กรุงเทพธนาคม  คาด เปิดโรงงานกำจัดขยะ มี.ค.นี้ ผลิตไฟฟ้าอ่อนนุช หลังปรับปรุงเรื่องกลิ่นรบกวนชุมชน

กรุงเทพธนาคม  คาด เปิดโรงงานกำจัดขยะ มี.ค.นี้ ผลิตไฟฟ้าอ่อนนุช หลังปรับปรุงเรื่องกลิ่นรบกวนชุมชน
กรุงเทพธนาคม หรือ  KT เตรียมขออนุญาตกลับมาเปิดโรงขยะไฟฟ้าอ่อนนุช เพื่อผลิตพลังงานขนาด 800 ตันต่อวัน ภายใน เดือน มี.ค. นี้ หลังปรับปรุงการจัดการ "กลิ่นขยะ" ยืนยันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน

บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด นำโดย ศาสตราจารย์พิเศษธงทอง จันทรางศุ ประธานกรรมการ นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้อำนวยการ และคณะกรกรมการและที่ปรึกษาของบริษัทประกอบด้วย ศาสตราจารย์พิเศษดร. กมลชัย รัตนสกาววงศ์ นายชัยวัฒน์ คลังวิจิตร นายธรรดร มลิทอง นายชวการ ลิมป์ศิระ นายศักดา พันธ์กล้า ได้เชิญสื่อมวลชน ผู้แทนชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจเยี่ยมความคืบหน้าในการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานเพื่อลดผลกระทบต่อชุมชน โรงงานกำจัดมูลฝอยชุมชนเพื่อผลิตพลังงาน ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช จากกรณีที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้สั่งให้โรงงานหยุดประกอบกิจการโรงงานตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 

นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) กล่าวว่า โรงงานกำจัดมูลฝอยชุมชน เพื่อผลิตพลังงาน ขนาด 800 ตันต่อวัน เป็นความประสงค์ของกรุงเทพมหานคร ที่มีนโยบายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการขยะมูลฝอย และลดพื้นที่ฝังกลบ โดยกรุงเทพมหานคร ได้ลงนามสัญญาว่าจ้างให้บริษัทเป็นผู้ดำเนินงาน โดยได้เริ่มก่อสร้างโรงงานเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2561 จนกระทั่งได้รับใบอนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม และกรุงเทพมหานคร ได้อนุญาตให้เริ่มเดินระบบในวันที่ 2 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นโครงการต้นแบบและนำร่องการบริหารจัดการมูลฝอยชุมชนแบบบูรณาการ ด้วยเทคโนโลยีเชิงกล-ชีวภาพ (MBT) โดยมีแผนกำจัดขยะจ๋านวน 800 ตัน ผลิตพลังงานไฟฟ้า 4 เมกะวัตต์ ผลิตขยะเชื้อเพลิง 542 ตัน และขยะรีไซเคิล ซึ่งจะส่งผลให้เหลือกากของเสียที่ต้องนำไปกำจัดน้อยที่สุด

นายธรัฐพร กล่าวต่อ ในอดีตที่ผ่านมา ได้เกิดปัญหาประสิทธิภาพในการผลิต อีกทั้งยังเกิดผลกระทบด้านกลิ่นและเสียงต่อชุมชน กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) จึงมีคำสั่งให้หยุดดำเนินกิจการ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 เพื่อทำการปรับปรุงแก้ไข ตามที่ กรอ. กำหนดเพื่อแก้ไขปัญหารบกวนชุมชนทีมบริหารปัจจุบันไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหา ด้วยการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างสูงสุด โดยไม่ให้เกิดผลกระทบต่อหมู่บ้านและชุมชน ทั้งทางด้านกลิ่นและเสียง โดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งตัวแทนหมู่บ้านและชุมชนรอบโรงงาน กรุงเทพมหานครกรมโรงงานอุตสาหกรรม คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และกรมอนามัย ได้เข้ามาร่วมกันให้คำแนะนำและแนวทางแก้ไขปัญหา

สำหรับการปรับปรุงแก้ไข ขณะนี้บริษัทได้ดำเนินการในส่วนส่วนสำคัญแล้วดังนี้

1. ทำโรงงานให้เป็นระบบปิด ด้วยการซีลโรงงานทั้งหมด ทำโรงงานให้เป็นระบบ Negative Pressureเพื่อไม่ให้กลิ่นฟุ้งกระจายออกมาภายนอก

2.ภายในโรงงานได้เพิ่มปริมาณการดูดอากาศ จาก 100,000 ลูกบาศก์เมตรตชั่วโมง เป็น 167,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง เพื่อบำบัดกลิ่นให้สะอาดก่อนปล่อยออกสู่ภายนอกโรงงาน

3. ติดตั้งประตู High Speed Shutter Door ซึ่งเป็นระบบเปิด-ปิด อัตโนมัติ บริเวณทางเข้าอาคารรับ มูลฝอยและอาคารขนถ่ายมูลฝอยเชื้อเพลิง (RDF) ควบคุมการเปิดปิดประตูเท่าที่จำเป็น ป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาภายนอก หรือออกมาให้น้อยที่สุด พร้อมทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบโรงงานจำนวน 8 ตัว เพื่อคอยตรวจสอบ และให้ชุมชนสามารถเข้ามาตรวจสอบได้

4. การบริหารจัดการเพื่อลดกลิ่น เช่น การกำจัดขยะให้หมดวันต่อวัน, การล้างพื้นอาคารรับขยะทุกวัน,การปิดคลุมรถชนส่งมูลฝอย การพ่นน้ำยาควบคุมคุมกลิ่นภายในโรงงาน เป็นต้น

5. ติดตั้งเครื่องตรวจวัดกลิ่น ด้วยเครื่อง E-Nose ทั้งในศูนย์ขยะอ่อนนุชและหมู่บ้าน จัดหาเครื่องตรวจวัดกลิ่นแบบพกพาที่ได้มาตรฐาน เพื่อลงพื้นที่ตรวจวัดปริมาณกลิ่นทั้งภายในและภายนอกโรงงาน ในชุมชนรอบโครงการ พร้อมทั้งลงพื้นที่สำรวจหมู่บ้านและชุมชน

นายธรัฐพร กล่าวต่อ ภายหลังจากที่บริษัทได้ดำเนินการปรับปรุงโรงงานอย่างเต็มที่ ขณะนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้อนุญาตให้เริ่มมีการทดสอบเดินระบบต่างๆแล้ว และจากผลการผลดำเนินการ บริษัทมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า สามารถดำเนินกิจกรรมของโรงงานได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อหมู่บ้านและชุมชน ซึ่งบริษัทมีความตั้งใจที่จะทำให้ปัญหากลิ่นไม่พึงประสงศ์ให้หมดไปและจะยึดเป็นแนวทางปฏิบัติ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้โรงงานอยู่ร่วมกับชุมชุมชนใต้อย่างยั่งยืน

สุดท้ายนี้ บริษัทมีความคาดหวังว่า จะขออนุญาตกลับมาเปิดโรงงานในเชิงพาณิชย์ ได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ และจะเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการโรงงานกำจัดมูลฝอยของศูนย์อ่อนนุชต่อไป จากนั้นจึงจะเร่งดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้เป็นไปตามแผน

ทั้งนี้ บริษัทต้องขอขอบคุณ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สำนักสิ่งแวดล้อมกรุงเทพมหานคร กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมอนามัย คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ตลอดจนชุมชนและหมู่บ้านรอบโครงการ ที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อสังคมและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

TAGS: #กรุงเทพธนาคม #โรงงานกำจัดขยะ #โรงขยะอ่อนนุช