เมื่อคาสิโนขึ้นบนมาดิน คนไทยจะตกลงไปอยู่ใต้ถุน

เมื่อคาสิโนขึ้นบนมาดิน คนไทยจะตกลงไปอยู่ใต้ถุน

ไอเดียเรื่องคาสิโนถูกกฎหมายโผล่มาอีกแล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะมันผลุบๆ โผล่ๆ อยู่แบบนี้มาหลายสิบปีแล้ว 

แต่ละครั้งที่ผลักดันเรื่องนี้จะมีเสียงค้านรุนแรง ส่วนเสียงหนุนก็มีแต่ไม่แรงเท่า 

หนุนให้เปิดเพราะต้องการให้รายได้เข้าประเทศ เพราะบ้านเราเป็นเมืองท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่ยังขาด Entertainment Complex ซึ่งตั้งชื่อซะสวยว่า 'สถานบันเทิงครบวงจร' แต่จริงๆ แล้วมันคือบ่อนที่พ่วงความบันเทิงนั่นเอง

ผมคิดว่าคนที่หนุนเรื่องนี้คงคิดว่าจะได้เงินเป็นกอบเป็นกำจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มาเที่ยวไทย แล้วคนพวกนี้จะต้องแวะเล่นพนันแหงๆ 

แต่ผมเชื่อมาตลอดว่าลูกค้าเมืองนอกจะไม่เยอะ แต่คนไทยนี่แหละจะเป็นลูกค้าขาประจำ

แต่จะเชื่อผมไม่ได้ เพราะต้องใช้หลักฐานทางสถิติมาประกอบ ซึ่งคิดว่าตอนนี้ไม่มีฝ่ายไหนมีข้อมูล เพราะไทยไม่เคยมีคาสิโนถูกกฎหมาย

แต่ถ้าเป็นบ่อนผิดกฎหมาย ผมเชื่ออีกนั่นแหละว่าลูกค้าทั้งร้อยทั้งร้อยเป็นคนไทย

คนไทยเป็นคนใจสู้ ไม่ค่อยยอมแพ้อะไรง่ายๆ แต่แพ้อยู่อย่างเดียวคือ 'แพ้ผีพนัน' ที่มาเข้าสิงทุกชนชั้น พอผีตัวนี้สิงแล้ว มีแต่จะยอมให้มัน มันจะกระซิบแทงจนหมดตัวก็ยอม ดังนั้นเราจึงเห็นคนแต่ไทยตามบ่อนที่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน 

และก็คนไทยนี่แหละที่ไปติดเงินบ่อนประเทศเพื่อนบ้าน จนถูกบังคับให้ทำงานเป็นสแกมเมอร์ล่อลวงเหยื่อออนไลน์ เพื่อใช้เงินเล่นพนันที่ติดพวกเครือข่ายบ่อนและธุรกิจสีเทาในประเทศพวกนั้น

ดังนั้น รอบๆ ประเทศไทยที่มี Entertainment Complex  ที่จริงมันไม่เอนเตอร์เทนซักนิดเดียว เพราะถ้าคุณเล่นจนหมดตัวแล้วติดเงินพวกนั้น คุณเสี่ยงที่จะถูกค้ามนุษย์เอาง่ายๆ 

เวลานักการเมืองไทยเสนอ Entertainment Complex มักจะวาดภาพว่ามันจะเว่อร์วังอลังการแบบสิงคโปร์ แต่อย่าลืมว่า คนสิงคโปร์ไม่ค่อยแพ้ผีพนัน และการบริหารประเทศของเขาโปร่งใส ไม่เหมือนบ้านเราที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองพัวพันกับธุรกิจสีเทายุ่งเหยิงไปหมด

ผมกลัวครับว่า แทนที่เราจะเป็นระดับไฮเอนด์เหมือนมาเก๊า มอนติคาร์โล ลาสเวกัส หรือสิงคโปร์ เราจะกลายเป็น 'ปอยเปต 2' ที่มีทั้งคาสิโน การฟอกเงิน และการค้ามนุษย์ เพราะศักยภาพของเราพร้อมสรรพในการเป็น 'คาสิโนสีเทา'

ลองดูวงการตำรวจเถอะครับ แม้แต่คนระดับ ผบ.ตร. กับ รอง ผบ.ตร. ยังแฉกันยับเยินเรื่องผลประโยชน์จากพนันออนไลน์ จนถูกเด้งทั้งคู่ และทำให้วงการตำรวจสิ้นความน่าเชื่อถือเข้าไปอีก 

ถ้าคนที่เราคาดหวังว่าผู้รักษากฎหมายยังเหลวแหลกได้ขนาดนี้ เราวันหนึ่งเรามีคาสิโนขึ้นมาแล้วต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแล 'ความเรียบร้อย' ท่านคิดว่ามันจะเรียบร้อยไหมล่ะครับ?

ในแง่เศรษฐกิจ การเปิดคาสิโนถูกกฎหมายคือการหาเงินเข้ารัฐนั้นเอง แต่อย่างที่ผมบอก ผมกลัวว่าเงินที่ได้มาจะไม่ได้มาจากต่างชาติ แต่มาจากคนไทยนี่แหละ

แล้วมันไม่ดีตรงไหน? ถ้ารัฐจะหาเงินจากประชาชน แล้วมันต่างจากหวยตรงไหน? 

การที่รัฐจะดึงเงินของประชาชน นั่นหมายความว่าประชาชนไม่ยอมใช้จ่าย ทำให้เกิดปัญหาเงินฝืด เศรษฐกิจจะซบเซา 

เรื่องนี้เคยเป็นปัญหาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ในยุคนั้นประชาชนเก็บเงินไว้กับตัวไม่ยอมเอาออกมาใช้ ทำให้เงินขาดแคลนในระบบเศรษฐกิจ ในหลวงจึงทรงให้คนจีนสัมปทานธุรกิจหวย เพื่อให้ประชาชนนำเงินออกมาเล่นการพนัน 

นี่เป็นวิธีการดึงเงินเข้าระบบในยุคโบราณ ถามว่ารัฐบาลไทยยุคใหม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่ไม่ทันสมัยแบบนี้หรือไม่?

การเปิดบ่อนถูกกฎหมายเพื่อดึงเข้ารัฐยังอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี ต่อให้กันพื้นที่ให้แต่คนรวยเข้าไปเล่นในคาสิโนได้ สุดท้ายคนรวยเหล่านั้นก็อาจจะเล่นจนหมดตัว กลายเป็นคนไร้สมรรถภาพทางเศรษฐกิจ แทนที่เราจะผลักดันคนมีเงินให้เป็นนักลงทุน ซึ่งจะสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้บ้านเมืองมากกว่า

อย่างน้อยเป็นนักเดิมพันในตลาดทุน อย่างน้อยก็ยังมีเงินหมุนในระบบทุนนิยมต่อไป แต่ถ้าเงินเข้าไปหมุนในบ่อนมีโอกาสที่เงินจะจมอยู่กับคนไม่กี่คนสูงมาก

ยังไม่นับการที่เหยื่อส่วนใหญ่ที่ถูกผีพนันเข้าสิง มักจะเป็นคนมีรายได้น้อย คนเหล่านี้จะเล่นพนันไม่เลือกไม่ว่าจะบนดินหรือใต้ดิน ขอแค่มีโอกาสได้เงิน (หรือเสียเงิน) มากขึ้นก็เป็นพอ โปรดดูตัวอย่างจากหวยที่คนไทยเล่นทั้งแบบถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ย่อมแสดงว่า การเอาการพนันมาไว้บนดินนั้นไม่ช่วยแก้ปัญหา

ดังนั้น แม้ว่าบ่อนจะถูกยกขึ้นมาอยู่บนดิน แต่บ่อนใต้ดินและบ่อนบนเมฆ (ออนไลน์) ก็ยังคงมีต่อไปเพื่อสนองตัณหานักพนัน นี่จะยิ่งทำให้คนไทยฉิบหายเพราะการพนันกันเข้าไปใหญ่

ผมจึงเชื่อว่ารัฐบาลไม่ได้คิดแก้ปัญหาคนไทยติดการพนัน รัฐบาลเล็งเห็นเฉพาะการจะหาเงินเข้าคลังได้เท่าไร

ขอถามว่า ถ้ามีรายได้เข้ารัฐเป็นกอบเป็นกำ แต่ประชาชนยากจนลง คนรวยกลายเป็นยาจก ส่วนที่เป็นยาจกอยู่แล้วกลายเป็นคนอนาถาเพราะเล่นพนันจนหมดตัวกันทั้งบ้านทั้งเมือง ถามว่าถึงตอนนั้นรัฐบาลยังมีแก่ใจภูมิใจกับรายได้เข้าประเทศแบบนี้อยู่อีกหรือ?

ประเทศไทยเรามีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่จะหากินแบบอื่นโดยไม่ต้องทำร้ายตัวเองแบบนั้น 

และก่อนจะตั้งคาสิโนอย่างโจ่งแจ้ง เราต้องยอมรับความจริงก่อนว่า

1. ประเทศที่ตั้งใจหากินกับ Entertainment Complex ส่วนใหญ่มักมีพื้นที่น้อยไม่มีทรัพยากรอื่นให้หากิน เช่น มาเก๊า, สิงคโปร์, โมนาโก, หรืออาจจมีพื้นที่เยอะแต่หากินอย่างอื่นไม่ได้ เช่น ลาสเวกัส ในรัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐฯ เพราะเป็นพื้นที่ทะเลทราย จึงต้องเปิดบ่อนเสรีดึงคนจากเงินจากคนรัฐอื่นๆ ทั่วประเทศให้เข้ามารัฐนี้ หรือเพื่อนบ้านของเรา เช่น กัมพูชา ซึ่งหากินแบบอื่นลำบากนอกจากการท่องเที่ยว จึงต้องเปิดบ่อนหลายจุดในประเทศ เพื่อดึงเงินจากนักท่องเที่ยว โดยที่คนในประเทศไม่มีแต้มบุญสูงพอที่จะได้เล่น ถามว่า ประเทศไทยเข้าข่ายเหมือนประเทศเหล่านี้หรือไม่?

2. ประเทศร่ำรวยและมีทรัพยากรมากๆ ก็มีคาสิโนบนดิน เพียงแต่เขาไม่ได้หวังว่ามันจะเป็นตัวทำเงินหลักของชาติ และบางประเทศถกเถียงกันนานกว่าจะเปิดคาสิโนแห่งแรก เช่น ญี่ปุ่นที่อนุมัติคาสิโนเมื่อปี 2566 เพราะเจอแรงต้านจากประชาชนญี่ปุ่นที่ 'รู้ตัว' ว่าเป็นคนในชาติเขาหลงการพนันสุดๆ แค่ขนาดนี้ก็ยังเดิมพันอะไรต่อมิอะไรมั่วไปหมด ถ้าเกิดมีคาสิโนใหญ่ขึ้นมาอีกที่ เขากลัวว่าคนหนุ่มสาวจะเป็นผีพนันจนวันๆ ไม่ทำมาหากินอะไร นี่ขนาดญี่ปุ่นนะครับเขายังรู้ตัวว่าเอาชนะการพนันไม่ได้ เรื่องนี้ถ้าไม่เชื่อผม ลองอ่านรายงานฉบับเต็มของ The Guardian ดูได้ แต่ผมจะทิ้งสถิติไว้หน่อยนึงว่า การสำรวจของรัฐบาลญี่ปุ่นในปี 2564 พบว่าผู้คน 2.8 ล้านคน หรือประมาณ 2.2% ของประชากรทั้งหมด ได้รับผลกระทบจากการติดการพนัน

3. คนไทยเสพติดการพนันแบบถอนตัวไม่ขึ้นยิ่งกว่าคนญี่ปุ่นเสียอีก คนญี่ปุ่นยังอาจจะดีกว่าหน่อยตรงที่มีภาพลักษณ์ของการมีวินัยแข็งแกร่ง แต่ขนาดนั้นก็ยังแพ้ผีพนัน ส่วนคนไทยนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง ต่อให้บนดินหรือใต้ดินคนไทยก็จะเล่นมัน จากสถิติของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนันเมื่อปี 2562 พบว่า คนเล่นพนันในไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากการสำรวจคราวก่อน โดยขึ้นมาอยู่ที่ 30.42 ล้นคน หรือคิดเป็น 57% ของคนทั้งประเทศ หมายความว่าคนไทยกว่าครึ่งประเทศเล่นการพนัน เมื่อแบ่งรูปแบบการพนันจะพบว่าการพนันฟุตบอลทำเงินได้มากที่สุด 1.605 แสนล้านบาท รองลงมาคือลอตเตอรีผิดกฎหมาย 1.531 แสนล้านบาท และสลากกินแบ่งรัฐบาล 1.504 แสนล้านบาท แค่นี้ก็จะเห็นว่าการพนันใต้ดินมีสัดส่วนมากว่าพนันบนดินถึงสองเท่า และเมื่อเทียบหวยบนดินกับใต้ดินแล้ว หวยใต้ดินยังนำอยู่ด้วยซ้ำในด้านการทำเงิน 

ดังนั้น ถ้ารัฐบาลบอกว่าการเปิดคาสิโนบนดินจะช่วยให้รายได้เข้ารัฐมากขึ้น ผมคิดว่ารัฐบาลประเมินตัวเองสูงไป เพราะหากการเล่นที่คาสิโนมันเรื่องมากด้วยเงื่อนไขต่างๆ (เช่น กำหนดผู้มีรายได้ขั้นต่ำที่จะเข้าไปเล่น และการแลกชิปขั้นต่ำ) คนไทยก็จะเล่นพนันในบ่อนเถื่อนกับพนันออนไลน์ เพราะมันสะดวกกว่าและไม่มีเงื่อนไข มีแค่สิบบาทยี่สิบบาทก็เล่นได้แล้ว โปรดดูกรณีหวยบนดินกับใต้ดินเป็นตัวอย่าง

ดังนั้น โปรดคิดดีๆ หากคิดจะหากับเงินพนันของคนไทย เพราะคนไทยไม่มีขอบเขตเรื่องพนัน ไม่เหมือนคนในประเทศศิวิไลซ์อื่นๆ ที่แม้จะเปิดคาสิโนไว้กลางประเทศ แต่ประชาชนก็เข้าไปเล่นสนุกๆ ไม่ใช่เอาจริงเอาจังเหมือนคนบ้านเรา 

ความเป็นนักพนันในสายเลือดของคนไทยนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงตั้งข้อสังเกตไว้หลังจากทรงลองไปสำรวจคาสิโนที่มอนติคาร์โล ประเทศโมนาโก คราวประพาสยุโรปว่า 

“ถ้าชาวบางกอกรู้ได้ไปเล่น (พนันแบบคาสิโน) แล้ว ฉิบหายกันไม่เหลือ ถ้าหากว่าไปถึงเมืองเราเข้าเมื่อไร จะรอช้าสักวันเดียวก็ไม่ควร ต้องห้ามทันที ถ้ารู้ถึงผู้ดีเล่นเบี้ยของเรา น่ากลัวอย่างยิ่ง จะดื่มไม่เงย แต่ฉันเปนคนไม่เล่นเบี้ยเลย ยังนึกรู้สึกสนุก ...”

ทรงรู้นิสัยคนไทยดียิ่งถึงกับทรงบอกว่า ถ้าได้เล่นคาสิโนแบบฝรั่งแล้ว "ผู้ดีเล่นเบี้ย (คือนักพนัน) ของเรา น่ากลัวอย่างยิ่ง จะดื่ม (คือเล่นพนัน) ไม่เงย" 

รัฐบาลควรจะรู้นิสัยของประชาชนเสียก่อนว่า เลวร้ายแค่ไหนเรื่องการพนัน ไม่ใช่จะหาเงินจากนิสัยเสียๆ ของคนไทยท่าเดียว

บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการ และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better 

Photo by Eduardo Leal / AFP

TAGS: #คาสิโนถูกกฎหมาย