เปิดความคิดของ'ไล่ชิงเต๋อ' ผู้นำใหม่ไต้หวัน ทำไมจีนต้องระวังผู้ชายคนนี้

เปิดความคิดของ'ไล่ชิงเต๋อ' ผู้นำใหม่ไต้หวัน ทำไมจีนต้องระวังผู้ชายคนนี้

เส้นทางชีวิตของไล่ชิงเต๋อ

  • เขาเป็นลูกของคนงานเหมือง แต่พ่อของเขาเสียชีวิตในเหมืองตอนที่เขายังเป็นทารก แม่ขแงเขาต้องเล้ยงดูลูกทั้งหกคนด้วยตัวเอง
  • เมื่อเติบโตขึ้น ไล่ชิงเต๋อเข้าเรียนด้านการแพทย์ และมีอาชีพเป็นหมอ เขาเริ่มเข้าสู่การเมืองในปี 1996 โดยได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของสภาแห่งชาติครั้งที่ 3 ของเขตที่ 1 ของเมืองไถหนาน ด้วยคะแนนเสียงสูงสุดในเขต  
  • หลังจากนั้นก็ได้รับเลือกเป็นผู้แทนหลายครั้ง และยังได้รับเลือกในปี 2010 นายกเทศมนตรีเมืองไถหนาน ได้รับการเลือกตั้งใหม่อีกครั้งในปี 2014
  • ในปี 2019 เขาเข้าร่วมในการเลือกตั้งเบื้องต้นของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) สำหรับเป็นตัวแทนการเลือกตั้งประธานาธิบดีของไต้หวันปี 2020 และพ่ายแพ้ให้กับ ไช่อิงเหวิน ประธานาธิบดีในขณะนั้น
  • จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2023 เขาได้รับการเสนอชื่อจากพรรค DPP เป็นตัวแทนการเลือกตั้งประธานาธิบดีของไต้หวันปี 2024
  • เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2024 เขาได้รับเลือกอย่างเป็นทางการเป็นประธานาธิบดีด้วยคะแนนเสียง 40.05% และเป็นประธานาธิบดีจากพรรคฝ่ายเรียกร้องเอกราช หรือพรรค DPP อีกสมัย ต่อจากไช่อิงเหวิน


แนวคิดของเอกราชไต้หวัน
ไล่ชิงเต๋อ ระบุในปี 2019 ว่าจุดยืนของรัฐบาล DPP คือ "ต่อต้านคอมมิวนิสต์แต่ไม่ต่อต้านจีน" และการต่อต้านการผนวกไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน โดยวิพากษ์วิจารณ์พรรคคอมมิวนิสต์จีนที่แสวงหาการขยายและเปลี่ยนแปลงระเบียบระหว่างประเทศ ไต้หวันจะต้องยืนหยัดอย่างมั่นคงในค่ายประชาธิปไตย มีบทบาทเชิงรุกในยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิก ป้องกันการขยายตัวของกองกำลังคอมมิวนิสต์ 

ไล่ชิงเต๋อ ไต้หวันจะต้องช่วยส่งเสริมคุณค่าของประชาธิปไตย เสรีภาพ และสิทธิมนุษยชนไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ เขาเชื่อว่ามีเพียงการช่วยเหลือจีนให้เป็นประชาธิปไตยภายในระบบคุณค่าสากลเท่านั้นที่จะสามารถป้องกันไม่ให้เหตุการณ์แบบกรณีเทียนอันเหมินเกิดขึ้นอีก และยังสามารถบรรลุสันติภาพในระยะยาวทั่วช่องแคบไต้หวัน 

ในปี 2019 และ 2020 ไล่ชิงเต๋อ ยังชี้ให้เห็นว่าไต้หวันเป็นประเทศที่มีอธิปไตยและเป็นอิสระอยู่แล้วชื่อสาธารณรัฐจีน (Republic of China หรือ จงหัวหมินกั๋ว 中華民國) และไม่จำเป็นต้องประกาศเอกราชของไต้หวันแยกต่างหาก  นอกจากนี้เขายังระบุด้วยว่าสาธารณรัฐจีนที่สถาปนาขึ้นในปี พ.ศ. 2454 (หลังจากจีนโค่นล้มราชวงศ์ชิง) ไม่มีอยู่อีกต่อไป และสาธารณรัฐจีนได้เกิดใหม่ในไต้หวัน 

ในวันที่ 7 สิงหาคม 2023 ไล่ชิงเต๋อ ให้สัมภาษณ์กับนรายการการเมืองของช่อง Sanlih E-Television
ว่า เอกราชของไต้หวันหมายความว่า "ไต้หวันไม่ได้เป็นของสาธารณรัฐประชาชนจีน" และ “ไต้หวันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างแน่นอน” พิธีกรในรายการถามอีกครั้งว่า “ไต้หวันคือสาธารณรัฐจีนหรือเปล่า?” ไล่ชิงเต๋อ กล่าวว่าชื่อประเทศ (ไต้หวัน) คือ สาธารณรัฐจีน

บทวิเคราะห์สั้น

  1. ดูเหมือนว่า ไล่ชิงเต๋อ จะมั่นคงในหลักการของพรรคสายสีเขียว หรือ Pan-green ของไต้หวัน ซึ่งเป็นพรรคสายเอกราช แต่ท่าทีของเขาชัดเจนว่า "ไต้หวันเป็นเอกราชอยู่แล้ว" และไม่เป็นาวนหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่ 
  2. แนวคิดแบบนี้มาจากฐานความคิดที่ว่า ไต้หวัน คือ "สาธารณรัฐจีน" (อย่างที่ไล่ชิงเต๋อยืนยันมาตลอด) สาธารณรัฐจีนเคยเป็นระบอบการปกครอของจีนแผ่นดินใหญ่มาก่อน จนกระทั่งเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นระหว่างฝ่ายสาธารณรัฐจีนหรือก๊กมินตั๋งและพรรคคอมมิวนิสต์จีน และฝ่ายคอมมิวนิสต์จีนได้รับชัยชนะ เปลี่ยนชื่อประเทศจาก "สาธารณรัฐจีน" (จงหัวหมินกั๋ว 中華民國) เป็น "สาธารณรัฐประชาชนจีน" (จงหัวเหรินหมินก่งเหอกั๋ว 中华人民共和国) 
  3. ต่อมาฝ่ายสาธารณรัฐจีนข้ามมาปักหลักที่ไต้หวัน โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่ข้ามมาโจมตีเนื่องจากมีเหตุผลด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ แต่จีนแผ่นดินใหญ่มีความพยายามที่จะรวมไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งมาโดยตลอด โดยในไต้หวันมีทั้งฝ่ายที่ต้องการประนีประนอมกับจีนแผ่นดินใหญ่ และฝ่ายที่ต้องการให้เป็นเอกราช หรือตั้งประเทศแยกต่างหาก
  4. ไล่ชิงเต๋อ เป็นกลุ่มหลังแต่เขาไม่ได้บอกตรงๆ ว่าจะต้องประกาศเอกราช เพราะเลือกที่จะใช้วิธีคิดที่อิงกับประวัติศาสตร์ว่า ในเมื่อไต้หวันคือสาธารณรัฐจีน ไต้หวันจึงมีเอกราชอยู่แล้ว และไม่เป็นส่วนหนึ่งของจีน ซึ่งในทางทฤษฎีแล้วอ้างไว้ว่าป็นแบบนั้น เพราะตราบใดที่จีนยึงยึดไต้หวันไม่ได้ ตราบนั้นสาธารณรัฐจีนก็ยังมีตัวตนอยู่ 
  5. อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติ ทั่วโลกต่างยอมรับใน "หลักการจีนเดียว" ต่อให้ประเทศนั้นต้องการยั่วจีนมากแค่ไหนด้วยการสนับสนุนไต้วันอย่างออกนอกหน้า แต่ก็ไม่กล้าท้าทายหลักการนี้ เพราะ "กลัวการตอบโต้จากจีน" ดังนั้น ในเวทีโลกไต้หวันจึงเป็นส่วนหนึ่งของจีนตามหลักการ "จีนเดียว" และมีหลักการซ้อนอีกหลักคือ "หนึ่งประเทศสองระบบ" ในกิจกรรมระหว่างประเทศ จึงไม่มีชื่อ "ประเทศไต้หวัน" หรือ "สาธารณรัฐจีน" มีแต่ "ไชนีสไทเป" เท่านั้น

Photo by Sam Yeh / AFP