"อนุทิน" เปิดงานกินเจกระบี่กลางสายฝน ขอให้ประชาชนมีความสุข ร่ำรวย ได้บุญ ย้ำคนละครึ่งเฟสสองมาแน่ ต้นปีหน้า พร้อมพบปะ อสม. และผู้นำสตรี อบจ.กระบี่ ย้ำ"โกหนู" ฝากช่วยกันสร้างความสามัคคีให้กับบ้านเมือง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางสาวศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เปิดงานรวมพลคนกินเจ จังหวัดกระบี่ ครั้งที่ 19
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้มาท่ามกลางฝน แต่น้ำฝนไม่ได้ทำให้เรามาพบกันไม่ได้ ไม่ใช่อุปสรรคที่จะทำให้ตนไม่ได้พบกับชาวกระบี่ วันนี้เรามาทำบุญที่พ่อแม่พี่น้องจะเริ่มเทศกาลกินเจ กินให้เต็มที่เพราะรัฐบาลเตรียม คนละครึ่งพลัสไว้ ให้กับพ่อแม่พี่น้องแล้ว ไม่ว่าพ่อแม่พี่น้องใช้จ่ายเท่าไร รัฐบาลสมทบไปอีกครึ่งหนึ่ง เพื่อให้พ่อแม่พี่น้องมีความสุขในเทศกาลกินเจนี้ ตนจะทำทุกวิถีทางให้จังหวัดกระบี่ได้มีความเจริญรุ่งเรือง และมีโอกาสสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้จังหวัดกระบี่ เป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวอยากมาใช้ชีวิตมาจับจ่ายใช้สอยมาจับจ่ายใช้สอย พวกเราทุกคนและลูกหลานของเราจะได้มีการมีงานทำและอย่าลืมว่าใช้คนละครึ่งพลัสอย่างเต็มที่ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป ถ้าคนไหนตกหล่น ต้นปี เราจะทำเพิ่มอีกในเฟสสอง ให้กับประชาชน ประชาชนจะได้รู้สึกไม่ขาดอะไรไป
นายกฯ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ฝนตก ขอเชิญให้ทุกคนไปเริ่มเทศกาลกินเจ ชมการแสดงต่างๆ หาที่หลบฝนให้ดี จะได้ไม่เจ็บป่วย ขอให้มีความสุข
“ขอให้กินเจแล้วได้บุญเยอะๆ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ขอให้มีสุขภาพดี มีความร่ำรวย และมีความสุขตลอดไป” นายอนุทิน กล่าว
พบปะ อสม. และผู้นำสตรี อบจ.กระบี่ ย้ำ "โกหนู" ฝากช่วยกันสร้างความสามัคคีให้กับบ้านเมือง
เวลา 17.10 น. นายอนุทิน พบปะและมอบแนวทางการพัฒนาและยกระดับการดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนให้กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และผู้นำสตรีองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ กว่า 2,000 คน ณ อาคารแพลตตินั่ม ฮอล์ล อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม นายภๆราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม น.ส.ศศิธร กิตติธรกุล รมช.มหาดไทย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ร่วมให้การต้อนรับ
โดยทันทีที่นายอนุทินเดินทางถึงอาคารแพลตตินั่ม ฮอล์ล บรรดา อสม. และผู้นำสตรี อบจ.กระบี่ กว่า 2,000 คน ร่วมร้องเพลง อสม. ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน ได้ร่วมร้องคลอด้วยความฮึกเหิมและเป็นกันเองกับ อสม. และผู้นำสตรี พร้อมรับฟังการกล่าวต้อนรับจากประธานชมรม อสม. กระบี่ ก่อนจะขึ้นเวทีแหลงใต้ "สวัสดีครับ" ก่อนจะกล่าวพบปะและมอบแนวทางการยกระดับดูแลสุขภาพประชาชน และในช่วงท้าย ได้ทำหน้าที่เสมือนเป็น "หลวงพ่อหนู" วัดราษฎร์ทั้งสิ้น "ศรัทธาราม" อวยพรพี่น้อง อสม. และผู้นำสตรี อบจ.กระบี่ เป็นภาษาบาลี เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล
นายอนุทิน กล่าวว่า ตนทำงานร่วมกับพี่น้อง อสม. ในฐานะ รมว.สาธารณสุขมา 4 ปี สิ่งมี่ทำให้เราผ่านพ้นวิกฤตที่ใหญ่สุดนี้ นอกจากแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ สิ่งที่ทำให้พลิกฟื้นกลับคืนมา เป็นตัวอย่างประชาคมโลก นานาประเทศชื่นชมโสมนัสการจัดการโควิด-19 ของประเทศไทย คือ "อสม." เพราะประเทศอื่นไม่มี โดยทุกครั้งที่ตนไปประชุมที่ WHO และองค์กรระหว่างประเทศ เรื่อง อสม. ถูกตนหยิบยกมาเป็นที่ชื่นชมทุกองค์กรทุกครั้ง เพราะ อสม. จะสำเร็จต้องมาจาก Inner มาจากข้างในใจ ไม่ใช่มาเพราะหน้าที่ หรือถูกบังคับให้มา ซึ่งเป็นสิ่งที่มีเฉพาะประเทศไทย และเป็นพลังที่ไม่ว่ามีโรคอะไร เราสู้ได้หมด นี่คือพลังอันเข้มแข็งและศักดิ์สิทธิ์
"ในช่วงโควิด-19 อสม. จะเดินตามหมอและพยาบาลไปทุกบ้าน มือต้องถือแอลกอฮอล์ ถือยาดม หน้ากากอนามัย และที่วัดไข้ เพราะการกักตัว การบริหารจัดการต่าง ๆ เมื่อหมอติดโควิด-19 บุคลากรวงต่าง ๆ ก็ต้องหยุดทำหน้าที่ จนกระทั่งต้องให้ "อสม." เป็นผู้ดูแล โดยมีระบบการแพทย์ทางไกล (Telemed) ตรวจกันทางจอมือถือ จนทำให้คุณค่า อสม. เกิดขึ้นทันใดและได้รับการยอมรับ ดังนั้น ไม่ว่าตนอยู่ที่ไหน กระทรวงไหน เมื่อเจอ อสม. จะตื่นเต้นและรู้สึกอยากพบเจอกับทุกท่าน และตนก็เป็น อสม. ที่บุรีรัมย์ โดยตนภูมิใจที่ได้ขับเคลื่อนโครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ให้กับ อสม. เพื่อเวลา อสม. เสียชีวิต จะได้ไม่ต้องกังวลในยามต้องจากไป กระทั่งประสบความสำเร็จถึงทุกวันนี้ ซึ่งตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการเรื่องนี้ โดยเอาโมเดล อสม. มาประยุกต์กับ อส. และอาสาสมัครต่าง ๆ ของกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งได้กำชับว่าที่อธิบดีกรมการปกครอง วางระบบอย่างจริงจัง อย่างน้อยมีเงินก้อนนี้คอยดูแลจุนเจือครอบครัวอาสาต่าง ๆ เมื่อต้องจากโลกนี้ไป"
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า อสม. อย่าทิ้งประชาชน อสม.คือหมอคนแรกของประชาชนที่เมื่อเขาเจ็บป่วยจะต้องได้พบเพื่อดูแลสุขภาพเบื้องต้น ดังนั้น โครงดาร 1 ตำบล 1 ผู้ช่วยพยาบาลจะยังอยู่ ต้องทำให้เกิดความชัดเจน นอกจากนี้ โครงการฟอกไตฟรีกลับมาในรัฐบาลนี้ เพื่อดูแลชีวิตของพี่น้องประชาชนไม่ต้องติดเข็มติดสายเดินไปมา สามารถเข้ารับบริการฟอกไตฟรีได้
นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ฝาก อสม. และพี่น้องสตรี อบจ.กระบี่ อย่าให้มียาเสพติด อย่าให้มีขโจรขโจน ทำเมืองไทยให้น่าอยู่ ทำให้กระบี่น่าอยู่ เพื่อให้มีแต่นักท่องเที่ยว มีคนอยากมาเที่ยว เมื่อคนมาเที่ยวก็จะมีรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น รายได้ดีขึ้น บ้านเมืองเราก็จะสามารถขับเคลื่อนพัฒนาทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างรุดหน้าเต็มกำลัง ขอให้ทุกคนย้ำเตือนลูกหลานและทุกคนในชุมชนว่า "ยาเสพติดคือเสนียดจัญไรของบ้านเมือง ใครทำคนนั้นต้องถูกดำเนินคดีเด็ดขาด" ด้วยพลัง อสม. พลังสตรี เราช่วยกันทำได้ ทำให้คนไทยมีความแข็งแรง ไม่เป็นภาระลูกหลาน เพื่อลูกหลานทำงานสร้างเสริมรายได้ สร้างโอกาสต่าง ๆ เราต้องช่วยกันทำให้ประเทศมีข่าวดีทีละนิดทีละนิด เพื่อทำให้ประเทศไทยมีความสงบสุข และสร้างชีวิต สร้างความสามัคคีให้กับประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง ฝากพวกเราช่วยกันสร้างความสามัคคีให้กับบ้านเมืองเรา เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ และสำหรับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เราต้องทำให้กองทุนเกิดการสร้างมูลค่า สร้างรายได้ ทำให้คุ้มค่า ต้องคิดให้ดีว่าอะไรที่ทำแล้วต้องขายได้และมีราคา เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องสตรีทั่วประเทศอย่างยั่งยืน
"ตนคือคนที่ประชาชนเลือก เป็น ส.ส. ประเทศไทย ไปที่ไหนก็ต้องคิดทำประโยชน์ให้ทุกคน โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่ ตนมีความผูกพันกับคนใต้ ภรรยาก็เป็นคนใต้ ดังนั้น ตนเห็นศักยภาพ โอกาส และน้ำใจของคนกระบี่ ขอให้ชาวกระบี่ทุกคนร่วมกันสร้างสรรค์ทำให้จังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดแห่งความสุขที่ยั่งยืน" นายอนุทิน กล่าวในช่วงท้าย
น.ส.ซาบีดา กล่าวว่า ตนผูกพันกับกระบี่ ตั้งแต่เมื่อครั้งตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่ดูแลโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ และตอนนี้เป็น รมว.วัฒนธรรม มีหน้าที่ส่งเสริมงานวัฒนธรรมของประเทศชาติ และในฐานะเป็นชาวมุสลิม ตนพึงระลึกถึงหน้าที่ในการส่งเสริมทุกศาสนา ทำหน้าที่ด้วยความยุติธรรมให้ทุกศาสนาไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เมื่อได้รับหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ ตนก็พร้อมที่จะดูแลพี่น้องทุกคน ทุกศาสนา และพร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจเพื่อพี่น้องประชาชน
นายภราดร กล่าวว่า เป็นครั้งที่ 5 ที่ตนได้มาร่วมกิจกรรมกับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกระบี่ ซึ่งกระบี่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา ที่ได้ขับเคลื่อนจังหวัดกระบี่ให้มีความสมบูรณ์พูนสุขมากขึ้น โดยเฉพาะพี่น้อง อสม. ซึ่ง นายอนุทิน เมื่อครั้งเป็น รมว.สาธารณสุข ได้สนับสนุนและขับเคลื่อนเงินค่าตอบแทนจาก 500 บาท เป็น 1,000 บาท กระทั่งออกกฎหมายเพิ่มเติมเป็น 2,000 บาท โดยในขณะนี้ การบริการ "ฟอกไตฟรีกลับมาให้บริการพี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่ง" และ 4 เดือนนี้ เราจะขับเคลื่อนสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลัง
น.ส.ศศิธร กล่าวว่า ตนได้รับความไว้วางใจเป็นอย่างสูงให้มาเป็น รมช.มหาดไทย ซึ่งถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เพราะตนขับเคลื่อนงานแม่บ้าน อบจ. บูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายมาตลอด โดยตอนนี้ตนได้รับมอบหมายให้กำกับกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งตนให้ความสำคัญกับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีอย่างต่อเนื่อง และจะทำให้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นกองทุนเพื่อทำให้คุณภาพชีวิตของพี่น้องสตรีมีแต่สิ่งที่ดีและมีความสุขอย่างยั่งยืน
ด้านประธานชมรม อสม. กระบี่ ย้ำว่า ชาว อสม. พร้อม "เป็นมือขวาของหมอ เป็นหมอคนที่ 1 ผู้ดูแลส่งเสริมสุขภาพคนในชุมชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ประชาชนจังหวัดกระบี่มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน สร้างสังคมสุขภาวะที่เข้มแข็ง"
การลงพื้นที่นี้ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายไพรัตน์ เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ร่วมด้วย
เปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลกระบี่ หนุนเป็นที่จ้างงาน สร้างโอกาส สร้างชีวิตที่ดีให้กับประชาชนได้ทำมาหากิน
เวลา 18.29 น. ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลกระบี่ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ นายอนุทิน เป็นประธานเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลกระบี่อย่างเป็นทางการ โดยมีคณะรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา และประชาชนชาวจังหวัดกระบี่ ร่วมในพิธีอย่างคับคั่ง โดยมี นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการเปิดศูนย์การค้า
พิธีเปิดในวันนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม นายภๆราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม น.ส.ศศิธร กิตติธรกุล รมช.มหาดไทย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ร่วมด้วย
นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ตนและทุกท่าน ณ ที่นี้ ล้วนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เราได้มี "ศูนย์การค้าเซ็นทรัลกระบี่" เปิดทำการอย่างเป็นทางการวันแรกในวันนี้ ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของภาคเอกชนขนาดใหญ่ที่มีต่อศักยภาพของเศรษฐกิจจังหวัดกระบี่ อันถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
"จังหวัดกระบี่เป็นมากกว่าเมืองท่องเที่ยวเพราะจังหวัดกระบี่จะต้องเป็นเมืองแห่งการลงทุน เมืองแห่งโอกาส เป็นประตูสู่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน เป็นที่ใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยว การมีศูนย์การค้าครบวงจรระดับประเทศเช่นนี้ย่อมเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องชาวกระบี่ และตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยสิ่งที่ชื่นชมเป็นพิเศษ คือ แนวคิดการพัฒนาศูนย์การค้าแห่งนี้ที่ว่า "Made by KRABI" ที่ไม่ได้มุ่งเน้นแค่การเป็นแหล่งช้อปปิ้ง แต่ยังให้ความสำคัญของการผนวกเอาอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของกระบี่เข้าไว้ด้วยกันในการออกแบบและการดำเนินงาน"
นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณและขอเป็นกำลังใจให้กับผู้บริหารเซ็นทรัลกระบี่แห่งนี้ในการดำเนินบทบาทเป็นผู้ค้าที่ดีและเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดกระบี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง และหวังว่าจะได้รับความร่วมมือสถานที่แห่งนี้ให้เป็นสถานที่จัดแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร พืชผลทางการเกษตรของพี่น้องประชาชน ให้เขาได้มีโอกาสเข้ามาจำหน่าย ขยายช่องทางการตลาดให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยอาศัยชื่อเสียงและแรงดึงดูดของการมีห้างสรรพสินค้าเช่นนี้อยู่ในจังหวัดกระบี่
"ในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว ขอให้ความเชื่อมั่นกับพี่น้องประชาชนและทุกท่านทั้งหลายว่า ทุกคนทราบดีว่ากระบี่เป็นอีกจุดหมายปลายทางหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาใช้เวลาและใช้ชีวิต ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมจังหวัดด้วย เพราะกระบี่มีทุกอย่าง มีสนามบินที่มาตรฐาน มีเส้นทางการคมนาคมขนส่งที่สะดวกปลอดภัย มีประชาชนที่น่ารัก และมีโอกาสในการที่จะสร้างความคับคั่งมั่นคงเพื่อสะท้อนไปยังคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกระบี่ และขอฝากให้เป็นที่จ้างงานให้กับพี่น้องประชาชนจากจังหวัดใกล้เคียง และจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ ให้เขาได้มีโอกาสมาทำมาหากิน มาประกอบอาชีพมมารับจ้างด้วยความซื่อสัตย์สุจริต"
นายอนุทิน กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอขอบพระคุณกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาที่ได้ช่วยรัฐบาลในการส่งเสริม ทั้งการลงทุน การท่องเที่ยว การขยายตัวทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และโอกาสที่พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียงจะได้รับจากการเปิดขึ้นของศูนย์การค้าเซ็นทรัลกระบี่ ขอให้ท่านได้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนและเป็นโอกาสของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง เราจะเจริญรุ่งเรืองและเติบโตยิ่ง ๆ ขึ้นไปและขอให้ได้เปิดสาขาต่อ ๆ ไปในอนาคตอันใกล้นี้ตามเจตนารมณ์ของกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไปด้วยกันทุกประการ