"กองทัพไทย" ปฏิเสธข่าวลือ ปล่อยตัว 18 เชลยศึกเขมร หลังประชุม 4 ฝ่าย ด้าน โฆษกรัฐบาล ยันไทยไม่มีการปล่อยตัว หากกัมพูชาไม่ทำตามข้อตกลง 4 ข้อ ปัดยันนายกฯแทรกแซงวงเจรจา เร่งประชุมJBC
ตามที่มีรายงานข่าวและกระแสข่าวลือแพร่สะพัดในสื่อสังคมออนไลน์และบางสำนักข่าวว่า ประเทศไทยได้ตกลงที่จะปล่อยตัวเชลยศึกชาวกัมพูชาจำนวน 18 นาย ภายหลังการประชุม 4 ฝ่าย ระหว่างไทย กัมพูชา มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2568 นั้น
กองทัพไทย โดย พลตรีวิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ขอเรียนชี้แจงอย่างชัดเจนว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง และขอยืนยันว่า ไม่มีการปล่อยตัวเชลยศึกชาวกัมพูชาทั้ง 18 นาย แต่อย่างใด
การควบคุมตัวเชลยศึกเป็นไปตามหลักปฏิบัติสากล ภายใต้สถานการณ์ความขัดแย้งด้วยอาวุธ โดยกองทัพไทยได้ดำเนินการอย่างเคร่งครัดตาม หลักมนุษยธรรมและอนุสัญญาเจนีวา (Geneva Conventions) เพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของผู้ถูกควบคุมตัวทุกนาย
สำหรับการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบหรือปล่อยตัวเชลยศึกนั้น จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายกัมพูชาได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขสำคัญ 4 ข้อ ซึ่งกองทัพไทยได้เสนอไว้อย่างเป็นทางการก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น การถอนอาวุธหนัก การร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิด การร่วมปราบอาชญากรรมระหว่างประเทศสแกมเมอร์ และ การแก้ปัญหาการรุกล้ำพื้นที่เขตแดน โดยถือเป็นเงื่อนไขที่มีความจำเป็นต่อการสร้าง สันติภาพ ความมั่นคง และความไว้วางใจระหว่างสองประเทศในระยะยาว
ที่สำคัญที่สุด ฝ่ายกัมพูชาต้องแสดงความจริงใจและยุติการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศไทยโดยสิ้นเชิง จึงจะมีการพิจารณาแนวทางอื่น ๆ ร่วมกันได้ในอนาคต
กองทัพไทย ขอเรียกร้องให้ สื่อมวลชนและประชาชนใช้ความระมัดระวังในการรับและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และขอให้ติดตามข้อมูลจากแหล่งข่าวทางการเท่านั้น โดยเฉพาะจาก กองบัญชาการกองทัพไทยและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
จึงแถลงมาเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนในการเผยแพร่ข้อมูลอย่างรอบคอบและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ โดยขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อรักษาบรรยากาศความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ
ด้าน นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ตนตรวจสอบข้อมูลจากนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แม้ว่าจะติดภารกิจอยู่ที่ต่างประเทศ เนื่องจากมีข้อกังวลในหลายอย่าง เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยยืนยันว่าการนำเสนอข่าวของกัมพูชาว่าไทยจะปล่อยเชลยศึกทั้ง 18 คนนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากการประชุมร่วมกับทางกัมพูชาครั้งก่อน มีการพูดคุยต่อรองอยากให้ไทยปล่อยตัวเชลยศึกทั้ง 18 คน แต่ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันไปว่าจะต้องดำเนินการตามข้อตกลง 4 ข้อของการประชุม GBC ครั้งที่ผ่านมาคือการถอนกำลังทหาร การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การจัดการปัญหาสแกมเมอร์ และผลักดันชาวกัมพูชาที่รุกล้ำอยู่ในพื้นที่ดินแดนไทยออกจากพื้นที่ แต่หากไม่ดำเนินการ 4 ข้อตกลงดังกล่าว ก็จะไม่เจรจาการปล่อยตัวเชลยศึกทั้ง 18 คน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า จากกรณีที่มีการระบุว่า นายกรัฐมนตรีไทยเร่งรัด ให้ประชุม JBC ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากนายกรัฐมนตรีไม่ได้แทรกแซง ซึ่งเน้นย้ำว่าเป็นไปตามปฏิทิน ที่ได้ตกลงไว้แล้วก่อนหน้านี้ เพื่อหาทางออกร่วมกัน
ส่วนที่มีการซักถามว่าหากประชุม JBC ถือว่าเป็นการสละสิทธิ์ยกเลิก MOU 43- 44 หรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าได้รับคำตอบจากกระทรวงการต่างประเทศ ว่าการประชุม JBC เป็นการพูดคุยกันในเรื่องแนวทางที่จะดำเนินการ เช่นการใช้ระบบไลดาร์ ในการหาพิกัด ซึ่งไม่มีพันธะผูกพันสัญญาใดๆ แต่เป็นการพูดคุยหาแนวทางร่วมกันเท่านั้น