Free Jazz ตอกย้ำความอิสระทางดนตรี ทลายกรอบแจ๊สดั้งเดิม ปล่อยอารมณ์และความสร้างสรรค์เป็นตัวสื่อสารโดยไม่จำกัดกรอบ
เสียงดนตรี Jazz เต็มไปด้วยหลากหลายความรู้สึกที่ทำให้ผู้ฟังมีชีวิตชีวา เปิดพื้นที่ให้ผู้เล่นได้ใส่จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์เข้าไปในทุกตัวโน๊ต แต่ยังคงบรรเลงอยู่ภายใต้แบบแผนที่ถูกกำหนดขึ้นอย่างชัดเจน แต่เมื่อ Free Jazz ได้ถือกำเนิดขึ้น กลายเป็นการเปิดพื้นที่แห่งอิสระทางดนตรีมากขึ้นให้กับทั้งผู้เล่นและผู้ฟัง
แรกเริ่ม Jazz แบบดั้งเดิมเกิดขึ้นในยุคปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 เป็นดนตรีที่มีแนวทางชัดเจน ทั้งในเรื่องของโครงสร้างเพลงที่ระบุเป็นมาตรฐานช่วยให้นักดนตรีเล่นไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงคอร์ดชุดมาตรฐาน ที่ทำหน้าที่เป็นกรอบสำหรับการเล่น เมโลดี้หรือโซโล่ต้องเล่นให้สอดคล้องกับคอร์ดเพื่อให้เสียงเข้ากัน เพลงมีจังหวะชัดเจน และนักดนตรีต้องเล่นให้เข้าจังหวะ ไม่ออกนอกเวลาที่กำหนด
ราวต้นทศวรรษที่ 1960 แนวดนตรี Free Jazz ได้ถูกบรรเลงเป็นครั้งแรกให้ผู้ฟังได้สัมผัสเสียงดนตรีที่เต็มไปด้วยอิสระทางความคิด เป็นดนตรีที่พยายามทลายกฎเกณฑ์แบบเดิมๆ กลายเป็นการด้นสดที่มีเสน่ห์ มีทั้งแบบเล่นเดี่ยวหรือกลุ่มคนเล็กๆ ที่ใช้วิธีมาเล่นร่วมกัน แต่ก็ยังคงมีแบบกลุ่มอิสระที่เล่นอยู่บ้าง
ต้นกำเนิดของ Free Jazz ถูกเล่าต่อกันมาว่า ในปี 1959 มีนักแซ็กโซโฟนที่ชื่อ Ornette Coleman ได้เดินเข้าไปในผับแห่งหนึ่ง และได้ปล่อยอารมณ์อย่างอิสระด้วยแซ็กโซโฟนของเขาโดยไม่ได้นึกถึงแบบแผนแต่อย่างใด และเขาก็ได้นิยามดนตรีที่เล่นในขณะนั้นว่า Free Jazz พร้อมกับออกอัลบั้มในชื่อเดียวกันตามมาในปี 1960
จนไปถึงช่วงพีคของดนตรีแนวนี้ ในช่วงต้นทศวรรษ 1970 ได้รับความสนใจจากผู้คนอย่างกว้างขวางจนกลายเป็นดนตรีกระแสหลักไปช่วงเวลาหนึ่ง โดยเฉพาะในแถบอเมริกาและยุโรป เนื่องด้วยกระแสสังคมในตอนนั้น อย่าง “Civil Rights Movement” และการแสวงหาเสรีภาพทางสังคมและศิลปะ แต่หลังจากยุคนั้นได้ผ่านพ้นไป มี Jazz แนวใหม่เกิดขึ้น และได้เข้ามามีอิทธิพลแทนที่
ความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดของ Free Jazz คือไม่มีโครงสร้างตายตัว ไม่ยึดกับชุดคอร์ดมาตรฐานที่กำหนดให้ผู้เล่นต้องเล่นเหมือนกัน เรียกว่าทุกโน้ตเป็นอิสระ จังหวะก็ไม่ตายตัว กลองและเบสไม่ได้มีไว้เพื่อคุมจังหวะ เพียงแต่สร้างบรรยากาศให้สนุกมากขึ้นเท่านั้น และนักดนตรีก็สามารถเล่นได้ตามอารมณ์หรือแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นในขณะนั้น
หากพูดถึงนักดนตรีที่มีชื่อเสียงแน่นอนว่า คนแรกต้องเป็น Ornette Coleman นักแซ็กโซโฟน ผู้บุกเบิกดนตรีแนวนี้ โดยเขามีผลงานเด่น อย่าง Free Jazz: A Collective Improvisation ปี 1961, John Coltrane นักแซ็กโซโฟนที่มีผลงานเด่น อย่าง Ascension (1965), Cecil Taylor นักเปียโน มีการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ เน้นการตีคีย์แบบรุนแรงและมีความซับซ้อนในโน้ต
แม้จะมีแนวดนตรีเกิดขึ้นมากมาย แต่แจ๊สยุคอิสระนี้ก็ยังไม่ได้หายไป ยังคงมีการเล่นและฟังกันแบบเฉพาะกลุ่ม และมันยังเป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่า ดนตรีคือเสรีและอิสระภาพอย่างแท้จริง