โรงพยาบาลวิมุต ชวนคนทำงานสำรวจใจ กับภาวะ “Professionalism Trap” หรือ “กับดักความเป็นมืออาชีพ” ภาวะทางใจของคนที่กลัวผิดพลาดและตั้งมาตรฐานตนเองสูงเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะเครียดเรื้อรัง ซึมเศร้า
โรงพยาบาลวิมุต ชวนคนทำงานสำรวจใจตัวเอง กับภาวะ “Professionalism Trap” หรือ “กับดักความเป็นมืออาชีพในที่ทำงาน” ภาวะทางใจที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวในกลุ่มคนที่ตั้งมาตรฐานตนเองไว้สูงและกลัวความผิดพลาดมากเกินไป ซึ่งหากปล่อยไว้นาน อาจนำไปสู่ภาวะเครียดสะสม ซึมเศร้า หรือหมดไฟได้ในที่สุด
.jpg)
พญ.นงนุช สัตกรพรพรหม จิตแพทย์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจิตเวช ศูนย์สุขภาพใจ โรงพยาบาลวิมุต อธิบายว่า “กับดักความเป็นมืออาชีพ” ไม่ใช่โรคทางกายภาพ แต่เป็นภาวะทางจิตใจที่คล้ายกับโรคบุคลิกภาพย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive Compulsive Personality Disorder: OCPD) ซึ่งมักพบในคนที่ให้ความสำคัญกับความสมบูรณ์แบบมากเกินไป หรือเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ต้อง “ห้ามผิดพลาด” โดยเฉพาะในที่ทำงานที่มีการแข่งขันสูง
“คนที่ติดกับดักนี้ มักไม่กล้าพูดคำว่า ‘ฉันทำไม่ได้’ กลัวถูกมองว่าไม่เก่ง หรือไม่มืออาชีพ ต้องวางมาดเข้มแข็งเสมอ และพยายามควบคุมทุกอย่างให้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด จนกลายเป็นภาระใจโดยไม่รู้ตัว” พญ.นงนุช กล่าว
สัญญาณเตือนที่ควรระวัง
-
ไม่กล้ายอมรับความผิดพลาดหรือขอความช่วยเหลือ
-
รู้สึกว่าต้อง “ดีที่สุด” ตลอดเวลา
-
พยายามควบคุมภาพลักษณ์และอารมณ์มากเกินไป
-
มีความคิดวนซ้ำ กลัวผิดพลาด แม้เป็นเรื่องเล็กน้อย
หากปล่อยไว้นาน สมองจะเกิดความไม่สมดุลระหว่าง “เหตุผล” และ “อารมณ์” ส่งผลให้ร่างกายหลั่งสารความเครียดซ้ำ ๆ และอาจนำไปสู่โรคทางจิตใจ เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล หรือภาวะหมดไฟ (Burnout) โดยเฉพาะในกลุ่มอาชีพที่รับผิดชอบสูง เช่น แพทย์ ผู้บริหาร นักวิชาการ หรือศิลปิน
เมื่อ “มืออาชีพ” เริ่มทำร้ายคนรอบข้าง
พญ.นงนุช อธิบายเพิ่มเติมว่า คนที่ยึดติดกับความสมบูรณ์แบบมักสร้างแรงกดดันให้คนรอบตัวโดยไม่รู้ตัว ทั้งในรูปแบบของ “บรรยากาศตึงเครียด” เพราะคาดหวังว่าทุกคนต้องทำได้ดีเท่าตนเอง หรือ “ความรำคาญใจ” จากพฤติกรรมจุกจิก เช่น การตรวจงานซ้ำหลายรอบ หรือถามคำถามเดิมซ้ำ ๆ แม้จะตั้งใจดี แต่กลับส่งผลเสียต่อทีมและความสัมพันธ์ในที่ทำงาน
วิธีปลดล็อก “กับดักความเป็นมืออาชีพ”
การออกจากภาวะนี้ ไม่ได้หมายถึงการลดมาตรฐานของตนเอง แต่คือการเรียนรู้ที่จะ “เมตตาต่อตัวเอง” และ “ยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์”
พญ.นงนุช แนะนำว่า ควรเริ่มจากการปรับความคิดให้สมดุล ตั้งเป้าหมายที่เหมาะสมกับศักยภาพของตนเอง พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย และให้เวลากับชีวิตส่วนตัว รวมถึงกล้าที่จะขอคำปรึกษาจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเมื่อรู้สึกว่ารับความกดดันไม่ไหว
“การมาปรึกษาจิตแพทย์ไม่ได้แปลว่าเราอ่อนแอ แต่คือการดูแลใจอย่างมืออาชีพ เพราะการเป็นมืออาชีพที่มีความสุขคือการยอมรับว่าตัวเองผิดพลาดได้ — ความล้มเหลวไม่ได้ฆ่าใคร มันแค่ช่วยให้เราเติบโตขึ้น”
— พญ.นงนุช สัตกรพรพรหม
ผู้ที่สนใจปรึกษาแพทย์หรือต้องการดูแลสุขภาพใจ สามารถติดต่อ ศูนย์สุขภาพใจ ชั้น 18 โรงพยาบาลวิมุต
เวลา 08.00–18.00 น. โทร. 02-079-0078
หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อจองคิวพบแพทย์และใช้บริการปรึกษาออนไลน์ได้
.jpg)