ผมสวยสุขภาพดี ไม่ได้มาจากของแพงเสมอไป แต่อยู่ที่การเข้าใจธรรมชาติของเส้นผม และการดูแลจากสิ่งง่ายๆ รอบตัว
การมีผมสวยสุขภาพดีไม่ใช่เพียงเรื่องของความสวยงาม แต่ยังสะท้อนถึงการดูแลใส่ใจสุขภาพร่างกายของตัวเองที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น แต่อย่าเข้าใจว่า ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ราคาแพง หรือสมัครคอร์สคลินิกเสริมสวยเท่านั้น เพราะแท้จริงแล้ว การดูแลผมอย่างถูกวิธีสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยสิ่งของใกล้ตัวที่เราพบเจอได้ในทุกวัน
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า เส้นผมของเราประกอบด้วย เคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนหลัก และมีน้ำมัน ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติจากหนังศีรษะที่ช่วยปกป้องผม หากผมขาดน้ำมันหรือถูกทำร้ายจากความร้อน เคมี หรือแสงแดด ผมจะเสียและแตกปลาย ดังนั้นการเข้าใจธรรมชาติของเส้นผม จะช่วยให้เราเลือกวิธีดูแลที่เหมาะสมได้
เริ่มจาก “การสระผม” ที่แม้จะดูเป็นขั้นตอนง่ายๆ แต่ถือว่าค่อนข้างสำคัญ อย่างการเลือกใช้อุณหภูมิของน้ำ ควรใช้น้ำอุ่นที่พอดี แทนการใช้น้ำร้อนจัด เพื่อลดการสูญเสียน้ำมันของเส้นผม รวมถึงการเลือกแชมพูก็เป็นปัจจัยสำคัญ ควรเลือกสูตรที่อ่อนโยนต่อสภาพเส้นผม เช่น ผู้ที่ผมแห้งควรใช้สูตรชุ่มชื้น ผู้ที่ผมมันควรใช้สูตรบาลานซ์ ที่มีค่า PH สมดุลกับหนังศีรษะและเส้นผม
หลายคนเลือกที่จะสระผมบ่อยขึ้น เพราะเข้าใจว่า จะช่วยลดความมันของเส้นผมลงได้ ชุดความคิดนี้เป็นสิ่งที่หลายคนเข้าใจผิด เพราะการสระวันละหลายครั้งอาจยิ่งที่ให้น้ำมันธรรมชาติจากผมหมดเร็วขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมแห้งและอ่อนแอมากกว่าเดิม
แต่หากอยากให้สุขภาพดีแบบล้ำลึกยิ่งขึ้น ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมที่ส่วนผสมที่ตรงกับสรรพคุณ อย่างการใช้ “น้ำมันมะพร้าว” ที่เต็มไปด้วยกรดไขมันและวิตามิน E ซึมเข้าสู่เส้นผมได้ดี ช่วยลดการขาดและแตกปลายของเส้นผม “น้ำผึ้ง” ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะช่วยให้ความชุ่มชื้นและช่วยต้านอนุมูลอิสระ หรือ “อะโวคาโด” ที่มีวิตามินและไขมันดี ช่วยซ่อมแซมผมเสียจากการทำสีหรือความร้อนได้
ไม่เพียงแต่การดูแลภายนอกที่จะทำให้ผมดูสุขภาพดีได้ แต่การดูแลจากภายในก็ไม่ควรละเลย อย่างการเลือกรับประทานอาหาร ควรเลือกอาหารที่มีโปรตีนสูง, วิตามิน B, Biotin, Omega-3 ดื่มน้ำให้เพียงพอในปริมาณที่ร่างกายต้องการ การพักผ่อนและการนอนหลับให้มีคุณภาพ รวมถึงการคลายความเครียดที่จะช่วยลดอาการผมร่วงและอ่อนแอได้
นอกจากนี้ ยังมีเคล็ดลับเล็กๆ ที่มีพลังของผลลัพธ์อย่างเห็นได้ชัด อย่างการใช้ปลอกหมอนผ้าไหมหรือซาติน ช่วยลดแรงเสียดสีระหว่างผมกับหมอน และที่เชื่อว่า หลายคนน่าจะเคยทำ คือ การตัดปลายผมทุก 6-8 สัปดาห์ เพื่อลดการแตกปลายและรักษารูปทรงผมให้ยาวนานยิ่งขึ้น
ผมสุขภาพดีไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพียงแค่เริ่มต้นจากของใกล้ตัว ด้วยการสระผมอย่างถูกวิธี บำรุงด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ และดูแลร่างกายจากภายใน จะทำให้ผมมีสุขภาพดี เงางาม และแข็งแรงตามธรรมชาติ หากทำได้จะส่งผลให้ผมสวยงามอยู่กับเราได้นานยิ่งขึ้น
SOURCE :
https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC8138261/#:~:text=