GC เริ่มผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนเฟสแรก 6 ล้านลิตร

GC เริ่มผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนเฟสแรก 6 ล้านลิตร
GC ประกาศผลสำเร็จผลิต SAF รายแรกของไทย ยกระดับอุตสาหกรรมพลังงานและเคมีภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมเคมีชีวภาพ สอดคล้องเป้าหมาย Net Zero ปี 2050

นายทศพร บุณยพิพัฒน์ ผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)  GC   เปิดเผยว่า GC ประกาศความสำเร็จในการเริ่มผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) เป็นรายแรกของประเทศโดยเป็นการผลิต SAF เชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ยังเป็นการรองรับความต้องการพลังงานทดแทนของอุตสาหกรรมการบินพาณิชย์ไทยที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และให้ความสำคัญกับการนำแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนมาใช้เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่ง SAF ของ GC ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISCC CORSIA (International Sustainability and Carbon Certification – Carbon Offsetting and Reduction Scheme for International Aviation)  ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ยอมรับในอุตสาหกรรมการบินสำหรับการรับรองความยั่งยืน  รวมถึงสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 80%* เมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานทั่วไป (*อ้างอิงตามมาตรฐานการรับรอง ISCC CORSIA)

นอกจากนี้ GC ยังได้รับรองมาตรฐาน ISCC Plus (International Sustainability and Carbon Certification Plus) ซึ่งมุ่งเน้นการใช้วัตถุดิบชีวภาพและวัสดุหมุนเวียนใน  การพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างยั่งยืน โดย GC ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูงอีกกว่า 10 ชนิด เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมสิ่งทอ  ถือเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานภายใต้กรอบความยั่งยืนสูงสุด”

ปัจจุบันความต้องการของตลาด SAF กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อันเป็นผลจากความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมการบินเชิงพาณิชย์และการกำหนดกรอบกฎหมายที่สนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งGC ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความท้าทายและโอกาสนี้ ด้วยจุดแข็งสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการกลั่นน้ำมัน และการบริหารจัดการวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการนำน้ำมันพืชใช้แล้วภายในประเทศมาผลิตเป็น SAF เชิงพาณิชย์ โดยเฟสแรกวางแผนผลิต SAF 6 ล้านลิตรต่อปี โดยใช้น้ำมันพืชใช้แล้วเป็นวัตถุดิบหลัก และมีแผนขยายการผลิตเป็น 24 ล้านลิตรต่อปีในอนาคต

อย่าไรก็ตามความร่วมมือระหว่าง GC กับพันธมิตรสำคัญอย่าง OR และการบินไทยในการนำ SAF ไปใช้กับเที่ยวบินทั้งในประเทศและต่างประเทศ นับเป็นก้าวสำคัญของ การพัฒนาเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วภูมิภาค พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการบินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นายทศพร  กล่าวว่า ในอนาคตมีแผนขยายกำลังการผลิตเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่ใช้พลังงานทดแทน และการลงทุนในเทคโนโลยีที่ยั่งยืน เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ชีวภาพในอนาคต  ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในระยะยาว

ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและขยายฐานการตลาด รวมถึงการทำงานร่วมกับองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชีวภาพและพลังงานทดแทน เพื่อผลักดันการพัฒนาและขยายตลาดผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน

 

 

TAGS: #GC #SAF #เคมีชีวภาพ #Net #Zero #