Salvator Mundi ของ Leonardo da Vinci ผลงานศิลปะที่เคยสูญหายไปกว่าร้อยปี กลับมาพร้อมปริศนา ข้อถกเถียง และคุณค่าที่ไม่อาจประเมินค่าได้
บนโลกนี้มีหลายสิ่งที่หายสาปสูญและกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งเมื่อถูกค้นพบ เช่นเดียวกับภาพวาด “ซัลวาตอร์ มุนดี” (Salvator Mundi) หรือ พระผู้ช่วยให้รอดของโลก ที่สูญหายไปกว่าร้อยปี ก่อนจะกลับมาอีกครั้งพร้อมประเด็นการถกเถียงว่า สิ่งที่ค้นพบเป็นของแท้หรือไม่ แต่ที่มากไปกว่านั้นคือสถิติราคาประมูลที่สูงลิ่วจนทำลายทุกสถิติที่เคยมีมา
ผลงานชิ้นนี้เป็นภาพวาดจากลายฝีมือของ Leonardo da Vinci จิตรกรชาวอิตาลีแห่งยุค หลายคนรู้จักเขาจากผลงานที่ได้รับความนิยมและมีอิทธิพลกว้างขวาง อย่างภาพ “โมนาลิซ่า” โดยผลงาน ซัลวาตอร์ มุนดี เป็นหนึ่งในผลงานของเขาที่เรียกได้ว่า หายากที่สุด และยังเป็นผลงานเพียงไม่กี่ชิ้นที่ยังอยู่รอด พร้อมกับสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนมาจนถึงทุกวันนี้
แต่ภาพวาดจากศิลปินแห่งประวัติศาสตร์ชิ้นนี้ มีความซับซ้อนมากมาย เพราะหลังถูกค้นพบอีกครั้ง กลับเกิดคำถามว่า นี่คือผลงานของเขาอย่างแท้จริงหรือไม่ เพราะมีนักประวัติศาสตร์ศิลป์หลายคนที่ออกมาวิเคราะห์ภาพนี้ โดยเฉพาะในเชิงเทคนิค และรายละเอียดบนภาพที่เชื่อว่า อาจมีความคิดและฝีมือของ Leonardo da Vinci เพียงบางส่วนเท่านั้น หรือภาพนี้อาจไม่เคยผ่านมือเขามาเลยแม้แต่น้อย
ในขณะที่อีกฝั่งของการวิเคราะห์กลับเห็นพ้องไปในทางเดียวกันว่า เทคนิคการวาดภาพนั้นใกล้เคียงกับ โมนาลิซ่า จึงทำให้เชื่อได้ว่า เลโอนาร์โดเป็นผู้สร้างผลงานนี้อย่างชัดเจน
เรื่องราวบนภาพที่เต็มไปด้วยข้อถกเถียง แต่มีเพียงความหมายเดียวที่สื่อสารไปยังผู้ที่ได้จ้องมองผลงานชิ้นนี้ นั่นคือ “พระผู้ปกครองโลก” ที่ถูกถ่ายทอดโดยการวาดพระเยซูคริสต์ที่มื่อด้านขวายกขึ้น คล้ายท่าประทานพร และมือข้างซ้ายถือลูกโลกแก้วใส โดยทั้งหมดถูกวาดด้วยเทคนิค น้ำมันบนไม้ หรือ Oil on walnut panel ให้ความรู้สึกถึงความงามของสีที่ปรากฎบนลายไม้ธรรมชาติ และเกิดความมันวาวที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกหรูหราไปในเวลาเดียวกัน
เชื่อกันว่า ภาพวาดนี้สร้างสรรค์เสร็จราวปี 1500 เพื่อถวายแด่พระเจ้าหลุยส์ที่ 12 แห่งฝรั่งเศส ก่อนสูญหายไปในช่วงปี 1763 และได้ถูกตกทอดอยู่ในการครอบครองของหลายบุคคลสำคัญที่เคยปรากฏชื่อ ได้แก่ เจมส์ แฮมิลตัน ดยุกที่ 1 แห่งแฮมิลตัน, พระเจ้าเจมส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ ก่อนจะมาถึงยุค จอห์น เชฟฟิลด์ ดยุกแห่งบักกิงแฮมและนอร์ม็องดี
ต่อมาในปี 1900 ภาพวาดนี้ถูกซื้อไปโดยนักสะสมที่ชื่อ “ฟรานซิส คุก ไวเคานต์” ก่อนจะมีการนำออกมาประมูลในปี 2017 ที่งาน Christie’s Newyork โดยเจ้าชายบัดร์ บิน อับดุลลอฮ์ ในนามของกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอาบูดาบี ถูกประมูลไปในราคา 450.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนั่นก็ทำให้ Salvator Mundi เป็นภาพวาดที่มีราคาประมูลสูงที่สุดในโลก
แม้จะมีแผนจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์อาบูดาบี แต่ต่อมาถูกยกเลิก และปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าภาพถูกเก็บรักษาไว้ที่ไหน
ผ่านเวลาไปกว่า 500 ปี หลังการสร้างสรรค์ Salvator Mundi ผลงานที่ยังคงสะกดใจผู้ชมได้จนถึงวันนี้ ด้วยความงาม ความซับซ้อนของที่มา และการกลับมาที่สร้างมูลค่าในลานประมูลได้อย่างน่าทึ่ง แต่ไม่ว่าความตอบสุดท้ายจะเป็นอย่างไร ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ศิลปะของ Leonardo da Vinci ไม่เคยหายสาปสูญไปจากโลกของศิลปะได้อย่างแท้จริง
SOURCE :
https://www.mos.org/leonardo/index.html
https://www.britannica.com/topic/Salvator-Mundi-by-da-Vinci
https://www.christies.com/lot/lot-leonardo-da-vinci-1452-1519-salvator-mundi-6110563/
https://salvatormundirevisited.com/History-of-the-Salvator-Mundi