าว คล้ายกับภาพทุ่งหญ้าและป่าสนของอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ของประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์กับจังหวัดพิษณุโลก และยังคาบเกี่ยวกับพรมแดนของประเทศลาวด้วย 

ในเพจส่วนตัวของชาวลาวที่ชื่อ Thongkhoon Sayalath ซึ่งเป็นคนแรกๆ ที่จุดประเด็นนี้ โพสต์ว่า "เขตอนุรักษ์ธรรมชาติเขาควายซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักผจญภัยในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ปั่นจักรยาน เดินป่า และกางเต็นท์ ในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงและมีป่าสนอันอุดมสมบูรณ์รวมถึงยอดภูก่องข้าว (ພູກ່ອງເຂົ້າ ) และบนภูเขาควาย (ພູເຂົ້າຄວາຍ) ที่มองออกไปเห็นแม่น้ำ น่าเสียดายมาก เมื่อเห็นภาพด้านล่างซึ่งเกิดจากฝีมือคนไม่เคารพกฎหมายและเจ้าหน้าที่ละเลยในหน้าที่" พร้อมกับภาพเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างที่น่าตกใจ

หนึ่งในความเห็นใต้โพสต์นี้ลบอกว่า "ขนาดใกล้เมืองหลวงนะ น่าเศร้า" อีกคนเชื่อว่า "เจ้าหน้าที่แหละตัวการ" และอีกคนบอกว่า "เจ้านายบ้านเมืองเรา ผู้รับผิดชอบก็ยังนิ่งเสีย หลับหูหลับตาอยู่ได้เนาะ ชมเชย"

อีกความเห็นหนึ่งบอกว่า "พูดมากไม่ได้หรอกอ้าย ก็ได้แต่แค่นั้น ต้นสนอายุเป็น 100 ปีกว่าเติบโตขึ้นมาแบบนี้ได้ บางต้นตัดลงมาแล้วก็ไม่เอา และก็ไม่ใช่ต้นเล็กๆ ตั้งแต่ไปเดือนมหราคมก็สภาพเป็นแบบนี้แล้ว พากันไปตั้งแคมป์ตัดต้นสน ตัดหมดเลย สุดท้ายใครล่ะที่รับผิดชอบ ป่าสงวนมันป่าสงวนแบบไหนกัน สงวนที่แปลว่าอนุรักษ์ไว้ หรือป่าสงวนที่แปลว่า สงวนไว้ให้นายตัด เสียดายป่าต้นน้ำ เสียดายที่จะเอามาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ประเทศอื่นอนุรักษ์เพื่อการท่องเที่ยว รัฐบาลให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวธรรมชาติ เสียดายรายได้ที่สูญเสียจากการท่องเที่ยวธรรมชาติ ภูเขาควายฝั่งอ่างน้ำกำลังจะถูกตัดไปหมดแล้ว อีกไม่นานภูเขาควายจะไม่ใช่ต้นน้ำใหญ่แล้ว ทุกวันนี้ก็แทบจะไม่เหลือแล้ว"

หลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพความพินาศของป่าสงวนภูกองข้าวออกไปทำให้ชาวลาวตกตะลึงและไม่พอใจเป็นอย่างมาก เช่น สื่อในลาวบางแห่ง คือ ນາທີ ຊີວິດ/Accident/นาที ชีวิต  ตั้งคำถามว่า "จากรายงานที่ไม่ได้รับการยืนยันระบุว่าไม้ที่ถูกตัดไปมีแนวโน้มจะถูกลักตัดไปจากประชาชนโดยการซื้อจากนายทุน ในบริเวณนั้นก็มีค่ายทหารประจำอยู่แต่ทำไมไม่มีรายงานหรือห้าม (หรือมีส่วนรู้เห็นและรับผลประโยชน์ด้วยหันหรือไม่? เรื่องนี้ยังคงเป็นคำถามอยู่) หรือตั้งใจหลับหูหลับตาให้ผ่านไป?" และขอให้ทุกฝ่ายแก้ไขปัญหาและให้ข้อมูลแก่สังคมทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับป่าสงวนแห่งชาติแห่งนี้?

อย่างไรก็ตามในช่องแสดงความเห็นนอกจากจะมีประชาชนแสดงความเสียดายและเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ ชาวลาวจำนวนมากเลิอกที่จะใช้คำว่า "ชมเชย" (ຊົມເຊີຍ) เป็นการแสดงความเห็น ซึ่งเป็นมีม (meme) อยางหนึ่งในการแดกดันรัฐบาลและสะท้อนการแสดงความเห็นที่ไม่เสรีในประเทศ

ในเวลาต่อมาเว็บไซต์ข่าว ລາວໂພສ Laopost ได้แพร่ข่าวชี้แจงจากทางการลาวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า "หน่วยตรวจสอบป่าไม้เขตทุละคมได้พร้อมกันไปเก็บข้อมูลและตรวจสอบพื้นที่จริงในพื้นที่ดังกล่าวโดยแจ้งว่า: ภาพถ่ายเปรียบเทียบป่าปี 2020 และ 2024 ที่โพสต์บนโซเชียลมีเดีย แท้จริงแล้วเห็นว่าเป็นภาพเก่า เพราะปัจจุบัน ในพื้นที่จริง รอยตัดเป็นรอยเก่า (2-3 ปีที่แล้ว) รอยใหม่มีน้อยและเป็นต้นไม้เล็กๆ ส่วนต้นไม้ใหญ่นั้นหมดตั้งแต่ก่อนที่ยังไม่ทันมอบให้กระทรวงกสิกรรมและการจัดการป่าไม้ มีแต่ต้นเล็กเป็นบางจุดเท่านั้น"

และหน่วยงานได้ชี้แจ้งว่า "ส่วนกรณีภาพถ่ายที่โพสต์ลงโซเชียลแสดงให้นักท่องเที่ยวเห็นและขนไม้ขึ้นรถนั้นไม่ได้อยู่ในบริเวณภูก่องข้าวแต่อยู่บริเวณผางอยเพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์นี้ กรมป่าไม้ และกรมตรวจป่าไม้ ยังคงสอบสวนและรวบรวมข้อมูลผู้กระทำผิดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด"

อย่างไรก็ตาม ชาวโซเชียลในลาวดูเหมือนจะไม่ยอมรับคำอธิบายนี้ พร้อมกับโพสต์คลิปวิดิโอที่ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2024 ที่ผู้ถ่ายบันทึกภาพความเสียหายของป่าและมีการใช้รถยนต์ขนถ่ายไม้ที่แปรรูปแล้วในพื้นที่ป่า 

เรื่องนี้ยังคงเป็นเรื่องที่คาใจชาวลาวกันต่อไป

ทั้งนี้ จากการรายงานของ The Laotian Times  สื่อภาษาอังกฤษในลาวระบุว่า "ในปี 1940 (พ.ศ. 2483) ประเทศลาวมีป่าไม้ปกคลุมมากกว่าร้อยละ 70 อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน มีเพียงร้อยละ 40 ของพื้นที่ป่าที่เหลืออยู่ และสถานการณ์ยังคงเลวร้ายลงเนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเปลี่ยนพื้นที่ป่าให้เป็นเขตอุตสาหกรรม การเผาป่าเพื่อทำเกษตรกรรม และการตัดไม้อย่างดุเดือด"

TAGS: #ลาว #ป่าสน