GPSC รุกแผนเพิ่มประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าทุกมิติ ลดการปล่อยคาร์บอนฯ ตอบโจทย์ความต้องการใช้พลังงานสะอาด ลดอุปสรรคของภาคการส่งออกภายใต้เกณฑ์ใหม่โลกเดินหน้าสู่ Net Zero ในปี 2603
นายศิริเมธ ลี้ภากรณ์ ผู้จัดการใหญ่และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท.ได้มีการจัดทำยุทธศาสตร์การลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยมอบหมายภารกิจ Decarbonization Power ของกลุ่ม ปตท. ให้กับ GPSC บริษัทฯ จึงกำหนดเป้าหมายในการขับเคลื่อนธุรกิจให้สอดรับกับกระแสการเปลี่ยนผ่านพลังงาน รวมถึงความต้องการของตลาดด้านพลังงานแห่งอนาคตที่มุ่งสู่พลังงานสีเขียวที่ทุกอุตสาหกรรมต้องพัฒนาธุรกิจเพื่อรักษาขีดความสามารถการแข่งขันด้านการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ GPSC จะมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ ด้วยนวัตกรรมพลังงานสะอาด ตามโรดแมป Decarbonization Power ที่จะดำเนินการลดคาร์บอนฯ เพิ่มประสิทธิภาพโรงไฟฟ้า ควบคู่ไปกับการแสวงหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงาน สู่เป้าหมายการลดคาร์บอนฯต่อหน่วยการผลิตไฟฟ้า (Carbon intensity) ให้ได้ 10% ในปี 2568 และ 35% ในปี 2573 กระทั่งนำไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนฯ ในปี 2593 และมุ่งสู่ Net Zero ในปี 2603
การลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิกำหนดแผนงานไว้ 4 แนวทาง ได้แก่ แนวทางที่ 1 ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล (Reduce Fossil Fuel Usage) โดยกำหนดแผนปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงหลักเพื่อลดการปล่อยคาร์บอน บริษัทฯจะใช้แนวทางการบริหารจัดการเลือกการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ โดยใช้เทคโนโลยี AI เพื่อวางแผนการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เน้นความสำคัญของหน่วยผลิตที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด ซึ่งจะเลือกการเดินเครื่องโรงไฟฟ้านั้นอย่างเต็มกำลังการผลิต เพื่อให้เกิดการใช้เชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพ
แนวทางที่ 2 เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน (Grow Renewables) GPSC มีแผนการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง GPSC ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอินเดียผ่านการลงทุนในบริษัท Avaada Energy Private Limited หรือ AEPL ผ่านสัดส่วนการถือหุ้นที่ร้อยละ 42.93 ที่มีกำลังการผลิตเติบโตจาก 3.7 กิกะวัตต์ สู่ 20.6 กิกะวัตต์ เพิ่มขึ้น 5.5 เท่าในระยะเวลาเพียง 3.8 ปีนับจากเริ่มลงทุน โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วกว่า 5.1 กิกะวัตต์ ส่งผลให้บริษัทฯ มีพอร์ตการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดเกินกว่า 50% เร็วกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ในปี 2573 และยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแนวทางที่ 3 เสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Enhance Infrastructure) GPSC ได้ร่วมมือกับ Doosan Enerbility Co, Ltd. ผู้เชี่ยวชาญในงานวิศวกรรมก่อสร้างโรงไฟฟ้าและผลิตอุปกรณ์กระบวนการผลิต จากสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ศึกษาการนำกรีนแอมโมเนียมาใช้ร่วมกับเชื้อเพลิงหลัก (Fuel Shifts & Hybridization) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง และการดักจับและกักเก็บคาร์บอนฯ (Carbon Capture and Storage) หรือ CCS
นอกจากนี้ ยังศึกษาการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำจากโรงไฟฟ้าชีวมวล (Biomass) ด้วยการจัดหาวัตถุดิบทางการเกษตร หรือวัสดุเหลือใช้ให้เพียงพอในการป้อนเป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้า ทั้งในประเทศและการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งการนำโซลูชั่นพลังงานปลอดคาร์บอนฯ (Carbon Free Energy Solutions) อื่นๆ เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนฯ ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำในโรงไฟฟ้าประเภทต่างๆ
พร้อมกันนี้ ยังได้ร่วมมือกับบริษัท Saltfoss (เดิมชื่อ Seaborg Technologies) ประเทศเดนมาร์ค ในการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาเทคโนโลยีโมดูล่าร์ขนาดเล็ก (Small Modular Reactor) หรือ SMR เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นเป็น GEN ที่ 4 เป็นพลังงานสะอาดที่มีความปลอดภัยสูง ในกรณีที่เกิดภาวะฉุกเฉิน สามารถใช้หลักธรรมชาติลดความร้อนจากแท่งเชื้อเพลิงได้ดี เพื่อนำมาทดแทนโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงหลัก ตอบสนองภาคการผลิตที่ต้องการไฟฟ้าและไอน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง GPSC พร้อมศึกษารายละเอียดและรอความชัดเจนจากนโยบายภาครัฐในการเดินหน้าพัฒนาโครงการ SMR ที่จะพิจารณาอยู่ในแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ของประเทศ
อย่างไรก็ตามยังได้ศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการลดคาร์บอนฯในพื้นที่มาบตาพุด ร่วมกับปตท.เพื่อศึกษาการใช้ไฟฟ้าพลังงานสะอาดในพื้นที่มาบตาพุดทั้งหมด เนื่องจากผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีเป้าหมายในการลดการปล่อยคาร์บอนฯ เพื่อเตรียมพร้อมกับกฎเกณฑ์การเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ให้กระทบกับภาคส่งออก
ปัจจุบันบริษัทฯอยู่ระหว่างหาแนวทางผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เพื่อสนับสนุนพลังงานสีเขียวในแผนการส่งเสริมการลงทุน Data Center ในไทยโดยศึกษาการกักเก็บพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบความร้อนด้วย Molten Salt Heat Storage เพื่อผลิตพลังงานความร้อนป้อนโรงงานอุตสาหกรรม สนับสนุนให้ลูกค้าอุตสาหกรรมเข้าถึงพลังงานความร้อนสีเขียว นับเป็นส่วนหนึ่งในแนวทาง Maptaphut Decarbonization Power ด้านแผนการลงทุนด้านนวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคต ได้ร่วมมือกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยี CCUS (Carbon, Capture, Utilization & Storage) หรือการดักจับคาร์บอนฯ มาใช้ประโยชน์ในระยะยาว
ท้ายสุด
และแนวทางที่ 4 กิจกรรมซื้อขาย ชดเชยคาร์บอนฯ (Trading/Offsets) ได้แก่ การรับซื้อคาร์บอนฯ การออกใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate หรือ REC) เพื่อตอบสนองความต้องการคาร์บอนฯ และจัดหาให้กับลูกค้า รวมถึงโครงการปลูกป่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ 10,000 ไร่ เป็นต้น