"อนุทิน"ตั้งกก.สอบปมอาคารสตง.ถล่มใน 7 วัน ยันขนเอกสารหนีก็ไม่พ้น "เอกนัฎ"อึ้งเจอเหล็กสเปคเดียวกัน3ยี่ห้อขอตรวจสอบก่อนยังไม่อยากปรักปรำใคร

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย (มท.) พร้อมด้วย นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม (อก.) นำเจ้าหน้าที่สภาวิศวกรรมและ เจ้าหน้าที่ มอก. เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุอาคารกำลังก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่เกิดถล่ม จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ในประเทศเมียนมาร์ เมื่อวันที่ (28 ม.ค.) ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นายอนุทิน เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายหน่วยงานอยู่ระหว่างเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตและผู้เสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ยังคงพบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีทีมวิศวกรคอยประเมินการทำงานด้านการเจาะโครงสร้าง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้ที่ติดค้างอยู่ภายในซากอาคารและผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ได้เครื่องมือเข้ามาเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก เช่น เครนขนาด 500 ตัน และ 600 ตัน ซึ่งก็จะนำเครื่องมือเหล่านี้มาใช้ในการทยอยยกคานขนาดใหญ่ซึ่งมีน้ำหนักมากลงมาด้านล่างเพื่อลดแรงกดทับจากด้านบน ลดความเสี่ยงในการถล่มเพิ่มเติม

ในส่วนการตรวจสอบหาสัญญาณชีพขณะนี้อยู่ระหว่างใช้เครื่องมือในการตรวจสอบแต่ต้องยอมรับว่าสัญญาณค่อนข้างอยู่ในระดับต่ำ ส่วนนี้อาจมาจากการที่ผู้ติดค้างอยู่ในซากอาคารติดค้างอยู่ภายในเป็นเวลานานหลายวันจึงอาจทำให้ไม่มีแรงในการขยับตัว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมีการหาวิธีที่จะค้นหาผู้ติดค้างในทุกวิถีทาง

สำหรับตัวเลขผู้สูญหาย จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่ายังคงมีผู้ที่ติดค้างอยู่ภายใต้เศษซากอาคารอีกประมาณ 50 คน แต่ไม่ได้หมายความว่าหากครบทั้ง 50 คน แล้วจะหยุดการค้นหา ซึ่งภารกิจในครั้งนี้ยอมรับว่า มีความยากลำบากและสำคัญเทียบเท่าใกล้เคียงกับภารกิจถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน

สำหรับการตรวจสอบสาเหตุเบื้องต้นนั้น ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยขีดเส้นให้ดำเนินการภายใน 7 วัน โดยมีวิศวกรใหญ่ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรม และนักวิชาการ เป็นคณะทำงานตรวจสอบ โดยการตรวจสอบจะเน้นไปที่ วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่

อย่างไรก็ตามขณะนี้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ลงพื้นที่เก็บชิ้นส่วนไปตรวจสอบ แต่ส่วนตัว มองว่า ตึกนี้น่าจะมีปัญหาเนื่องจากในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีตึกเป็นจำนวนกว่า 10,000 ตึก บางตึกมีอายุมากกว่า 30-50 ปี
แต่ก็ไม่เห็นเกิดปัญหาเหมือนเช่นอาคารแห่งนี้ ซึ่งเดิมทีประเทศไทยก็มีมาตรฐานในการ ก่อสร้างอาคารสูงเพราะฉะนั้น ตัวเองจึงไม่อยากให้นำข้อมูลการก่อสร้างของอาคารแห่งนี้มาเปรียบเทียบกับตึกอื่นๆ

สำหรับกรณีกลุ่มชายชุดดำ หอบแฟ้มเอกสารออกจากพื้นที่เกิดเหตุ นั้น วันนี้ได้มีการเซ็นหนังสือแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นใช้เวลาตรวจสอบ 7 วัน และไม่ว่าจะหอบแฟ้มใดหนีไปก็ตาม แต่นี่เป็นอาคารของราชการ แบบการก่อสร้างเอกสารการประมูลงาน และสัญญา ก็ยังมีอยู่ที่ สตง.หอบอะไรไปก็ไม่พ้น 

ทั้งนี้ หน้าที่ของคณะกรรมการคือการหาความจริงเบื้องต้นว่าเหตุใดตึก 30 ชั้นจึงถล่ม เพราะเป็นตึกใหม่ มีการก่อสร้างหลัง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ที่บัญญัติให้คำนึงถึงปัจจัยแรงต้านแผ่นดินไหว จะมาบอกว่าเพิ่งสร้างแล้วยังไม่เซ็ตตัวไม่ได้ จากนี้ต้องตั้งข้อสงสัยไปที่แบบก่อสร้าง แต่หากถูกต้อง ต้องพุ่งเป้าไปที่การควบคุมงาน 

ส่วนที่มีคำถามว่ากรุงเทพมหานคร (กทม.) อนุมัติสร้างตึกนี้ได้อย่างไร นายอนุทิน อธิบายว่า เป็นตึกของราชการ เพียงแจ้ง กทม.เพื่อทราบก็เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เหลือเป็นกระบวนการประมูลของหน่วยงานนั้น ๆ ส่วนผู้ก่อสร้างที่เป็นบริษัทจีนยังไม่ทราบสัดส่วนการทำงานว่ามีเท่าไหร่ เป็นการทำสัญญาแบบกิจการร่วมค้า (JV) ระหว่างไทยและจีน ซึ่งจากนี้ความรับผิดชอบก็ต้องเกิดร่วมกัน หากผู้รับเหมาไทยไม่ผิดก็ต้องไล่บี้กับผู้รับเหมาชาวจีน

ด้าน นายเอกนัฏ กล่าวว่า สาเหตุของการถล่มของตึกมีหลายสาเหตุ ต้องดูแบบก่อสร้างว่าเป็นไปตามแบบหรือไม่ ใช้สเปคตามแบบหรือไม่ และที่สำคัญวัสดุที่นำมาใช้ก่อสร้างได้มาตรฐานมีคุณภาพหรือไม่ อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งแต่งตั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้สอบสวนหาสาเหตุ และจะมีตัวแทนของกระทรวงอุตสาหกรรมเข้ามาร่วมด้วย แต่ตนอยากให้สื่อมวลชนได้เข้ามามีส่วนร่วมให้การตรวจสอบอย่างโปร่งใส

อย่างไรก็ตามยังไม่อยากพูดไปล่วงหน้าก่อนจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด ว่าเป็นเหล็กปลอมหรือไม่ แต่ก็ยอมรับว่าเห็นความผิดปกติบางส่วน เห็นว่าขนาดเหล็กเป็นอย่างไร มาจากผู้ผลิตรายใด แต่ยังไม่อยากจะเปิดเผยไปก่อน และยังไม่ตัดสาเหตุใดทิ้ง ขอตรวจสอบก่อนว่าเหล็กเป็นไปตามมาตรฐานและสเปคหรือไม่ ขอให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง และเมื่อผลตรวจออกก็จะส่งไปยังคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ

" ผมยังไม่อยากปรักปรำใคร แต่บอกได้คำเดียวว่า แค่เห็นผมก็อึ้งแล้วครับ"นายเอกนัฎ กล่าว

ทั้งนี้ถ้าพบว่าเหล็กที่มีปัญหามาจากผู้ผลิตรายใด ก็จะต้องสั่งให้โรงงานหยุดปรับปรุง ไปจนถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต มอก. และจะไม่สามารถนำเหล็กไปจำหน่ายได้ ต้องเรียกคืนเหล็กทั้งหมด และถูกดำเนินคดี

ขณะเดียวกันเมื่อถามว่า ที่บอกว่าเจอความผิดปกติ เจอกี่จุดที่รู้สึกว่าเอ๊ะ นายเอกนัฏ ย้ำว่า แค่เห็นก็อึ้งพูดไม่ได้จริงๆ เราจะรีบนำตัวเหล็กเส้นไปตรวจสอบคุณภาพ ซึ่งตอนนี้เก็บได้ 6 ประเภท แต่บางประเภทเก็บหลายตัวและเก็บหลายจุด มีประเภทหนึ่งที่เจอสามยี่ห้อ